เมื่อปีที่แล้ว (2550) กทม. จัดเก็บกระทงได้ 1,095,379 ใบ เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ประมาณร้อยละ 8.2
เป็นกระทงจากวัสดุธรรมชาติทั้งหมดประมาณ 853,618 ใบ
กระทงจากโฟม 182,322 ใบ
และกระทงจากวัสดุอื่นๆ เช่น ขนมปัง แป้งมันสำปะหลัง 59,439 ใบ
สถิติที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ ปริมาณกระทงโฟมลดลงถึงร้อยละ 27.33
และมีกระทงธรรมชาติ เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 15.4
ถ้าการรณรงค์ของหน่วยงานต่างๆได้ผล
ปีนี้จำนวนกระทงทั้งหมดอาจจะน้อยลง
แต่สัดส่วนของกระทงจากวัสดุธรรมชาติอาจจะเพิ่มขึ้น
การประดิษฐ์จะมีความวิจิตรงดงามมากขึ้น และมีกระทงที่สื่อความหมายถึงความสมานฉันท์เพิ่มขึ้น
มีความสุขกับเทศกาลสำคัญของไทย แล้วพรุ่งนี้มาดูตัวเลขของปีนี้กันครับ
สวัสดีครับ .... ให้กำลังใจนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมครับ....
ไม่ได้ไปลอยกระทงหลายปีแล้วค่ะ สรุปแล้วควรเป็นกระทงชนิดไหนดีค่ะ จึงจะไม่ได้ทำลายสิ่งแวดล้อม
โลกนี้ไม่มีอะไรฟรีฉันใด ก็ไม่มีกระทงชนิดไหนที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมฉันนั้นครับ อ.แป๋ว อยู่ที่ว่าชนิดไหนจะกระทบมากน้อยกว่ากัน
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำอะไรไม่ได้เลย
เพียงแต่เราพยายามใช้วัสดุที่จะกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดก็ OK แล้วล่ะครับ
ผลกระทบนี่ก็ไม่ได้ดูเฉพาะตอนเก็บหรือย่อยสลายเท่านั้น ต้องดูตั้งแต่ต้นทางก่อนจะมาเป็นกระทงจนถึงปลายทางเลย
เดี๋ยวจะเป็นเหมือนอดีตผู้ว่าบางท่าน ที่บอกว่าใช้โฟมดีที่สุดเพราะเก็บง่ายดี
ข้อมูลของสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. สรุปยอดกระทงทั้งหมด 929,329 ใบ น้อยกว่าปีที่แล้วซึ่งเก็บได้ถึง 1,095,379 ใบ ลดลงร้อยละ 15.16 สาเหตุน่าจะมาจากการรณรงค์ใช้กระทง 1 ใบ / 1 ครอบครัว อย่างต่อเนื่อง อีกเหตุผลหนึ่งที่อาจจะมีผลบ้างคือวันลอยกระทงปีนี้ ไม่ตรงกับวันหยุด
แยกเป็นประดิษฐ์จากโฟม 117,997
ประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ 759,918
อื่น ๆ 51,414