48. ร่วมงานรำลึกถึงผู้ตายชาวไท อาหม


ความผสมผสานทางวัฒนธรรมไท อาหมกับฮินดู

 

 

                             

          ดิฉันได้มีโอกาสไปร่วมงานรำลึกถึงผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นนักหนังสือพิมพ์อาวุโสชาวอัสสัม เชื้อสายไท อาหมบ้านงานมีการล้อมผ้าสีขาวผืนใหญ่เพื่อกันพื้นที่สาธารณะ (ถนน) หน้าบ้านเพื่อใช้เป็นปะรำรับแขกและประกอบพิธี ใครผ่านไปมาก็เห็นได้ว่าบ้านนี้ต้องมีงานแน่

          เดินเข้าไปในเต๊นท์ขาวที่ว่านี้ มีรูปผู้ตายตั้งอยู่บนโต๊ะกลางลาน มีกระถางปักธูปสามกระถางวางด้านหน้า มีดอกไม้ทั้งคล้องไว้ที่รูป แขกที่มาคารวะจุดธูปสามดอกและโปรยดอกไม้ไปที่รูป หรือคล้องผ้าฝ้ายทอสีขาวแดงซึ่งเป็นของขวัญ ของคารวะที่ชาวอัสสัมมอบให้กัน เขาคารวะด้วยการไว้ก้มต่ำไปที่พื้น

แขกนั่งวงนอก รอบๆ ในปะรำที่กั้นไว้ ญาติๆ นั่งใกล้กลุ่มผู้แทนศาสนาต่างๆ ได้แก่ คริสต์ อิสลาม ฮินดูที่มาสวดให้โดยนั่งบนไม้ไผ่สานเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมสำหรับแต่ละคนรองนั่ง เนื่องจากผู้ตายเป็นผู้ที่สูงอายุและเป็นที่รู้จัก นับถือของคนทั่วไป จึงมีผู้มาร่วมงานมาก ผู้ตายถูกเผาไปแล้ว วันนี้ทำพิธีรำลึกถึงเท่านั้น ผู้ที่ไปร่วมงานไม่ต้องแต่งขาวหรือดำ ส่วนใหญ่ผู้หญิงแต่งกายอย่างดีแบบชาวอัสสัม ผู้ชายก็เช่นกันแต่ที่เป็นลูกหลานจะนุ่งโจงกระเบนสีขาว

          ลูกชายคนโตเจ้าของบ้านโกนศีรษะ เมื่อตอนทำพิธีเผาศพ (ไท อาหมจะฝัง) แต่บ้านนี้ผสมผสานระหว่างไทอาหมกับฮินดู ซึ่งมีผู้รู้บอกว่าเขาทำผิด ไทอาหมจริงๆ ไม่ต้องโกนผม นี่คงผสมผสานธรรมเนียมแบบฮินดู คนรุ่นใหม่ทำถูกบ้างไม่ถูกบ้างเพราะเขาโตมาและรับรู้มาแบบนั้น แบบเดิมเป็นอย่างไรเขาไม่ทราบ เจ้าภาพยินดีต้อนรับแขกทุกคนรวมทั้งดิฉันด้วย เขาจะถือพานหมากพลู สมุนไพร (เครื่องหอม) ไว้เคี้ยวเล่น ส่วนแขกจะนำของที่รับประทานได้มาช่วยงาน เช่น ข้าว มะพร้าว เหล้า ขนม เป็นต้น งานนี้ไม่ต้องช่วยเงิน แต่ช่วยแรงกัน

          มีพิธีทำบุญคนตาย (ด้ำผีเรน) ผู้ทำพิธีคือหมอซึ่งเป็นลูกหลานไท อาหม ทำพิธีเซ่นไหว้ผู้ตายด้วยการจัดใบตองเป็นที่ๆ ในครัว ดิฉันเห็นเขาไล่ล่าจับไก่ในครัวเพื่อเชือดคอ และนำไปทำอาหารเพื่อประกอบพิธีเซ่นไหว้ หมอทำหน้าที่สวดซึ่งมาจากตระกูลพระนักบวช แกเคยได้ยินพ่อสวดเป็นภาษาไท อาหมมาตั้งแต่เด็ก ส่วนตัวของหมอนั้นอ่านและสวดได้แต่ไม่รู้ความหมาย มาช่วยทำพิธีให้ ญาติๆ ผู้ตายดีใจที่ได้เจอคนไทย เสร็จพิธีเซ่นไหว้แล้ว เขาเอาไก่ผัดที่เซ่นไหว้แล้วยกมาทั้งใบตองมาให้พวกเรากินกับเหล้าขาวที่ทำเอง กินเสร็จก็ขอตัวลาเจ้าภาพ ซ้อนมอเตอร์ไซค์คุณที่เป็นหมอพิธีไปห้องสมุดของสถาบันวิจัยไทศึกษาเพื่อยืมหนังสือสำหรับถ่ายเอกสารได้มาสองเล่ม มีบรรณารักษ์สูงวัยที่อาสามาทำงานเพื่อการฟื้นฟูธำรงกลุ่มชาติพันธุ์ของตน วันนี้ผู้คนพลุกพล่านเป็นปกติ

          ดิฉันไปบ้านคุณหมอ(เจ้าพิธี) บ้านชาวอัสสัมส่วนใหญ่จะเป็นบ้านชั้นเดียว มีการแบ่งห้องหลายห้อง มีประตูปิดทุกห้อง แต่กลางวันนิยมใช้ผ้าม่านปิดกั้นระหว่างห้อง ภายในมีห้องรับแขกที่น่านั่งทุกบ้าน มีการประดับตกแต่ง หลายบ้านนิยมแต่งบ้านด้วยเครื่องทองเหลืองซึ่งที่นี่นิยมใช้กันมาก ดังตัวอย่างภาพข้างบน และนิยมใช้ภาชนะทองเหลือง เช่น จาน ถ้วย ถาด แจกัน เป็นต้นเวลามีงาน หรือมอบให้เป็นของขวัญ ของที่ระลึกแก่กัน เขาซื้อขายด้วยการชั่งน้ำหนักและคิดราคาตามน้ำหนัก ใครมีไว้ใช้ถ้าไม่หายเสียก่อนใช้ได้นานจนลืมเลยค่ะ  บ้านที่เป็นไท อาหมอาจจะประดับด้วยภาพสัตว์ที่คล้ายๆ นกเรียกว่า งี่คำ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำกลุ่มไท อาหม คุณหมอ (พิธี) แนะนำให้รู้จักภรรยา ลูกชาย ลูกสาว ลูกสะใภ้ (ยังเด็กๆ) แกเอาสมบัติที่เป็นจารึกบนใบลานเป็นการทำนายกระดูกไก่แบบต่างๆ น่าสนใจมาก ดิฉันไม่ได้เอากล้องไปจึงไม่มีภาพเก็บไว้ แกเล่าอะไรให้ฟังมากมาย (ด้วยภาษาอังกฤษ) ขับหมอให้ฟังจนดิฉันตาปรือ แกเห็นอาการเคลิ้มแล้ว จึงบอกให้ลูกสาวพาไปนอนในห้องข้างใน ดิฉันหลับสนิทราว 1 ชั่วโมงตื่นขึ้นมา เห็นคุณหมอนอนหลับอยู่อีกห้องหนึ่งเหมือนกัน

          ดิฉันนั่งคุยกับลูกสาวซึ่งเพิ่งลาออกจากงานเพราะเครียด ลูกสาวสวยแกเรียกดิฉันว่าอา ภรรยาไม่ค่อยพูดแต่มีอัธยาศัย ขยันทำโน่นนี่ทั้งวัน บ้านนี้ห้องครัวใหญ่ พอคุณพ่อบ้านตื่น ก็มีพรรคพวกที่เป็นประธานของสถาบันวิจัยไทศึกษามา ขี่จักรยานฝ่าเปลวแดดมาเหงื่อแตกพลั่ก เจ้าบ้านแจกพัดเพราะไฟดับ ที่นี่ไฟดับบ่อยมาก แม่บ้านนำชานมร้อนมาเสริ์ฟ พวกเราก็นั่งคุยกันถึงสภาพเหตุการณ์บ้านเมือง โทนเสียงก็เหมือนที่ดิฉันได้เปรยๆ ไว้ในเรื่องก่อนๆ ที่เสนอไปแล้ว

