วิสัยทัศน์และแนวคิดในการพัฒนาบัณฑิตวิทยาลัย (2551-2565)
"องค์กรหลักในการบริหารจัดการบัณฑิตศึกษาที่เป็นเลิศและกลไกสำคัญของการเป็นมหาวิทยาลัยวิจัย"
เนื้อหา
1. บัณฑิตวิทยาลัยในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
2. วิสัยทัศน์ร่วม
3. บัณฑิตวิทยาลัยกับมหาวิทยาลัยวิจัย
4. บัณฑิตวิทยาลัยกับสถาบันบริหารการวิจัยและพัฒนา
5. บัณฑิตวิทยาลัยกับการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรี
6. บัณฑิตวิทยาลัยกับภาคีและเครือข่าย (อ่านได้ในบันทึกถัดไป)
7. ความสอดคล้องกับแผนของมหาวิทยาลัย (อ่านได้ในบันทึกถัดไป)
8. ปัจจัยสู่ความสำเร็จ (อ่านได้ในบันทึกถัดไป)
9. เป้าหมายเชิงยุทธวิธี (อ่านได้ในบันทึกถัดไป)
เอกสารแจกเพื่อแสดงความคิดเห็นในการปรับโครงสร้างบัณฑิตศึกษาและการวิจัยของมหาวิทยาลัยนเรศวร
ในที่ประชุมประชาคมบัณฑิตวิทยาลัย เพื่อจัดทำ “แผนยุทธศาสตร์ 15 ปี” วันที่ 20 พฤศจิกายน 2551
ในที่ประชุมคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างบัณฑิตวิทยาลัย ครั้งที่ 3/2551 วันที่ 26 พฤศจิกายน 2551
ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย ครั้งที่ 19/2551 วันที่ 3 ธันวาคม 2551
และในที่ประชุมคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 140 (1/2552) วันที่ 10 มกราคม 2552
โดย ผศ.ดร.วิบูลย์ วัฒนาธร
รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและประกันคุณภาพ
รักษาการในตำแหน่งคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยนเรศวร
(ฉบับวันที่ 20 พฤศจิกายน 2551)
...................................................................................................................
GS 2565 : (1) บัณฑิตวิทยาลัยในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
บัณฑิตวิทยาลัย (Graduate School, GS) เป็นหน่วยงานหลักเก่าแก่ที่จัดตั้งขึ้นมาพร้อม ๆ กับการสถาปนามหาวิทยาลัยนเรศวรในปี พ.ศ. 2533 และที่ผ่านมาก็ได้แสดงบทบาทหน้าที่ของตัวเองด้วยดีมาโดยตลอด จนกระทั่งปลายปี 2546 เมื่อสภามหาวิทยาลัยได้มอบนโยบายเชิงเป้าหมายให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยพัฒนามหาวิทยาลัยนเรศวรเป็น “มหาวิทยาลัยวิจัย ภายในปี 2549” ก็มีเสียงเรียกร้องให้บัณฑิตวิทยาลัยช่วยปรับบทบาทหน้าที่ของตนเองให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนามหาวิทยาลัยดังขึ้นเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กันในช่วงเวลานั้นก็มีเสียงเรียกร้องให้มีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามศูนย์วิทยบริการที่บัณฑิตวิทยาลัยรับผิดชอบ (รวม 9 ศูนย์) ก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีสัญญาณที่สำคัญคือจำนวนผู้เรียนตามศูนย์วิทยบริการต่าง ๆ เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง และผลการประเมินของมหาวิทยาลัยในด้านการเรียนการสอนในช่วงเวลานั้นก็ออกมาไม่ดีนัก ทั้งหมดนี้เป็นเหตุให้มีมติจากสภามหาวิทยาลัยเมื่อปลายปี 2549 ให้บัณฑิตวิทยาลัยยุติการรับนิสิตที่จะเข้ามาเรียนทั้ง 9 ศูนย์และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อปรับโครงสร้างบัณฑิตวิทยาลัยให้สามารถทำหน้าที่ให้ดีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี การปรับโครงสร้างดังกล่าวก็ยังหาข้อสรุปสุดท้ายที่ชัดเจนไม่ได้จนกระทั่งถึงปัจจุบัน (20 พ.ย. 51)
ณ ขณะนี้บัณฑิตวิทยาลัยยังคงทำหน้าที่หลักในการจัดการศึกษาให้กับนิสิตปริญญาโทรุ่นสุดท้ายที่ยังค้างอยู่ในศูนย์วิทยบริการทั้ง 9 ศูนย์ เมื่อผ่านปีการศึกษานี้ไปแล้วศูนย์ทุกศูนย์ก็จะไม่มีนิสิตให้บัณฑิตวิทยาลัยต้องรับผิดชอบอีกต่อไป นอกเสียจากจะมีมติจากสภามหาวิทยาลัยเปลี่ยนนโยบายอนุญาตให้บัณฑิตวิทยาลัยสามารถรับนิสิตเข้าศึกษาต่อไปได้ดังเดิม
อย่างไรก็ดี จากการวิจัยสถาบันและจากการออกเยี่ยมศูนย์วิทยบริการทั้งหมดของผู้บริหารบัณฑิตวิทยาลัย ทำให้ทราบว่า ความเป็นจริงแล้วคนในชุมชนยังคงได้รับประโยชน์จากการมีศูนย์วิทยบริการของมหาวิทยาลัยอยู่อีกมาก เช่น นอกจากนิสิตปัจจุบันแล้วยังมีศิษย์เก่าและคนในชุมชน นิยมมาใช้บริการห้องสมุดและ Digital database ที่ศูนย์วิทยบริการกันเป็นจำนวนมาก เพื่อการค้นคว้าพัฒนาตนเองและพัฒนางาน และที่สำคัญคือ คนในชุมชนยังมีความต้องการให้มหาวิทยาลัยเปิดทำการรับนิสิตเข้าศึกษาต่อไปเหมือนเดิม และยังให้คำแนะนำเรื่องการจัดการเรียนการสอนและบริการวิชาการในหลักสูตรใหม่ ๆ ที่หลากหลายที่ตรงกับความต้องการของการพัฒนาคนและพัฒนางานในชุมชน และที่เป็นการสอดคล้องส่งเสริมนโยบายการกระจายอำนาจการปกครองของรัฐบาล ซึ่งจำเป็นต้องมีการพัฒนาคนเข้ามารองรับนโยบายอีกจำนวนมาก
วิสัยทัศน์และแนวคิดในการพัฒนาบัณฑิตวิทยาลัยฉบับนี้เขียนขึ้นมาจากความต้องการเห็นในอนาคตว่า “บัณฑิตวิทยาลัย” จะเป็น “บัณฑิตวิทยาลัยที่แท้จริง” ที่เข้มแข็ง ที่เลี้ยงตัวเองได้ และที่สำคัญคือเป็นกลไกสำคัญของการพัฒนามหาวิทยาลัยไปสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยวิจัย”
................................................................................................................... (กลับด้านบน)
GS 2565 : (2) วิสัยทัศน์ร่วม
วิสัยทัศน์ร่วม (Shared vision) ที่เกิดจากการระดมความคิดเห็นในหลายวาระหลายเวทีได้ผลออกมาทำนองเดียวกันว่า ในอนาคตอยากเห็นบัณฑิตวิทยาลัยมีพันธกิจ (mission) และโครงสร้างการทำงานดังแสดงในภาพ
กล่าวคือ :-
(1) บัณฑิตวิทยาลัยเป็น “บัณฑิตวิทยาลัยที่แท้จริง” และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยให้ก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยและมีรายได้เลี้ยงตัวเองโดยไม่เป็นภาระของมหาวิทยาลัย
(2) พันธกิจที่สำคัญมี 2 ด้านคือ
2.1 Non-profit mission
2.1.1 ส่งเสริมและสนับสนุน (supporter and stimulator) ให้บัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัยมีความเข้มแข็งและเป็นสากล โดยเป็น “หน่วยงานกลาง” ในการกำหนด standards และ policies ด้าน “graduate education” และ “research” ของมหาวิทยาลัย ผ่านการทำงานแบบ partnerships กับคณะ / วิทยาลัยต่าง ๆ
2.2 Profit mission
2.2.1 จัดการศึกษาด้วยตนเอง โดยจัดการศึกษาใน 9 ศูนย์เดิม พัฒนาหลักสูตรใหม่ที่เน้นสหวิทยาการ (ร่วมมือกับทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย)
2.2.2 ให้บริการวิชาการกับเครือข่ายศิษย์เก่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และมหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษาต่าง ๆ โดยใช้ความต้องการของ customers แต่ละกลุ่มและใช้ทรัพยากรใน 9 ศูนย์เป็นหลักในการให้บริการที่หลากหลายตั้งแต่เวทีชาวบ้านถึงเวทีนานาชาติ
(3) การติดตามและการประเมินผล แยกเป็นปีละ 2 ครั้งดังนี้
3.1 สำหรับ non-profit mission ให้ประเมินตามปีงบประมาณเหมือน non-teaching unit โดยมี KPI ดังแสดงในภาพ
3.2 สำหรับ profit mission ให้ประเมินตามปีการศึกษาเหมือน teaching unit แต่ต้องปรับวิธีการและเกณฑ์การประเมินให้สอดคล้องกับบริบทของบัณฑิตวิทยาลัย โดยมี KPI ดังแสดงในภาพ
...................................................................................................................(กลับด้านบน)
GS 2565 : (3) บัณฑิตวิทยาลัยกับมหาวิทยาลัยวิจัย
ภาพรวมแนวคิดในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยให้ก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยและบทบาทของบัณฑิตวิทยาลัยในฐานะหนึ่งในเครื่องมือสำคัญ ดังแสดงในภาพ
...................................................................................................................(กลับด้านบน)
GS 2565 : (4) บัณฑิตวิทยาลัยกับสถาบันบริหารการวิจัยและพัฒนา
• ภายในปี 2556 มหาวิทยาลัยนเรศวรจะเป็น Top ten research university ของประเทศไทย และมีความพร้อมที่ก้าวสู่การเป็น world class university ในลำดับถัดไป
• IRDA (สถาบันบริหารการวิจัยและพัฒนา) ควรจะเป็นหัวหอกในการบริหารจัดการงานวิจัยทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รวมทั้งการบริหารกองทุนวิจัยของมหาวิทยาลัย
• บัณฑิตวิทยาลัยควรจะเป็นหัวหอกในการบริหารจัดการบัณฑิตศึกษาอย่างครบวงจรตั้งแต่รับนิสิตเข้ามาจนจบออกไปเป็นมหาบัณฑิต ดุษฎีบัณฑิต และศิษย์เก่า
• IRDA และบัณฑิตวิทยาลัยจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดการเสริมพลังซึ่งกันและกัน (synergy) ในการขับเคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยวิจัย และนี่คือหัวใจสำคัญของการพัฒนามหาวิทยาลัยนเรศวรในช่วงเวลานี้
• แนวคิดคือ output ที่สำคัญของ IRDA คือ จำนวนผลงานวิจัยที่มีคุณภาพ ดังนั้น ถ้า IRDA grant ทุนให้กับ “อาจารย์และนิสิตบัณฑิตศึกษา” เพื่อช่วยกันทำวิจัย ย่อมจะได้ผลงานวิจัยที่มากกว่าและดีกว่าการให้ทุนกับ “อาจารย์อย่างเดียว” โดยสรุปคือ อาจารย์มีผู้ช่วยที่ดีที่จะช่วยกันผลิตผลงานวิจัยให้มากขึ้นและดีขึ้น
• ส่วน output ที่สำคัญของบัณฑิตวิทยาลัยคือ จำนวนและคุณภาพของมหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิต (ซึ่งก็คือนักวิจัย) ดังนั้น ถ้าบัณฑิตวิทยาลัยร่วมมือกับ IRDA ดี ๆ ก็จะทำให้นิสิตบัณฑิตศึกษาได้ที่ปรึกษาที่ดี ได้มีทุนวิจัย TA/RA จากอาจารย์ที่ปรึกษามาประกอบการคัดเลือกผู้สมัครเข้าเรียนได้เป็นอย่างดีด้วย โดยสรุปคือ นิสิตมีอาจารย์ที่ปรึกษาที่ดี และมีทุนวิจัยมาช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย
• มหาวิทยาลัยควรจะสนับสนุนและส่งเสริมให้บัณฑิตวิทยาลัยและ IRDA เป็น “หน่วยงานกลาง” ที่สามารถมีรายได้เลี้ยงตัวเองเพื่อทำหน้าที่สำคัญให้กับมหาวิทยาลัยได้เป็นอย่างดี โดยไม่เป็นภาระของมหาวิทยาลัย
...................................................................................................................(กลับด้านบน)
GS 2565 : (5) บัณฑิตวิทยาลัยกับการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรี
• เครื่องมือ (tools) สำคัญที่จะนำมาใช้ในการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างอาจารย์และนิสิตคือ “การวิจัย” และ “การจัดการความรู้” โดยมีวัตถุประสงค์ให้เกิดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญพร้อมๆ กับการให้การศึกษาลักษณะ Innovation-based education (เน้นสร้างองค์ความรู้ มิใช่บริโภคความรู้เพียงอย่างเดียว)
• บัณฑิตศึกษาแผน ก. เน้นการใช้ “วิจัย” เป็นเครื่องมือหลักในการให้การศึกษา ส่วนแผน ข. เน้นการใช้ “การจัดการความรู้ (Tacit to Tacit, T2T)” เป็นเครื่องมือหลัก
• จัดให้มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบด้านการจัดการศึกษา “ระดับปริญญาตรี” และ “ระดับบัณฑิตศึกษา” อย่างชัดเจน
• นิสิตระดับปริญญาตรีจะได้รับการดูแลอย่างดีจากรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต ตั้งแต่รับเข้าจนจบและเป็นศิษย์เก่า โดยมีกองบริการการศึกษา และกองกิจการนิสิตเป็นหน่วยงานให้การสนับสนุนหลัก
• นิสิตระดับบัณฑิตศึกษาจะได้รับการดูแลอย่างดีจากรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย และผู้อำนวยการ IRDA ตั้งแต่รับเข้าจนจบและเป็นศิษย์เก่า โดยมีบัณฑิตวิทยาลัยและ IRDA เป็นหน่วยงานให้การสนับสนุนหลัก
• กระบวนการที่จะช่วยทำให้ “บัณฑิตวิทยาลัย” ให้เป็น “บัณฑิตวิทยาลัยที่แท้จริง” ดังแสดงในภาพ
...................................................................................................................
วิบูลย์ วัฒนาธร
ท่านครับ