ความอยาก ด้านมืดในใจ และความลื่นไหลของคน


จิตใจคนเราก็เหมือนน้ำซึ่งมักจะไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ

              สามสี่วันมานี้โลกชักไม่ค่อยรื่นรมย์ค่ะพี่น้อง (อย่าๆ อย่าเพิ่งคิดว่าเกริ่นมาอย่างนี้จะพูดถึงเรื่องการเมืองนะคะ ไม่ใช่เลยค่ะ) ที่ว่าไม่รื่นรมย์ก็เพราะว่าด้านมืดในจิตใจมันเริ่มเข้ามาครอบงำค่ะ และกำลังขยายตัวมากขึ้นถึงขั้นส่งเสียงเถียงกับด้านดีในหลายๆประเด็นเถียงกันไปเถียงกันมาเหมือนพายเรือวนในอ่าง เพราะไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยอมแพ้ (ต้องยกความดีให้"ด้านดี" เค้าหน่อยค่ะ ที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะพระท่านว่าจิตใจคนเราก็เหมือนน้ำ มักจะไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ แต่มนุษย์เกิดมาเพื่อพัฒนาจิตใจใช่มั๊ยคะพี่น้องเลยต้องสู้กันหน่อยงานนี้)

              จำได้ว่าสมัยเด็กเรียนอยู่ ม.1 มีงานกีฬาสีที่โรงเรียน โดยเค้าจะเตรียมคูลเลอรน้ำดื่มแยกต่างหากสำหรับนักเรียนและครู  ที่นี้พอบ่ายมาอากาศร้อนจัด เด็กๆที่เชียร์กีฬาเหนื่อยก็มาดื่มน้ำที่เขาเตรียมไว้ให้จนหมด แล้วไม่มีใครมาเติมให้สักที วนไปกี่รอบก็ยังว่างเปล่า แต่...คูลเลอร์น้ำของครูยังมีน้ำอยู่เพียบเลยค่ะ  เพื่อนๆพี่ๆหลายคนทนกระหายน้ำไม่ไหว ก็เลยแอบไปกินน้ำในคูลเลอร์น้ำที่เตรียมไว้สำหรับคุณครู  ผู้เขียนเองซึ่งกระหายน้ำมากตอนนั้น (และเฝ้าดูคูลเลอร์น้ำทั้งสองมาโดยตลอดเพราะตั้งใกล้กันและรอว่าเมื่อไหร่เค้าจะมาเติมน้ำใส่ในคูลเลอร์สักที) ก็เกิดอาการเถียงกันในใจเหมือนกับครั้งนี้เลยหล่ะค่ะ

ด้านดี : เค้าติดป้ายว่าเป็นของครู เราจะไปกินได้ไง ผิดเห็นๆ

ด้านมืด : แต่มันหิวนี่นา น้ำของนักเรียนมันก็หมดแล้ว เห็นมั๊ยคนเขาก็กินกันทั้งนั้น

ด้านดี : ถ้าครูมาเห็นจะทำไง ต้องถูกครูตีไม่ก็ตำหนิแน่นอน ไม่เอา อดทนสักหน่อยดีกว่า

ด้านมืด : รอไปเถอะเดี๋ยวเค้าก็พากันกินหมดก่อนหรอก

ด้านดี : ไม่เอาเดี๋ยวครูมาเห็นถูกตี

ด้านมืด : ก็อย่าให้ครูเห็นสิ โง่ไปได้

ด้านดี :............................

ด้านมืด :..................................ฯลฯ

              ท่านผู้อ่านทราบไหมคะว่าสุดท้ายใครชนะ  555! ก็บอกแล้วไง... ว่าจิตใจคนเราก็เหมือนน้ำซึ่งมักจะไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ

          สุดท้ายผู้เขียนก็ทนกระหายน้ำไม่ไหวคะ  ก็เลยเดินเข้าไปดื่มน้ำในคูลเลอร์ของครู "แต่" ขณะที่รองน้ำดื่มอยู่เอง คุณครูก็เดินมาพอดี แล้วก็ตำหนิว่า "นี่เธอไม่เห็นรึไง...นี่มันคูลเลอร์น้ำสำหรับครูนะ เธอมาดื่มได้ไง"  (เฮ้อ!! ท่านผู้อ่านเริ่มจะมองเห็นภาพแล้วใช่ไหมคะ ว่า ไอ้คนทำบาปไม่ขึ้นนี่มันหน้าตาเป็นยังไง 555!)

"ตูว่าแล้ว "  ด้านดีบ่นออกมาดังๆ "เรื่องซวยหล่ะต้องเป็นเรา ไม่น่าเลยตู "

ด้านมืดมันมีเถียงค่ะ "แทนที่จะไปกินซะตั้งนาน มัวแต่ชักช้าก็เป็นยังงี้แหละ สม..!!"

แน๊ะ!! มันยังมีการสมน้ำหน้าอีก เฮ้อ...