          สักพักพวกเราเดินไปเยี่ยมบ้านผู้อาวุโสที่อยู่ถัดไป ที่นี่บ้านน่าอยู่เพราะเป็นหลังๆ มีพื้นที่กว้างขวาง ไม่แออัด เจ้าของบ้านเป็นไท อาหม บ้านสองชั้นใหญ่โตแต่อยู่สองคนตายาย คุณตาอายุ 80 ปี ยังขี่จักรยานได้ แข็งแรง คุณยายเป็นครูเก่าอายุ 70 ปีเศษ ท่านไปทำชานมมาให้ทานอีก ลูกสองคนของท่านไปทำงานเมืองอื่น สักพักมีผู้เฒ่ามุสลิมมาเขาเรียก กุลา ปล่อยให้เขาคุยธุระกันสักพัก เราก็ขอตัวลากลับมาที่บ้านคุณหมอ (พิธี) ภรรยาเจ้าของบ้านทำอาหารมื้อกลางวันที่ทานราวบ่ายสี่โมงให้ดิฉันทานก่อน อาหารมีผัดผัก ไข่ต้ม แกงถั่ว ข้าวนึ่งผงกะหรี่ใส่เครื่องเทศ อาหารอร่อย ดิฉันทานหมด (ไม่รู้ว่าเป็นมื้ออะไรแล้ว) เพราะไปบ้านไหนก็มีของมาให้ดื่ม กินกันตลอด

          ทานเสร็จออกมานั่งคุยกันต่อ อาจารย์ ก กลับจากมหาวิทยาลัยขับรถมารับดิฉัน ก่อนกลับดิฉันถ่ายรูปกับลูกๆ เจ้าของบ้านแล้วลากลับ

          อาจารย์พาดิฉันไปซื้อผ้าตัดชุดแบบสาวปัญจาบีคือเสื้อตัวยาวๆ กางเกงขาพองหรือลีบๆ อาจารย์พาไปร้านที่ลูกสาวตัดประจำ อาจารย์เป็นพ่อบ้านแบบชาวอินเดียทั่วไปคือทำหน้าที่เป็นผู้จ่ายของเข้าบ้าน เพราะฉะนั้นอาจารย์จะคล่องมากไม่ว่าจะเป็นการต่อรอง การดูสินค้า เป็นต้น

          เสร็จแล้วท่านพาไปชมสินค้าพื้นเมือง มีเครื่องจกสานด้วยไม้ไผ่ เก้าอี้หวาย ผ้าทอ ดิฉันไม่ทราบจะซื้ออะไรก็เลยยังไม่ซื้อ กะว่าซื้อชาอย่างเดียวพอ

          กลับบ้าน ผ่านถนนที่จะไปบ้านมีพ่อค้าผักนั่งขายเรียงรายข้างทางจุดตะเกียง ผักที่นี่ราคาถูกกว่าตลาด ซื้อยี่สิบรูปีก็ได้อาหารกินกันทั้งบ้าน ถ้าเราคนไทยกินอยู่แบบนี้คงมีเงินเหลือเพียบเลย!

               

          มะนาวที่นี่ลูกเรียวๆ เขียวๆ น้ำน้อยบีบใส่แกง แต่เห็นอาจารย์ทานทั้งเปลือก วันนี้อาหารเย็นมีผักมะรุมอ่อนหั่นเป็นท่อนๆใส่ไข่ใส่แครอท มะรุมอ่อนๆ รสชาติอร่อยดี เวลาทานไม่ต้องรูดกากใยเลยค่ะ  สูตรนี้คนไทยไม่เคยทำลองทำดูก็ได้นะคะ

          ทานเสร็จราว 21.00 น. วันนี้แม้จะง่วงก็ต้องเตรียมสอน ดิฉันรอสักพักไปใช้คอมพิวเตอร์ที่ห้องทำงานของอาจารย์ ไฟยังตกอยู่ เครื่องคอมพิวเตอร์ดับๆ ติดๆ ตลอดเวลา กลัวเครื่องเสียจึงบอกอาจารย์ว่าขอมาทำพรุ่งนี้เช้าดีกว่า ราตรีสวสดิ์ไปนอนก่อนค่ะ

-------------------

ขอเชิญท่านที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับอินเดีย สมัครเรียนในหลักสูตรปริญญาโท สาขาวัฒนธรรมและการพัฒนา วิชาเอกอินเดียศึกษา ตั้งแต่บัดนี้ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2551 โปรดเข้าชมรายละเอียดใน www.lc.mahidol.ac.th โทร. 02-800-2308-14 ต่อ 3101 โทร. 02-800-2323

 

         

หมายเลขบันทึก: 223015เขียนเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2008 07:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 11:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท