การลงทะเบียนเรียน-เพิ่ม-ถอน


ลงเพิ่ม-ถอน สนุกๆ หรือเปล่านี่

จากวันแรกของการเปิดเทอมจนถึงวันนี้ (วันที่ 8 ของการเปิดเทอมภาคการศึกษาใหม่) ก็ยังมีนักศึกษามาขอลายเซ็นต์อาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อใช้ในการเพิ่ม-ถอนรายวิชาที่ลง (ยังไม่หยุดและไม่รู้จะอีกกี่วัน) ถามว่าการลงทะเบียนรายวิชาที่เรียนต้องทำการลงทะเบียนเมื่อไรกัน หรือว่าลงได้ทั้งเทอมหรือและไม่มีวันกำหนดใช่ไหมครับ ที่สังเกตุก็คือเด็กๆสนุกมากกับการเพิ่ม-ถอน แค่เอาใบเพิ่มสีน้ำเงิน และใบถอนสีแดงให้อาจารย์เซ็นต์แล้วฝากเพื่อนเดินเรื่องก็ได้ ถามว่าทำไมถึงต้องมีการเพิ่ม-ถอนรายวิชามากถึงขนาดนั้น ไม่ใช่แค่นั้น นักศึกษาบางคนทำการเพิ่มถอนไม่ใช่แค่ครั้งเดียว หรือเกือบทุกวันก็ว่าได้ เช่นวันนี้เอาใบถอนให้เซ็นต์หนึ่งวิชา พรุ่งนี้ก็ถอนอีกวิชา ส่วนการเพิ่มรายวิชาก็เหมือนกันครับ อีกอย่างบางคนหยิบใบเพิ่มถอน ไม่ใช่แค่ใบเดียว บางทีเอามาสำรอง สองสามชุด (ทำเหมือนตอนเล่นขายของสมัยเด็กๆ) ถามว่าทำไมนักศึกษาถึงทำแบบนี้นะ น้องๆเค้าว่า เขาได้มาฟรีๆ นะ ไม่ต้องไปซื้อ นึกจะถอนก็เขียนลงใบถอน วิชาไหนเห็นว่าเรียนสนุกก็ลง เรียนสักพักถ้าอาจารย์สอนไม่ค่อยเวิ๊กก่อนถอนได้อีก เมื่อไรอีกหละจะได้ใช้ของฟรีๆ จากสถาบัน

วันนี้ก็มีเด็กมาขอลายเซ็นต์เช่นเคย เอาใบเพิ่มมาแต่ไม่ใช่แค่คนละใบ (คือหยิบมาสำรองด้วย) อาจารย์ก็เลยฉีกเก็บไว้ แล้วถามว่าบิล เพิ่ม - ถอน เฉพาะปีนี้หมดไปกี่เล่มแล้ว ถามอีกว่าตอนซั่งไปตีพิมพ์นั้นทางโรงพิมพ์เค้าคิดเล่มกี่บาทครับ หรือว่าสำหรับใบเพิ่มถอนนี้ทางโรงพิมพ์จะพิมพ์ให้ฟรี เด็กก็เลยได้มาฟรีๆ แต่ถ้าต้องจ่าย เป็นไปได้หรือปล่าวนักศึกษาที่ต้องใช้ใบเพิ่มถอนนี้ก็ต้องซื้อหรือจ่ายเงิน..........ก็คิดเป็นแผ่นซิ ว่ากัน....แผ่นละกี่บาท.....หวังว่าสามารถแก็ปัญหานักศึกษาที่ลงทะเบียนเล่นๆ แล้วค่อยเพิ่มถอนรายวิชา

ฝากไว้ด้วยนะ เผื่อนักศึกษาที่เสนอโครงการขอใช้เงิน จะได้มีเงินทำโครงการนะ

หมายเลขบันทึก: 221694เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2008 12:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 22:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ผมว่าปัญหานี้เกิดขึ้นจนเป็นวัฒนธรรมแล้ว

จริงๆ บางอย่างไม่ใช่ฟรีหรอก.. แต่ น.ศ.เขาไม่รู้ตัว(ไม่สนใจ) เพราะจะเป็นหนี้กับมหาวิทยาลัย จะรู้สึกก็ต่อเมื่อถูกเรียกกับนั้นแหละ แล้วบางคนก็มาบ่นว่า มหาลัยเก็บเงินเขาอีก..

อีกอย่างเราในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษา เวลา น.ศ.จะลงทะเบียน เราเคยคุยกับ น.ศ.บ้างไหมว่า เขาจะเรียนอะไร อย่างไร แล้วต่อไปจะเรียนอะไรอีก .. เพราะสังเกตุจาก บางคน เขาเซ็นชื่อบนบันได เพราะ น.ศ.ยื่นตอนที่เขาลงบันไดพอดี .. อ.ก็ใจดีมากเลยสนองให้ทันควัน..

ผมว่า.. เราต้องช่วยๆกันแก้ หาแนวทางที่เหมาะสม.. ไม่อย่างนั้น มหาวิทยาลัยเราอาจจะทำเหมือนบางมหาวิยาลัยก็ได้ คือ นศ.สามารถลงทะเบียนตามที่ มหาลัยกำหนดเท่านั้น...

เห็นด้วยกับ Ibm ครูปอเนาะคะ

มหาลัยน่าจะกำหนดการลงทะเบียนของนักศึกษา ส่วนเรื่องลายเซ็นในใบลงทะเบียนมหา,ลัยอื่นเขาให้เฉพาะอาจารย์ที่ปรึกษาเท่านั้นเป็นคนเซ็น ไม่ใช่อาจารย์ไหนก็ได้ อันอาจารย์น่าจะเข้าที่ประชุมคณะฯ เพื่อหาวิธีแก้ปัญหา

เราไม่เคยสอนให้เด็กๆ มีความรอบคอบในการตัดสินใจ

เราไม่เคยสอนให้เด็กๆ คิด และ วางแผนด้วยตัวเองว่าเทอมนี้อยากเรียนอะไร กี่หน่วย และต้องการจบเมื่อไหร่

พอถึงเวลา เรื่องเพิ่มถอน เราก็ไม่เคยเข้มงวด

มันถึงเป็นอย่างไร

..

วันนี้ เด็กๆ มาถามที่สำนักงานคณะ เรื่องตารางสอนชน ห้องเรียนชน โดยเป็นรายวิชาที่เปิดสิบกว่ากลุ่ม เราถามเด็กๆว่า เค้าลงทะเบียนกลุ่มอะไร

ตอบไม่ได้

เราถามเด็กๆว่า แล้วตารางสอนที่เขียนมาให้ดูนั้นใครเป็นคนทำ

ตอบไม่ได้

สุดท้าย เราตอบไปว่า ไปหาคำตอบมาให้ได้ก่อน สำหรับคำถามสองคำถามแล้วค่อยมาติดต่อถามข้อมูลเพิ่มถอน

..

สรุป แม้แต่การลงทะเบีบน การเขียนตารางที่ ตัวเองแท้ๆ เป็นคนเรียน ...ฝ่ายเราหรือเจ้าหน้าที่ ชงให้หมด

เด็กถึงไม่เคยโตซักที

คุณ SK กล่าวได้ถูกต้อง

เด็กๆอย่าเอาแต่ดื่มอย่างเดี่ยว หัดชงและสังเกตุบาง เดี่ยวจะไม่ทราบว่ามลามีนผสมในน้ำแก้วนั้นหรือไหม...

ขอบคุณสำหรับการคอมเมนต์ แต่หากว่าใครที่มีบทบาท มีตำแหน่งบริหารที่สามารถเอาเรื่องนี้ไปคุยในที่ประชุมด้วยก็จะเป็นการดี แต่ไม่ใช่เรื่องแค่แจ้งให้ทราบนะ หวังว่ามหาลัยของเราเริ่มพัฒนาเข้าสู่ยุคมาดีนะห์แล้วนะ และจะมีการพัฒนาต่อไป

อยากให้นำปัญหาใหม่ชงให้ผู้บริหารระดับสูงให้รู้ด้วย ไม่ใช่เอาแต่ปิดกลัวจะรู้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท