คุยเรื่องภพภูมิในบางแง่มุม


แต่ละภพภูมิเปรียบเหมือนประเทศประเทศหนึ่ง ถ้าเราจะเดินทางไปท่องเที่ยวแต่ละประเทศในปัจจุบันเราก็ใช้เครื่องบิน แต่ถ้าเราจะเดินทางระหว่างภพภูมิ จะมีพาหนะสำคัญคือ จิต

   ได้ฟัง อาจารย์วรากร  โรวา  บรรยายเรื่องภพภูมิ  รู้สึกชื่นชมท่านที่ใช้สื่อประกอบการบรรยายได้ดีมาก ทำให้เข้าใจและเห็นภาพชัดเจน  นึกถึงคุณครูที่สอนนักเรียน ถ้าได้เห็นเทคนิคการสอนของอาจารย์วรากร  น่าจะเกิดแนวคิดในการปรับปรุงการเรียนการสอนของตนได้ทีเดียว   
     อาจารย์วรากร บอกว่า  ภพภูมิมีทั้งหมด 31 ภพภูมิ  แต่ถ้าจำแนกเป็นกลุ่มใหญ่ๆก็มี  กามาวจร (11 ชั้น)  รูปาวจร (16 ชั้น) อรูปาวจร (4ชั้น) 
     ถ้าแยกให้เห็นชัดเจนก็คือ กลุ่มบนสุดมี 2 ภพภูมิ คือ 1.อรูปพรหม  และรูปพรหม (รวมเทวดา และมนุษย์ด้วย)  ส่วนกลุ่มล่างมี 4 ภพภูมิ คือ 3.เดรัจฉาน  4.เปรต  5.อสุรกาย  และ 6.สัตว์นรก (เรียงตามลำดับ)
    อาจารย์วรากรเปรียบเทียบว่า  แต่ละภพภูมิเปรียบเหมือนประเทศประเทศหนึ่ง  ถ้าเราจะเดินทางไปท่องเที่ยวแต่ละประเทศในปัจจุบันเราก็ใช้เครื่องบิน  แต่ถ้าเราจะเดินทางระหว่างภพภูมิ จะมีพาหนะสำคัญคือ จิต เช่น 
     คนที่ชอบโกรธ(จิต) จะเสี่ยงต่อการเดินทางไปอยู่ภพภูมิ  เปรต  อสุรกาย หรือสัตว์นรก
     คนขี้งก  ขี้โกง  ขี้ขโมย  จะได้ไปอยู่ภพของเปรต
     คนที่กินเหล้า หรือเสพยาเสพติด  จะได้ไปอยู่ภพเดรัจฉาน
     คนที่มีความรู้สึกดีดี  ไม่อยากทำบาป  ทำบุญให้ทานบ่อยๆ จะได้ไปอยู่ภพเทวดา 
     คนที่ภาวนาจนใจสงบ จะได้ไปอยู่ในภพรูปพรหมและอรูปพรหม  เป็นต้น
   สรุปแล้ว  เมื่อไหร่สบายใจ  ใจดี  ได้ขึ้นสวรรค์  เมื่อไหร่ไม่สบายใจ  ใจไม่ดีได้ไปนรก 
    ใจจึงสำคัญที่สุด  คนมีกายอย่างเดียวไม่มีใจ เรียกว่า ศพ  
   การจะไปอยู่ภพใด  เราเลือกได้ 
    อยากเป็นมนุษย์ก็ต้องมีศีล 5 (แสดงว่าในอดีตเราทุกคนมีศีล 5 จึงมาเกิดเป็นมนุษย์)  แต่คนที่เบียดเบียนชีวิตสัตว์อาจเกิดเป็นมนุษย์ได้ แต่สุขภาพจะไม่ดี 
    ถ้าอยากเกิดเป็นมนุษย์ที่ร่ำรวยด้วย  นอกจากจะมีศีล 5 แล้ว  ยังต้องหมั่นให้ทานด้วย  ซึ่งทานมีหลายอย่าง(ไม่ใช่เงินอย่างเดียว) เช่น การทำด้วยกาย  ทำด้วยวาจา  การทำด้วยใจ  การให้ธรรมะ (การให้ธรรมะถือเป็นทานสูงกว่าทานใดใด)  และทานที่มีอานิสงส์มากนั้นต้องเป็นทานที่ให้ด้วยความยินดีที่จะให้ ไม่หวังผลตอบแทน  ผู้ที่ชอบทำบุญมากๆแต่ไม่รักษาศีล เช่นไปทอดผ้าป่าหลายวัดแต่ชอบดื่มเหล้า  จะได้ไปเกิดเป็นสุนัขที่มีสกุล
     อยากเกิดเป็นเทวดา  ต้องมีทั้ง ศีล  ทาน  และหิริโอตตัปปะ  อยากไปเกิดในรูปพรหม  นอกจากมีข้างต้นแล้วยังต้องมีพรหมวิหาร 4 ด้วย  อยากอยู่ในอรูปพรหม ต้องภาวนาจนถึงชั้นสูง
     มนุษย์เราเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏมานานแล้ว  ถ้าอยากตัดภพตัดชาติก็ต้องหาวิธีหลุดพ้น 
พระพุทธเจ้าท่านพบวิธีหลุดพ้นด้วยอริยสัจ4  ตัดภพตัดชาติได้เป็นพระองค์แรก   
   

หมายเลขบันทึก: 225411เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2008 15:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

เคยได้ไปอบรมที่คุณวรากร ไรวาได้อธิบายการสร้างภพภูมิของเราในชาติต่อไป..แล้วก็เห็นด้วยมากๆ..ว่า..สิ่งที่เราเป็นในปัจจุบัน..ล้วนเหมือนเราได้สร้างพิมพ์เขียว..สำหรับโลกหลังความตายไว้แล้ว..

เพราะฉะนั้นอย่าประมาทในการดำเนินชีวิต..จริงๆค่ะ..

ชอบบันทึกนี้นะคะ..ขอบคุณมากๆค่ะ..^^

"เดินตามรอยบาทพระศาสดา   เรียนรู้ธรรมมาปฏิบัติขัดเกลาจิตใจ

ละชั่วทำดีมีจิตบริสุทธิ์ผ่องใส   ทานศีลภาวนาทำได้เดินไปให้ถึงนิพพาน .... "

(ขอแนะนำเว็บธรรมะ www.be5000.com มีเพลงนี้อยู่ด้วย โหลดไปฟังและเผยแพร่ได้เลย)

สวัสดีค่ะอาจารย์

  • ขอเรียนให้อาจารย์ทราบว่า  ดิฉันได้รับหนังสือ KM เล่มเล็กของอาจารย์และค่ะ  ได้ถ่ายเอกสารแจกกันทั้งโรงเรียนเลยค่ะ  ดิฉัน เพื่อครูและผู้อำนวยการโรงเรียน  ขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงค่ะ
  • อ่านเรื่องนี้..เลือกเกิดไม่ได้ เลือกอยู่และเลือกตายได้นะคะ
  • ค่ะอาจารย์..ใจจึงสำคัญที่สุด  คนมีกายอย่างเดียวไม่มีใจ เรียกว่า ศพ

ภพก็คือกาย ภูมิ ก็คือใจ ภพภูมิ ก็คือ กาย-ใจ เปรียบกับเมล็ดมะม่วง ข้างในคือใจ เนื้อข้างนอกคือกาย ถ้าเมล็ดมะม่วงไม่เน่าก็งอกได้ เมล็ดมะม่วงงอกได้ที่ดิน แต่จิตวิญญาณจะงอกได้ด้วยกรรม ขึ้นอยู่กับกรรมของแต่ละคน

นิพพานแล้วน่าจะอยู่ส่วนไหนครับ หากเราไม่ได้จัดให้อยู่ในส่วนดังกล่าว เพราะไปนิพพานแล้วไม่ต้องมาเวียนไหว้ตายเกิดอีกต่อไป

อยากถามคุณธเนศ ด้วยค่ะ

ว่าคนเราตายแล้วไปไหน เพราะตอนนี้ก็ยังกลัวๆอยู่มากๆ เพราะยายเสียค่ะ

และเป็นคนที่มีเซ้นต์สัมผัสได้ กลัวค่ะ ตอบในอีเมลที่ส่งมาด้วยนะคะ

หรือท่านใดจะตอบช่วยก็ได้ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท