พี่น้องชาว blog ที่รักเคารพครับ ช่วงนี้ไม่ได้เขียนบทความเสียนานเนื่องจากมีภารกิจค่อนข้างมากเลยคิดอะไรไม่ค่อยออกแต่ก็ได้เข้ามาอ่านงานของหลาย ๆ ท่านบ่อย ๆ เมื่อไม่นานมานี้ได้อ่านนิตยสารเล่มหนึ่งโดยบังเอิญในคอร์ลัม สุขภาพ ไปสดุดตาขอ้อความหนึ่ง คือ "ถ้าไม่อยากสมองเสื่อมสูญเสียความทรงจำก่อนวัยอันควร"มาออกกำลังสมองกันเถอะ อ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์ดีมากสำหรับทุกคนก็เลยอยากจะนำมาเล่าสู่พี่น้องฟังเพื่อเผยแพร่ต่อกันไป
ผู้รู้บอกว่า สมองของคนเรานั้นเฉกเช่นเดียวกับอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายที่ต้องการออกกำลัง ทั้งนี้เพื่อให้แข็งแรง คล่องแคล่ว ฉับไวอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพ้นวัยหนุ่มสาวไปแล้วการทำงานของสมองจะเสื่อมลงอาจสูญเสียความทรงจำ หรือจดจำเรื่องต่าง ๆ ได้น้อยลง การเสื่อมของสมองจะนำไปสู่โรคอัลไซเมอร์ในที่สุด คนเรามีอายุเพิ่มมากขึ้นโอกาสเสี่ยงของการเกิดภาวะสมองเสื่อมจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การรักษาความดันของโลหิตให้ปกติ รวมทั้งอย่าให้มีไขมันในเลือดสูงควรออกกำลังสมอง ไม่เครียดและเข้าร่วมสังคม จะช่วยกระตุ้นให้สมองทำงานไม่เสื่อมสภาพเร็ว การออกกำลังสมองคล้ายกับการออกกำลังของร่างกายที่จะต้องเคลื่อนไหวเพื่อให้กล้ามเนื้อหลาย ๆ ส่วนได้ทำงานเชื่อมโยงกันส่งผลให้ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้น การออกกำลังสมองเป็นเสมือนการฝึกสมองส่วนต่าง ๆ ให้มีการทำงานที่ประสานสัมพันธ์กันทำให้ระบบการทำงานของสมองแข็งแรงและมีพลังมากขึ้น เนื่องจากสมองมีการหลั่งสารที่เรียกว่า นิวโรโทรฟินส์ ที่เปรียบเสมือนอาหารสมองที่ทำให้เซลล์ในส่วนของเดนไดรต์ที่เชื่อมระหว่างประสาททำงานดีขึ้นจึงเป็น
ปัจจัยให้เนื้อเซลล์เจริญเติบโตและเซลล์สมองแข็งแรง สำหรับการออกกำลังสมอง คือการกระตุ้นให้ประสาทสัมผัสทั้ง ๕ ได้แก่การได้ยิน ได้มองเห็น ได้กลิ่น การลิ้มรสและการสัมผัสรวมไปถึงส่วนสำคัญส่วนที่ ๖ คือส่วนของอารมณ์ ได้ทำงานเชื่อมโยงกันโดยใช้กิจกรรมในชีวิตประจำวันของเรามาเป็นตัวช่วยแต่ต้องเปลี่ยนวิธีการไปจากเดิม
สำหรับวิธีการบริหารสมองเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันจากที่เคยทำอยู่เดิม เพื่อ "ออกกำลังสมอง"มีพฤติกรรมที่จะนำเสนอเป็นตัวอย่าง ดังนี้ ระหว่างเดินทางก็ฝึกสมองได้ หากเปิดแอร์ในระหว่างขับรถทุกวัน ก็ลองเปิดกระจกดูบ้างเพื่อเชื่อมโยงประสาทรับกลิ่นและเสียงภายนอกให้ทำงานประสานกันมากขึ้น หรือ จากที่เคยชินกับการใช้มือขวาซึ่งเป็นข้างที่ถนัดหยิบจับทุกอย่างก็เปลี่ยนมาใช้มือซ้ายทำแทนเนื่องจากพฤติกรรมและการรับรู้ต่างๆ
เกิดจากการทำงานประสานกันระหว่างสมองซีกซ้ายและขวาถ้าเราใช้แต่มือข้างขวาทำงานทุกอย่างสมองด้านซ้ายที่บังคับมือขวาจะได้รับการกระตุ้นอยู่
ด้านเดียว แต่สมองส่วนขวาซึ่งบังคับมือซ้ายก็จะไม่ค่อยได้ทำงานและอาจจะเสื่อมไป
สรุปว่า การทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันต้องให้เปลี่ยนไปจากวิธีการเดิม ๆ เพื่อออกกำลังสมอง และเพื่อให้การทำงานของสมองยังคงมีประสิทธิภาพดี แข็งแรงและชลอความเสื่อม ก็อย่าลืมออกกำลังสมองด้วยนะครับ สำคัญมาก ๆ สำหรับมนุษย์ทุกคน