ความล้มเหลวและจินตนาการ (1) โดย เจ.เค.โรลลิ่ง ... (หนุ่มเมืองจันท์)


...สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดตอนที่อายุเท่ากับพวกคุณ ไม่ใช่ "ความจน" หากเป็น "ความล้มเหลว"

"หนุ่มเมืองจันท์" ได้เขียนบทความ เรื่อง "ความล้มเหลวและจินตนาการ (1)" เอาไว้ในคอลัมน์สุดฮิต "ฟ้าสต์ฟู้ด ธุรกิจ" ใน "มติชนสุดสัปดาห์" ฉบับที่ 1471

ซึ่งเป็นข้อคิดที่ได้มาจากการปาฐกถาของ "เจ.เค.โรลลิ่ง" ผู้เขียนวรรกรรมเด็กที่ขายดี คือ "แฮรี่ พ็อตเตอร์" ในงานรับปริญญาของบัณฑิตมหาวิทยาลัยฮาร์ดวาร์ด

 

(ที่มาของภาพ : http://www.hoy.es/galerias/cultura/media/puesto-britnica-rolling-convertido-16.3.2699994362.jpg)

 

ผมคิดว่า มีข้อคิดแฝงอยู่มากมาย จึงอยากให้ทุก ๆ ท่านอ่านไปพร้อมกัน ดังต่อไปนี้ครับ

 

*******************************************************************************

 

วันหนึ่ง เมื่อ "เจ.เค.โรลลิ่ง" ผู้เขียนหนังสือขายดี "แฮร์รี่ พอตเตอร์" ไปปาฐกถาในงานรับปริญญาของบัณฑิตมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

เธอบอกกับบัณฑิตทุกคนว่า เรื่องที่เธออยากจะพูด คือ สิ่งที่เธอคิดว่าควรจะรู้ตอนรับปริญญา แต่ไม่ได้รู้

และสิ่งที่เธอเรียนรู้จากช่วงเวลา 21 ปีหลังจบการศึกษา

หลังจากการไตร่ตรองอย่างหนัก "เจ.เค.โรลลิ่ง" ก็สรุปว่า มี 2 เรื่องที่อยากจะพูดในวันนี้

 

เรื่องหนึ่ง คือ ประโยชน์ของความล้มเหลว

 

อีกเรื่องหนึ่ง คือ ความสำคัญของ "จินตนาการ"

ปาฐกถาชิ้นนี้ถือเป็นปาฐกถาที่ดีที่สุดชิ้นหนึ่งที่ผมเคยอ่าน

อาจเป็นเพราะ "เจ.เค.โรลลิ่ง" เป็น "นักเขียน" ทำให้การเรียบเรียงเรื่องต่าง ๆ จึงคมคายอย่างยิ่ง

เธอเริ่มต้นด้วยการเล่าถึงชีวิตของเธอเมื่อก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัย

...สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดตอนที่อายุเท่ากับพวกคุณ ไม่ใช่ "ความจน" หากเป็น "ความล้มเหลว"

"พรสวรรค์และสติปัญญาไม่เคยเป็นภูมิคุ้มกันให้ใครรอดพ้นจากความไม่แน่นอนของโชคชะตาไปได้"

"เจ.เค.โรลลิ่ง" บอกว่า แรงขับของคนที่จบจาก "ฮาร์วาร์ด" อาจเกิดขึ้นได้ทั้งจาก "ความกลัวจากความล้มเหลว" หรือ "ความปรารถนาในความสำเร็จ" ก็ได้

แต่ไม่มีใครจะหลีกเลี่ยง "ความล้มเหลว" ได้

การล้มเหลวในบางครั้งของชีวิตเป็นเรื่องธรรมดา

"ยกเว้นแต่คุณจะใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากเสียจนไม่เกิดมาเลยจะดีกว่า ซึ่งในกรณีนั้นเท่ากับว่าคุณได้ล้มเหลวโดยอัตโนมัติ"

ชอบครับ...ชอบ

 

"เจ.เค.โรลลิ่ง" เล่าว่า หลังจากจบจากมหาวิทยาลัย ชีวิตของเธอได้เดินหน้าสู่ "ความล้มเหลว" อย่างเต็มตัว

7 ปี หลังจากนั้น เธอล้มเหลวเรื่อง "ชีวิตคู่" ต้องเลี้ยงดูลูกคนเดียว

ล้มเหลวเพราะไม่มีงานทำ

และล้มเหลวเพราะ "จน" ที่สุดเท่าที่จนได้ในประเทศอังกฤษสมัยใหม่โดยที่ยังไม่เป็นคนจรจัด

หลายคนเคยพูดถึงชีวิตของเธอว่าเป็นการคลี่คลายอย่างน่ามหัศจรรย์ราวกับนิทานเด็ก

แต่ "เจ.เค.โรลลิ่ง" บอกเลยว่า "ความล้มเหลว" ไม่ใช่เรื่องสนุก

"ฉันไม่รู้เลยว่า อุโมงค์นั้นจะยาวขนาดไหน และเป็นเวลานานมากที่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ถ้ามันจะมี ก็เป็นเพียงความหวังของฉัน ไม่ใช่ความจริง"

แล้ว "ประโยชน์" ของ "ความล้มเหลว" คืออะไร

คำตอบสั้น ๆ จาก "เจ.เค.โรลลิ่ง" ก็คือ ความล้มเหลวได้บังคับให้เราต้องถอดรื้อสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่สำคัญ

"ฉันหยุดหลอกตัวเองว่า ฉันเป็นอะไรที่มากกว่าที่ฉันเป็น แล้วก็เริ่มทุ่มเทพลังงานให้กับการทำงานเดียวที่สำคัญสำหรับฉันให้เสร็จ"

เธอบอกว่า ถ้าช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอประสบความสำเร็จในเวทีเดียวที่เชื่อว่าเป็นเวทีของเธอจริง ๆ

และนั่นคือ ที่มาของ "แฮรี่ พ็อตเตอร์"

นวนิยายที่เปี่ยมด้วยจินตนาการและพลังแห่งความมุ่งมั่นของคนเขียน

 

"ความล้มเหลว" ได้ปลดปล่อย "เจ.เค.โรลลิ่ง" ให้พ้นจาก "จินตนาการ" ที่หลอกตัวเองว่า เธอเป็นอะไรที่มากกว่าที่เธอเป็น

ผมเชื่อว่า นี่คือประเด็นที่เธออยากบอกคนหนุ่มสาวที่ก้าวพ้นจากรั้วมหาวิทยาลัย

"ความฝัน" และ "ความเชื่อมั่น" เป็นสิ่งที่จำเป็นของมนุษย์

แต่ "ความจริง" คือ โลกใต้ฝ่าเท้าที่เรายืนอยู่

และ "ความล้มเหลว" คือ โฟมล้างหน้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการล้างเครื่องสำอางแห่ง "ความฝัน" และ "ความเชื่อมั่น" ที่เคลือบอยู่บนใบหน้าของเรา

หลังจากปล่อยให้ "ความล้มเหลว" จัดการพันธนาการต่าง ๆ ที่ "ไม่จริง" จนหมดสิ้น

"เจ.เค.โรลลิ่ง" ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ

แม้ "ความล้มเหลว" ได้กลายเป็น "ความจริง"

"แต่ฉันยังมีชีวิตอยู่"

สิ่งที่เธอมีในวันนั้นก็คือ 1.มีลูกสาวที่เธอรัก  2.มีเครื่องพิมพ์ดีดเก่า ๆ 1 เครื่อง

และ 3.เธอมี "ไอเดีย" ที่ยิ่งใหญ่

 

ประโยคต่อมาเป็นประโยคที่ผมชอบที่สุดในปาฐกถาชิ้นนี้

"ก้นเหวจึงเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งให้ฉันสร้างชีวิตขึ้นมาใหม่"

ครับ...ถ้าเราไม่ยอมรับ "ความจริง" ว่าเราล้มเหลว

ยังแหวกว่ายอยู่ในหุบเหวของความล้มเหลวโดยใช้จินตนาการที่หลอกตัวเองเป็นเครื่องพยุงตัว

ไม่ยอมปล่อยตัวเองให้ถึงก้นเหว

โอกาสที่เราจะทะยานตัวขึ้นก็เป็นเรื่องยาก

เพราะหลักของการ "ลุก" เมื่อเรา "ล้ม" ก็คือ ต้องดันตัวเองขึ้นมาโดยใช้พื้นเป็นฐานยันตัว

การลอยอยู่ในอากาศ เราจะไม่มีอะไรเป็นฐานในการดันตัวขึ้นเลย

แต่เมื่อเรายอมดิ่งตัวเองจนถึง "ก้นเหว" เมื่อไร

เราจะมี "ก้นเหว" เป็นจุดค้ำยันและผลักตัวเองให้กระโดดขึ้นมาจากหุบเหวแห่ง "ความล้มเหลว" ได้สำเร็จ

 

"ความล้มเหลวมอบความมั่นคงทางจิตใจให้กับฉัน...ความล้มเหลวสอนเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวฉันเองที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยโดยวิธีอื่น"

สิ่งที่ "เจ.เค.โรลลิ่ง" ได้รับก็คือ เธอมีความมุ่งมั่นมากขึ้น และมีวินัยมากกว่าที่เธอคาดคิด

"ความรู้ที่คุณมีหลังจากที่โผล่พ้นจากความล้มเหลวแต่ละครั้งอย่างมีปัญญาและเข้มแข็งกว่าเดิม แปลว่า คุณจะมีความสามารถในการเอาตัวรอดติดตัวไปตลอดชีวิต"

"คุณจะไม่มีวันรู้จักตัวเองอย่างแท้จริงหรือรู้จักความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์ในชีวิตจนกว่าทั้ง 2 สิ่งนี้จะถูกทดสอบด้วยเคราะห์ร้าย"

"เจ.เค.โรลลิ่ง" สรุปว่า "ความรู้" แบบนี้เป็นพรสวรรค์ที่แท้จริงและได้มาด้วยความยากลำบาก

"มันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับฉันมากกว่าคุณวุฒิทุกอย่างที่ฉันเคยได้รับ"

สำหรับ "เจ.เค.โรลลิ่ง" แล้วชีวิตเป็นเรื่องยากซับซ้อน และไม่มีใครสามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์

ถ้านั่งไทม์แมชชีน หรือ เครื่องย้อนเวลากลับไปได้ "เจ.เค.โรลลิ่ง" จะบอกตัวเองในวันที่มีอายุ 21 ปีว่า ให้ยอมรับในสัจธรรมข้อนี้

"ความอ่อนน้อมถ่อมตนในการยอมรับความจริงดังกล่าวจะช่วยให้คุณรอดพ้นจากความผันผวนของชีวิต"

ครับนี่คือเรื่องแรกที่ "เจ.เค.โรลลิ่ง" อยากจะบอกกับบัณฑิตทุกคน

ประโยชน์ของ "ความล้มเหลว"

 

และจากนั้นเธอก็เริ่มเล่าเรื่องที่ 2

"จินตนาการ"

แต่เป็น "จินตนาการ" ในอีกมุมหนึ่งที่คุณคาดไม่ถึง

ยังไม่เล่าให้ฟังหรอกครับ

อยากให้คุณลองใช้ "จินตนาการ" สัก 1 สัปดาห์

ฉบับหน้าจะเล่าให้ฟัง

 

****************************************************************************

 

นี่เป็นตอนที่ 1 ที่คุณหนุ่มเมืองจันท์ เล่าถึง "ความล้มเหลว" ที่อธิบายโดย เจ.เค.โรลลิ่ง ในมุมมองของเธอ

แล้วคุณล่ะ มีมุมมองและวิธีคิดอย่างไรบ้างกับ "ความล้มเหลว" ที่เอ่ยอ้างมา ครับ

 

บันทึกหน้า โปรดรออ่าน "ความล้มเหลวและจินตนาการ (2)" ที่เน้นถึง "จินตนาการ" ภาคจบ ครับ

 

ด้วยจิตคารวะ

 

 

แหล่งอ้างอิง

หนุ่มเมืองจันท์.  "ความล้มเหลวและจินตนาการ (1)".  มติชนสุดสัปดาห์.  29, 1471  (24 - 30 ตุลาคม 2551) : หน้า 24.

 

หมายเลขบันทึก: 220277เขียนเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2008 09:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:48 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

ผมอ่านมติชน ฉบับนี้มาในรถ ชอบมากครับ "ความสำเร็จ และความล้มเหลว"

สไตล์การเขียนของหนุ่มเมืองจันท์ เป็นต้นแบบการเขียนงาน ของผมเลยนะครับ หากผมเก่งมากขึ้นก็อยากเขียนเก่งเหมือนท่าน

เชิญอาจารย์ ไปรับบุญพร้อมกับผมที่ วัดทับทิมแดงวิการาม วัดป่าฯ ที่คลองหลวง ปทุมธานี

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ

  • เมื่องานสัปดาห์หนังสือ เมื่อ สองปีก่อน ครูอ้อยไปซื้อหนังสือ  และเดินผ่าน ผู้ชายคนหนึ่ง กำลัง เซ็นต์ชื่อให้กับคนกลุ่มหนึ่ง
  • ครูอ้อย ไม่รู้จักเธอหรอกค่ะ  แต่พอเดินไปใกล้ๆ  เห็นป้ายติดไว้หลังเธอว่า...หนุ่ม เมืองจันท์..
  • ครูอ้อย  ได้ยื่นหนังสือที่ซื้อมา ซึ่งไม่ใช่หนังสือของเธอที่เปิดตัว  เธอก็ลงนามให้ด้วยค่ะ

นอกจากผลงานดี  หน้าตาก็หล่อดีด้วยค่ะ

สวัสดีครับ คุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร :)

ว้าว สำนวนคุณหนุ่มเมืองจันท์ คือ ต้นแบบของคุณเอกหรือครับนี่ โอ้ :)

ผมก็ชอบครับ สาระ + อารมณ์ขัน เป็นเรื่องยากมากที่เขียนได้อารมณ์แบบนั้นควบคู่ไปด้วย

เดี๋ยวผมจะแวะไปรับบุญที่ วัดทับทิมแดงวิการาม วัดป่าฯ ที่คลองหลวง ปทุมธานี นะครับ

ขอบคุณมากครับ :)

สวัสดีครับ พี่ ครูอ้อย :)

คุณหนุ่มเมืองจันท์ เขานิสัยดีนะครับ อุตส่าห์เซ็นให้พี่ ครูอ้อย

แสดงถึงอัธยาศัยที่ดีนะครับ ต้องเป็นคนอารมณ์ดีเหมือนสำนวนการเขียนแน่ ๆ เลยนะครับ

ขอบคุณพี่ ครูอ้อย  มาก ๆ ครับ สำหรับประสบการณ์นี้ :)

สวัสดีค่ะ......แวะมาทักทาย

   ครูคนหนึ่งตั้งคำถามกับเด็กว่า 'ถ้ามีเงินอยู่ 10บาท ซื้อของ 3บาท จะได้รับเงินทอนเท่าไร' เด็กส่วนใหญ่ตอบว่า '7บาท'
แต่มีเด็ก 2คนที่ตอบไม่เหมือนกับคนอื่น คนหนึ่งตอบว่า '2บาท' อีกคนหนึ่งตอบว่า 'ไม่ต้องทอน'

ครู ถามเด็กคนแรกว่าทำไมถึงได้เงินทอน 2บาท คำตอบที่ได้ก็คือภาพในใจของเขาสำหรับเงิน 10บาท คือ เหรียญห้า 2เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3บาท เขาก็ให้เหรียญห้า 1เหรียญ ดังนั้น จึงได้เงินทอน 2 บาท

ถามเด็กคนที่สองว่าทำไมไม่เหลือเงินทอนเลย
คำตอบก็คือเด็กคน นี้คิดว่าในกระเป๋ามีเหรียญบาท 10เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3บาท เขาก็ส่งเหรียญบาทให้ 3เหรียญ เพราะฉะนั้น คนขายจึงไม่ต้องทอนเงินให้เขา

โชค ดีที่เป็นการถาม-ตอบในห้องเรียน ลองนึกดูสิค่ะ ว่าถ้าโจทย์นี้เป็นข้อสอบที่มีคำตอบเป็น ก-ข-ค-ง เด็ก 2คนนี้ก็คงไม่ได้คะแนนจากคำตอบที่ผิดเพี้ยนจากคนส่วนใหญ่
การสร้างโจทย์ ที่ 'เสมือนจริง' จินตนาการของ 'ครู' อาจถูกจำกัดเพียงแค่ 'ตัวเลข' แต่สำหรับเด็ก จินตนาการของเขาไร้กรอบ 10บาท จึงสามารถเปลี่ยนเป็นเหรียญสิบ เหรียญห้า หรือเหรียญบาท

เมืองไทยมีเหรียญ 2บาท เราจึงได้คำตอบเพิ่มอีก 1คำตอบ คือ ได้เงินทอน 1บาท

โลก ในห้องเรียนกับโลกของความเป็นจริงนั้นแตกต่างกัน โลกในห้องเรียน ทุกคำถามส่วนใหญ่มีเพียง 1คำตอบ แต่โลกของความเป็นจริง ทุกคำถามอาจมีคำตอบที่ถูกต้องได้เกิน 1คำตอบ

อย่ารีบตัดสินความผิดถูกของคนๆ นั้น เพียงแค่ คำตอบ ของเรา
อย่าหยุดความคิดสร้างสรรค์ของคนๆ นั้น ด้วยกรอบความคิดของเรา


ที่มา mfuzone

ไม่ทราบจะสัมพันธ์กันหรือเปล่า

ชอบใจครับ คุณสายนที :) ...

สอดคล้องและสัมพันธ์กับบันทึก อีกทั้งแอบ ๆ ไปโดนสถานการณ์การเมืองอีกด้วยครับ

ขอบคุณมากครับ :)

แวะมาอ่านก่อนนอนค่ะ ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณครับ คุณ krutoi :) หลับฝันดีครับ

สวัสดีค่ะ

อ่านบทความแล้วเห็นด้วยค่ะ ว่าความล้มเหลวทำให้ คนที่มี E.Q. ดีและมีกลไกการป้องกันทางจิตที่ดี ( สติดีด้วยค่ะ ) สามารถตื่นขึ้นมาต่อสู้ได้อีกครั้ง ได้อย่างเข้มแข็ง เมื่อเขาผ่านจุดนี้ไปได้ เขาจะกลายเป็นบุคคลที่เข้าใจตัวเองและคนอื่นได้ดีมาก ๆ สามารถให้อภัยแก่ทุกคนได้อย่างไม่มีเงื่อนไข (เวอร์ไปหรือเปล่าค่ะ ) ทำอะไรจะนึกถึงส่วนรวมอยู่เสมอ จริง ๆเลยนะค่ะ

แวะมาทักทายค่ะ ...จะรอติดตามค่ะ

....ขอบคุณ คุณสายนที สำหรับ..คำตอบ..ของเรา

และหวังว่าผู้อ่านจะได้คำตอบในใจกันทุกคน ค่ะ

ขอบคุณครับ คุณ suvimol :) ... เห็นด้วยครับสำหรับคนที่มี EQ ดี ลุกขึ้นสู้ง่ายกว่าคนที่มี EQ ต่ำกว่า

ขอบคุณครับ คุณ ครูเอ :) .. เจ้าของบันทึกตัวจริงอ่ะ :) 555

สวัสดีค่ะ..

  • ไม่ได้คุยกันนานมากนะคะ..สบายดีนะคะ
  • ทั้งล้ม..ลุกคลุกคลานเชียวค่ะกับงานและชีวิตช่วงนี้
  • ขอบคุณอาจารย์วสวัตค่ะ..สำหรับเรื่องราวดีๆที่แบ่งปัน

สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ วัชราภรณ์ วัตรสุข :)

สบาย ๆ ตามอัตภาพครับผม ...

เรื่องราวดี ๆ มีเยอะแยะเลยครับ ขึ้นอยู่กับว่า เราจะเลือกมองและลองนำมาใช้หรือไม่ จริงไหมครับ

ขอให้กำลังใจอาจารย์ครับ สู้ แล้วก็สู้ ครับ :)

เรื่องของคุณสายนทีเล่ามา

น่าจะเป็นเรื่องศรีทนนชัยมากกว่านะครับ ถ้าจะให้คิด

ในวันที่สำเร็จการศึกษานั้น พวกเราเปี่ยมด้วยความฝัน ท้าทายและน่าสนใจ หลายคนเฝ้ารอหวังให้ช่วยเพราะเป็นคลื่นลูกใหม่ แต่หากในการปาฐกถาครั้งนี้ พลิกโฉมจากความคาดหวังให้มาสู่ความเป็นจริง เธอคนนี้บอกกับเราอย่างที่น่าประทับใจ ในชีวิตจริงคล้ายกับทุกสิ่งเริ่มใหม่จากฐานราก เป็นการเริ่มใหม่ที่โหดร้าย แต่ก็รับฟังได้ หากฟังทั้งหมดแล้วจะเข้าใจว่า ความสำเร็จที่หอมหวานนั้นมีเบื้องหลังที่น่าสนใจกว่า มากๆ ครับ ประทับใจกับการถ่ายทอดและขอบคุณคนแปลด้วยนะครับ แปลได้ดีจนผมเข้าใจ อ่ะนะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท