เรื่องเล่าเทา-งาม ครั้งที่ 12 (ภาค อวสาน)


"หยาดน้ำตาของความผูกพันแบบผองเพื่อนได้ถูกตราตรึงไว้"

เรื่องเล่าเทา-งาม

(ภาค  อวสาน)

 

          บ้านป่าไร่  ตลอดทั้งสามคืนที่เราอยู่ร่วมกัน  ความผูกพันและความร่วมมือกันระหว่างพี่น้อง ห้าเทา ในการทำกิจกรรมต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นภาคกลางวัน ที่เราร่วมกันสร้าง  ภาคกลางคืนที่เราร่วมกันแสดงและเล่น  รอยยิ้ม  เสียงหัวเราะ  สามารถก่อสายใยของความสมัครรักใคร่กัน ประหนึ่งเราอยู่ร่วมกันมานานนับปีได้ หลายๆคนจากที่ดูแค่หน้าตาแล้วเหมือนไม่เคยเป็นมิตรเมื่อแรกเจอ แต่เมื่อได้มีโอกาสสัมผัสเข้าจริงๆ นั่นคือ ความน่ารักและเสน่ห์ในตัวเขา

        ทุกกิจกรรมที่เราทั้งห้ามหาวิทยาลัยได้ทำร่วมกัน  ไม่ว่าการสร้างสนามเปตอง ที่ฝ่ายกีฬารังสรรค์ขึ้นให้ผมและผองเพื่อนได้สร้างความสัมพันธ์ ให้เรารู้จักกันมากขึ้น ซ้ำยังเรียกเสียงฮากันตลอดจนลืมเหนื่อยไปเลย อันนี้ไม่ได้นับรวม การจัดการแข่งขันกีฬาสีในวันที่ 23 ต.ค. ที่มวลสมาชิกสีตกลงปลงใจยกตำแหน่งประธานสีให้เราบริหาร แบบตาม สไตส์ คุยกันน้อยแต่ร่วมมือกันมาก (อันนี้พูดให้ดูดี) ในกลุ่มความร่วมมือของ สีเหลืองจงเจริญ (คำว่า จงเจริญ กลายเป็นคำฮิตประจำค่ายต่อมา จนเลื่อนเป็นสโลแกนค่ายในที่สุด ) 

        เมื่อก่อนการแข่งขันในวันนั้นจะเริ่มขึ้น ผมเองกับท่านสาดตาจาน ลุกมาสรรสร้างสนามฟุตบอล (แบบฟีฟ่า) กันตั้งแต่ตะวันยังโผล่ไม่เต็มดวงเลย  ก็ตั้งใจจะใช้เป็นสนามแข่งขันนั่นแหล่ะ!  แต่ที่ไหนได้พอใกล้ถึงเวลา เจ้าภาพกีฬา ( ม.นเรศวร) มาบอกเราว่ามันแดดต้องเปลี่ยนใหม่ เอากันไปโน่น เราเลยต้องลงแรงทำสนามใหม่อีกครั้ง งานนี้เพื่อนๆทุกมหาลัยมาช่วยกันเต็มที่ ก็ไม่อยากเอาเองนี่ เลยกลายเป็นว่าเราต้องตัดหญ้ากันทั้งสนามจนเกลี้ยงทีเดียว อันนี้ก็แค่ขำๆ

        ความจริงแล้วขอเล่าเฉพาะฝ่ายกีฬานะ  เพราะว่าเราได้รับผิดชอบส่วนนี้  หากแต่ว่าก็กระโดดไปขุดต้นกล้วยช่วย ฝ่ายบำเพ็ญประโยชน์  จนได้กิน บักสีดาร่วมสาบาน กับเจ้านางน้อย

บี ลูกสาวพระนเรศ (อันนี้ตั้งฉายาให้เองเพราะเขาอยู่ ม.นเรศวร และเรียบร้อยมากๆ) และผองเพื่อนคนอื่นๆอีกหลายต่อหลายคน  ซ้ำยังตอนเย็นของทุกวันก็กระโดดไปขึ้นเวทีเป็นพิธีกร ให้ชาวบ้านนั่งหัวเราะกันเล่นๆอีก คู่กับน้าสิงดาวบ้าง  ท่านสาดตาจานบ้าง    ซึ่งจำได้ว่าได้ทิปมา 40 บาทแหน่ะ! (เขาจ้างหยุดมั้ง!)

        โชคดีอีกขั้นที่เราได้ไปร่วมงาน กับ ทางตำบลป่าไร่ในการฉลอง 116 วัน จากวันแม่-วันพ่อ งานนี้ระดับจังหวัด แต่เป็นงานตำบล ทุกๆมหาวิทยาลัยเตรียมการแสดงไปโชว์กันอย่างเต็มที่  เราเองก็ไม่พลาดที่จะ จับไมล์ เหมือนเดิม อีกแล้ว

        ก่อนที่ทุกกิจกรรมจะมาสิ้นสุดลงที่การเลี้ยงส่งให้กับ สามมหาวิทยาลัย  คือ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ  มหาวิทยาลัยนเรศวรและมหาวิทยาลัยทักษิณ   ที่จะต้องเดินทางกลับก่อน ด้วยการกินเนื้อย่างร่วมกันที่อรัญประเทศนั้น เจ้าภาพบูรพา ส่งเราบุกปราสาทสด๊กก๊อกทม  ซึ่งที่นั่นผมกับสาดตาจานได้เปิดกล้องรายการ เที่ยวไปบ่นไป กับผู้ร่วมรายการจากทุกๆมหาวิยาลัย  เนื้อหาของรายการมุ่งเน้นไปที่บรรยากาศและความรู้สึกในการร่วมค่ายและการได้มาที่นี่  แล้วก็ต่อกันด้วยการเอาไปปล่อยลงที่ตลาดโรงเกลือ  ทั้ง Buddy และ Budder ของเราเองต่างซื้อของมาเทคแคร์เราเต็มที่ แต่ทว่าเราล่ะ!!  ไม่เคยมี อีกแล้วครับท่าน.....อิอิ

        แล้ววันนั้น ณ  การกินเลี้ยง บรรยากาศของการล่ำลาอาลัยก็บังเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ  หยาดน้ำตาของความผูกพันแบบผองเพื่อนได้ถูกตราตรึงไว้ในห้วงเวลานั้นอีกครั้งหนึ่ง  วินาทีแห่งการลาจากได้ถูกจดจำและหวนหาอีกครั้งด้วยความอาลัย ก่อนที่รถบัสจะวิ่งจากพวกเราไปทีละคัน  คงไว้เฉพาะ  ม.บูรพา เจ้าภาพกับ ม.สารคามเท่านั้นที่กลับมาจัดเวทีเสวนาต่อกันจนสว่าง

        แล้วบรรยากาศของการล่ำลาก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อรุ่งเช้า คราวนี้ ทั้งบทเพลงผสานกับเสียงโทรศัพท์จากผองเพื่อนผู้ล่วงกลับไปก่อนนั้นผสมผสานกันเข้ายิ่งสร้างความห่วงหามากยิ่งขึ้น  นับเป็นครั้งแรกที่ผมเองได้มีโอกาสเห็นท่าน ผอ.เกื้อกูล น้ำตาคลอเบ้า  แต่นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ พี่นุ้ย เสียน้ำตาและคงต้องรวมถึงบอสสหญิง (พี่เจี๊ยบ เยาวภา) ของเราด้วย แต่บอสสชายเรายังคงหนักแน่นและขรึมเคร่งประดุจดั่งพระยาราชสีห์อยู่เหมือนเดิม

               

                มวลมิตร    ผู้ร่วม                ผู้สร้าง

                ตามทาง    ผู้แสวง      หามิตรใหม่

                ตามวิถี      ปัญญาชน  มหาลัย

                จึงได้         พานพบ     เห็นกัน

 

                        เทา-งาม            งามจิต      งามใจ

                        งามใน               มิตรภาพ    เธอฉัน

                        ต่างทิศ              ภูมิภาค      ต่างกัน

                        ความสัมพันธ์      ฉันเพื่อน    ยังหนึ่งเดียว

..................................................

หมายเลขบันทึก: 225372เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2008 13:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

แวะมาทักทาย...สบายดีบ่น้อ ทางนี้ร่อแร่แล้วครับ

บรรยายแบบเห็นบรรยากาศเลยท่าน

หวังว่าคงมีโอกาสได้เข้าร่วมอีกนะ

คงได้ร่วมกิจกรรมที่ดีๆ แบบนี้กับเพื่อนทุกคน

จงเจริญ....

ถึงแม้ว่าเทา-งาม ครั้งนี้ มหาวิทยาลัยบูรพา  จะเป็นเจ้าภาพ แต่ว่า เราก็ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน  มีอะไรช่วยได้ก็ช่วยกัน  ทาง มมส จึงเตรียมคน ไปเพื่อศึกษาดูงาน และช่วยงานในหลาย ๆ ส่วนด้วย เช่น  สื่อข่าวสารประจำวัน  จดหมายข่าว  รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ทำให้เราได้รู้ซึ้งมิตรภาพอย่างแท้จริง  ว่า  โครงการเทา-งาม สัมพันธ์  ไม่ใช่โครงการที่แก่งแย่ง  แข่งขัน ในด้านใด ๆ เลย  แต่มันคือ  โครงการแห่งมิตรภาพ จริง  ๆ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท