5.สามศาสนาเห็นพ้องกัน


อบายมุขอย่างไรก็ชั่ว

ขออนุญาตนำเรื่องเก่าโบร่ำโบราณมาเล่าให้ฟัง ขออ้างอิงจาก น.ส.พ.ข่าวสดครับ

                  
                  
สามศาสนาเห็นพ้องต้านคาสิโน
                                 
( ข้อมูลจาก นสพ. ข่าวสด ฉบับวันที่ 9 ก.พ. 2547 )

           
           
           
           
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 ก.พ. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลุ่มเสขิยธรรม คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ มูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ มูลนิธิโกมลคีมทอง ร่วมกับคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา จัดการเสวนาเรื่องเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์(+บ่อน)ในทัศนะพุทธ คริสต์ อิสลาม
           
โดยพระมหาเจิม สุวโร มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวว่า แม้เรื่องนี้จะไม่มีข้อห้ามเป็นลายลักษณ์อักษรแต่ในสาระของศีลข้อ 5 กล่าวว่า คือสิ่งที่นำมาสู่ความสูญเสีย เสื่อมเสีย และเส้นทางสู่ความฉิบหาย ซึ่งเมื่อมีอบายมุขอย่างหนึ่งเกิดขึ้นก็จะมีอบายมุขอย่างอื่นตามมาไม่ว่าจะเป็นการดื่มสุรา ลักทรัพย์ ซึ่งหน้าที่ของศาสนาและรัฐบาลนั้นคล้ายกันคือต้องยกระดับคนให้พ้นจากสันดานดิบ แยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ ไม่ใช่ส่งเสริม แต่การที่รัฐบาลกลับสิ่งผิดให้เป็นถูกแย้งกับข้อห้ามของศาสนาแสดงว่าเรากำลังจะมีศาสดาองค์ใหม่ ซึ่งขณะนี้เหมือนว่าเรากำลังตั้งศาสนาทุนนิยมขึ้นมาแทนศาสนาหลัก
           
บาทหลวงวิชัย โภคทวี คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรม ตัวแทนศาสนาคริสต์กล่าวว่า ในศาสนาคริสต์เรียกอบายมุขว่า พระยศชั่วคือสิ่งที่จะนำไปสู่บาป เปรียบเทียบได้กับอาการภูมิต้านทานบกพร่อง หรือเอดส์ที่ทำให้จิตสำนึกบกพร่องทำให้จิตใจอ่อนแอลง และเพราะคนมีสัญชาตญาณสันดานดิบ ทำให้เรามีศาสนา เพื่อไม่ให้คนลุ่มหลง ไม่ให้เกิดความโลภ ไม่ใช่ยิ่งกระพือความโลภให้คนมากขึ้น ส่วนที่รัฐบาลอ้างว่าส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น เรายังมีวิธีที่จะส่งเสริมอย่างอื่นเช่น ส่งเสริมให้เป็นเมืองของจิตวิญญาณที่มีแต่ความดีงาม ส่งเสริมจริยธรรม คุณธรรมแทนที่จะหวังให้บ่อน อบายมุข เป็นที่เชิดชู
           
นายสมเดช มัสแหละ เลขาธิการสภาองค์การมุสลิมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่รัฐถือว่าการเปิดบ่อนเป็นวิธีหารายได้เข้ารัฐนั้น เชื่อว่ารัฐยังมีวิธีการหาเงินแบบบริสุทธิ์อีกมาก ซึ่งการกลับผิดเป็นถูกเพื่อหารายได้นั้นใครก็สามารถเป็นนายกฯได้ เพราะการบริหารงานรัฐนั้นต้องใช้สติปัญญาในการหาวิธีหารายได้เข้ารัฐ ส่วนการที่รัฐตั้งคำถามว่า ในเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ควรมีอะไรบ้างนั้น ถือเป็นการตั้งคำถามนำโดยไม่ฟังข้อเสนอของประชาชนมากกว่า โดยทุกศาสนามีคำสอนดีหมด แต่ส่วนของศาสนาอิสลามฟันธงว่า อบายมุขนั้นเป็นสิ่งโสมม ใช้ไม่ได้ เลวทราม และสกปรก ไม่ว่ารัฐจะตั้งชื่อว่าอะไรก็ตาม                  

หมายเลขบันทึก: 223016เขียนเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2008 07:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สลามค่ะ

คนเราก็แปลกนะคะ

ทั้งที่รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่วแต่ก็ยังทำ

ทั้งที่รู้ว่าโทษของมันได้รับผลเป็นอย่างไร ก็ยังทำ

พูดง่ายๆ ก็คือ บางคนไม่เชื่อว่านรก-สวรรค์ มีจริง

อยู่บนโลกนี้ทำอะไรก็ได้ขอให้มีความสุขแค่นั้น

ถึงจะทำชั่วก็ช่าง..แล้วแต่ว่าเขาจะเอาไปลงนรกหรือสวรรค์

ยอมรับสภาพได้ประมาณนี้แหละ

สลามสะตอดอง คุณเชื่อไหมผมเคยวิเคราะห์ออกรายการหลายรายการว่า ผมเห็นด้วยให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ เพราะผมจะต้องไม่มาพะวงกับคนเมา บ่อนต่างจะไม่มี แต่คุณเชื่อใหมว่าคนที่ไปเล่นกาพนันที่เขมรคือคนไทยทั้งนั้นและไม่ต้องถามว่าคุณนับถือศาสนาหรือเปล่า เดีนวเขายกหลักฐานให้ดูจะหัวใจวายกันหมด

ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี

มีความสุขมากมายนะคะ

แวะมาทักทายค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท