ซึ่งในงานวันที่ 19
มีนาคม ช่วงบ่าย ได้ตั้งโจทย์ว่า
“ทำอย่างไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ปี’
49” และระดมความคิดในเรื่องตัวชี้วัด
และแนวทางปฏิบัติที่ทำงานด้านเด็กและเยาวชนให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
และสรุปเป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกัน
ซึ่งข้อสรุปจากแต่ละกลุ่มในเรื่อตัวชี้วัด มี 6
เรื่องได้แก่
- สื่อ
- พื้นที่
- กิจกรรมสร้างสรรค์
- กลุ่มศึกษาทักษะชีวิต
- พฤติกรรมดี
- สร้างสรรค์ครอบครัว ชุมชน
สื่อ
สื่อมวลชนเพื่อเด็ก (ทีวี วิทยุ เว็ปไซด์)
จะต้องมีสื่อต้นแบบ การมีจำนวนสื่อดี (สื่อสร้างสรรค์) เพิ่มมากขึ้น
สื่อรุนแรง สื่อลามกลดลง
มีการเฝ้าระวังสื่อ และรายงานต่อสังคม 3-4 ครั้งต่อปี
และเยาวชนมีบทบาทเกี่ยวข้องในกลไกการสื่อสารสาธารณะของสังคม
พื้นที่ สัดส่วนพื้นที่สร้างสรรค์ต่อพื้นที่เสี่ยงเพิ่มขึ้น ทั้งใน Setting โรงเรียน ชุมชน ศาสนสถาน การมีพื้นที่สีขาว (พื้นที่สาธารณะ ลานกีฬา บริเวณการเรียนรู้ อุทยานธรรมชาติ) เพิ่มขึ้น เกิดพื้นที่ตัวอย่างสร้างสรรค์ที่เยาวชนเป็นกลไกการพัฒนา เกิดกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อเยาวชนเพิ่มมากขึ้น กลไกของชุมชนและหน่วยงานภาครัฐในการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้และส่งเสริมศักยภาพของเยาวชน และการเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนให้มีความสามารถด้าน Human skill
กิจกรรมสร้างสรรค์ การเพิ่มขึ้นของเครือข่ายเยาวชนและแกนนำ ทุนสำหรับเยาวชน สถานภาพบทบาท ตัวอย่างเยาวชนต้นแบบเพิ่มขึ้น เด็กและเยาวชนรับรู้และเกิดทัศนคติที่ดีต่อการลงมือทำความดี เกิดกลุ่มเด็กทำดีในระดับโรงเรียน มหาวิทยาลัย จังหวัด ปริมาณอาสาสมัครของเยาวชนในโครงการสาธารณะ วัฒนธรรม และสังคมเพิ่มขึ้น และจัดการให้เกิดชุดองค์คงวามรู้ในการพัฒนากระบวนการสร้างจิตสาธารณะสำหรับเด็กและเรื่องจิตอาสา ก่อให้เกิดกิจกรรม 60 ล้านความดีที่ทำโดยเยาวชนอย่างยั่งยืน 60 ตัวอย่าง
กลุ่มศึกษาทักษะชีวิต เกิดโรงเรียนตัวอย่าง กิจกรรมต้นแบบเพื่อการเรียนรู้นอกโรงเรียน มีหลักสูตรที่พัฒนาเด็กรอบด้านมากขึ้น/ จำนวนชั่วโมงเพิ่มมากขึ้น มีหลักสูตรที่เกี่ยวกับทักษะชีวิตและครอบครัวศึกษา มีโรงเรียนสอนศาสนาวันอาทิตย์เพิ่มขึ้น เพิ่มการเรียนการสอนหลักธรรมทางศาสนาให้อยู่ในวิถีชีวิตอย่างน้อยภูมิภาคละ 5 โรงเรียน และเพิ่มกิจกรรมสร้างสรรค์ในโรงเรียนหลังเลิกเรียน มีการบูรณาการเรื่องจริยะธรรมในทุกวิชา
พฤติกรรมดี เด็กไทยมีพฤติกรรมในการบริโภคอาหารปลอดภัยมากขึ้น (ปลอดอาหารขยะ น้ำอัดลม) เด็กไทยกินนมแม่และอาหารที่เหมาะสมตามวัยเพิ่มขึ้น อัตราการป่วยและตายของเด็กลดลง เยาวชนออกกำลังกายสม่ำเสมอ ปริมาณการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ของเยาวชนลดลง/ไม่เพิ่มขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น อัตราเรื่อง: อาชญากรรม การใช้ความรุนแรง การฆ่าตัวตาย เด็กเร่ร่อน ถูกทอดทิ้งลดลง
สร้างสรรค์ครอบครัว
ชุมชน
เกิดกิจกรรมสำหรับครอบครัวเพื่อสร้างสรรค์การเรียนรู้ได้อย่างน้อย
เดือนละ 1 ครั้ง มีการรณรงค์แนวคิด ค่านิยม
เศรษฐกิจพอเพียงเพิ่มขึ้น อัตราครอบครัวแตกแยกลดลง
ปริมาณความรุนแรงในครอบครัวลดลง มีคู่มือครอบครัวเข้มแข็ง
เกิดครอบครัวต้นแบบ มีกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1
ครั้ง
จากการรวมกลุ่มและเป็นข้อสรุปข้างต้นทำให้
ดิฉันรู้สึกว่ามีการทำงานเพื่อเด็กในหลายกิจกรรม
และมีเป้าหมายมากขึ้น
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่ารากฐานที่สำคัญของการพัฒนาของเด็กในบ้านคือพ่อแม่
ในโรงเรียนคือครู
เราจะต้องสร้างความพร้อมและความเข้าใจให้เด็กเป็นอย่างมาก
รวมทั้งสถาบันครอบครัวที่เป็นปึกแผ่นและแฝงไว้ด้วยจริยธรรม
การมีศีลธรรมเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจของเด็ก