             พอมามีเหตุการณ์ปัญหาบางอย่างที่ประสบมาสามสี่วันก่อน  ก็เลยย้อนเอาเหตุการณ์ที่เล่าให้ฟังนี้มาเป็นอุทาหรณ์ค่ะ เพื่อปรามตัวเองไว้ว่าอย่าแสดงด้านมืดอะไรออกไป เดี๋ยวครูมาเห็น เอ๊ย!!..ไม่ช่าย เพราะเราโตแล้วต้องตั้งสติดีๆ อย่าให้สติแตกได้ง่ายๆ  ท่านๆอาจสงสัยว่าผู้เขียนมีปัญหาหนักหนาสาหัสอะไรรึเปล่า จริงๆไม่ใช่ปัญหาชีวิตอะไรมากมายเลยค่ะ เพียงแค่สิ่งแวดล้อมไม่ถูกตา วาจาไม่ถูกหู และดูๆอะไรก็ไม่ถูกต้อง "ประมาณว่า สิ่งที่ได้ยิน ได้เห็น ที่ได้รับการปฏิบัติมันไม่ได้มาจากความเป็นจริง แต่มันมาจากการเป็นเพราะวัฒนธรรมใหม่ของพฤติกรรมลื่นไหลแปลกๆของมนุษย์" พูดอย่างนี้จะเข้าใจยากไปไหมค่ะ เฮ้อ!! (ถอนหายใจบ่อยๆโบราณว่าไม่ดี อายุจะสั้น เอาเถอะค่ะจะสั้นลงดีนิดก็ไม่ว่ากันอยู่แล้ว)

           สภาพตอนนี้ก็เหมือนมึคนสองคนมานั่งเถียงกันอยู่ในกบาลน้อยๆนี่แหล่ะค่ะ สองคนเค้านั่งเถียงกันประมาณนี้ค่ะ

ด้านดี : ทนหนอ คิดแง่ดีหนอ สักแต่ว่าได้เห็นหนอ ได้ยินหนอ

ด้านมืด : แนะนำให้ทำวีซ่า เลย นิ่งไปก็ไลฟ์บอย จะอยู่ทำไร

ด้านดี : ใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น เรื่องของเรา เราไม่เกี่ยว

ด้านมืด : แน่ใจหรือว่าไม่เกี่ยว

ด้านดี : ถึงจะเกี่ยวเราก็ไปแก้ที่เค้าไม่ได้ เราต้องแก้ต้องปรับที่ใจเรา อย่าไปคิดมาก 

ด้านมืด : (ทำไมด้านดีมันคิดได้ดียังงี้ฟ่ะ คิดเหมือนนางเอกนิยายเล่มละ 10 บาทเลย.... น้ำเน่าที่สุด555) โลกไม่ใช่นิยาย อย่างี่เง่า แก้เขาไม่ได้ เราก็ทำตัวเรามั้งสิ อิสระ  อย่าบอกว่าไม่เคยทำชั้นจำได้นะ

ด้านดี : ทำอะไรเหรอ

ด้านมืด : แกเคยหน้าบูดเวลาไม่พอใจอะไร แล้วก็พูดตรงๆเวลาแกรู้สึกว่ามันไม่ใช่  เคยเดินออกห้องเรียนเพราะอาจารย์เข้าสอนเลท (แล้วอาจารย์ก็ดันมาสอนเลทเกือบทุกคาบ)

ด้านดี : แล้วไงเกรดชั้นดีไหมหล่ะ เกือบได้เอาไก่แลกออก เฮ้อ ไม่รู้จักจำรึไง

ด้านมืด : แต่มันก็รู้สึกสะใจดีไม่ใช่เหรอ

ด้านดี : ก็ช่าย...(ชักเบื่อที่จะเถียงแล้วค่ะพี่น้อง)....แล้วมันได้อะไรขึ้นมานอกจากความสะใจหล่ะเพื่อน

ด้านมืด : ใครเพื่อนแก นี่ชั้นจะบอกให้นะ ที่แกทำอยู่ตอนนี้มันก็คล้ายๆเพลงนี้เลย "ทิ้งมาได้เลยจะไม่บ่นสักคำ" เหม็นว่ะ แกต้องหัดร้องเพลงพี่แอ๊ดเพลงนี่โว๊ย "ไม่มีผลงาน ไม่มีความผิด และไม่ต้องรับผิดชอบ 555! ....เอิ๊ก"

ด้านดี :ชั้นเริ่มเหนื่อยที่จะเถียงกับแกแล้วหล่ะเพื่อน

ด้านมืด : ขอโทษชั้นไม่มีเพื่อนอย่างนี้ จะบอกให้อีกครั้งนะ ถ้าแกทื่อมะลื้อเหมือนเดิมไม่ได้ ก็หัดพริ้วๆเข้าไว้ คนเดี๋ยวนี้ต้องหัดพริ้วเข้าาใจไหม ลื่นไหลเป็นปลาไหลใส่สะเก็ต ใครว่าไง พูดไงก็พริ้วๆไปกับเขา แล้วค่อยมานินทาที่หลัง ประมาณแทงข้างหลังทะลุถึงใจน่ะ ทำได้ไหมยังงี้

ด้านดี : เดี๋ยวนะขอคิดดูก่อนว่าแบบไหนมันยากกว่ากัน

ด้านมืด : รีบคิดซะหล่ะ เดี๋ยวครูมาเห็นอีก เอ๊ย!!.......ไม่ใช่เดี๋ยวก็ไม่ทันการณ์อีก ....555

ด้านดี : ?????????? (เอาไงดีเรา) ??????????????.................................

 

 

หมายเลขบันทึก: 218967เขียนเมื่อ 26 ตุลาคม 2008 23:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 23:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

เจริญพร คุณ star

บทความของคุณเหมือนกับต้อนที่อาตมาภาพก่อนที่จะมาบวช ความคิดแย้ๆมันก็เกิดขึ้นมาเช่นกัน คือ โดยปกติอาตมาภาพเป็นคนไม่สูบบุหรี แต่รับบุหรี จากเพือน แล้วนำไปให้เพื่อนต่ออีกที่ ไปซื้อ ไปจุดบุหรี ให้เขา นั้นทำอยู่อย่างนี้เสมอมา ตั้งแต่เด็ก พออายุครบบวช เกินมาสองสามปี ได้งานบวชของเพื่อน รับบุหรีที่เขาให้มาแล้ว เกิดความคิดขึ้นมาว่า เรารับมาแล้วต้องสูบ อีกความคิดก็บอกว่าเราสูบไม่เป็น อีกความคิด บอกว่า สูบแต่ควันก็พอ ไม่ต้องกลื่นเข้าไป อีกความคิดบอกว่าไม่ได้ เป็นอยู่อย่างนี้ จนความคิดแรกชนะ เลยเดินไปหาไฟจุดบุหรี จากเพื่อน ได้ไปเจอกับเพื่อนที่สูบบุหรีมาแต่เด็ก เอยถามขึ้นมาว่าคุณไม่สูบบุหรีใช่ไม่ ตอบว่าใช่ เขาพูดต่อไปว่า ผมเองก็อยากจะเลิก จากคำถามของเพื่อนทำให้ได้สติเลยไม่สูบบุหรีตั้งแต่นั้นมา.

เจริญพร

แอะ แอ้..เค้าว่าพวกเราคงทำบาปไม่ค่อยขึ้นอะ จริงๆนะ..อย่างนี้ก็เคยเจอนะเลยตั้งใจว่า เราทำอย่างนี้ไม่ขึ้นเพราะธรรมจัดสรรให้เราทำความดีจ้า..

เพราะฉะนั้นต้องตั้งมั่นและเชื่อมั่นในการเป็นคนดี..

แล้วทุกอย่างต้องดี..แม้อาจต้องใช้เวลา ..อย่างน้อยเราก็สบายใจล่ะเนอะ..

โดนใจมากจ้าง.กาลังรออ่านอยู่..ชอบๆ..

^^

เห็นด้วยกับธรรมะจัดสรร  ให้คนเราที่เป็นคนดีอย่างไรก็ต้องทำดีอยู่แล้ว

คำว่ามนุษย์อย่างไรก็ยังมีความรู้สึกนึกคิด   มีอารมณ์เข้ามาปะทะ  อยู่ที่เราติดตามความรู้สึกได้เท่าทันไหม

ช่วงนี้พี่ก็เป็นบ่อย....เคยนับหนึ่ง...ถึงสามสิบ  แล้วก็วน..สับสน..คิดเเต่เรื่องเดิมอยู่รำไป... 

ด้านดี :  บอกตัวเองว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป  สิ่งดีที่สุดคือความอดทน

ด้านมืด :   ฉันคิดว่าทำถูก.....ตัดสินใจดีแล้ว...รู้ไหมว่าเหนื่อย....เบื่อ......แน่จริง..ทำไมไม่........ล่ะ..

แต่อย่างไรก็ดี  เมื่อออกจากบรรยากาศนั้นสักพักใจจะเริ่มเย็นลง...เเม้ว่าพรุ่งนี้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นซ้ำอีก

ก็เริ่มนับหนึ่ง..ใหม่....อีกครั้งดูซิว่าจะนับถึงเลขอะไร

                         เขียนอีกนะจะรออ่าน

555 ...อ่านแระ

พี่แอ้ เขียนเรื่องเครียด.. ให้เป็นเรื่องตลกได้อ่ะ

อ่านไป..ขำไป..555

กราบนมัสการค่ะหลวงพี่มงคล

ขอบพระคุณหลวงพี่ที่เข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์และข้อคิดชีวิต เกิดเป็นมนุษย์นี่มีบททดสอบใจและสติมากมายเลยนะคะ จะพยายามมีสติในการครองตนให้มากที่สุดค่ะ แม้จะหลุดอยู่บ่อยๆก็ตาม

จี

สงสัยกรรมเก่าเค้าจะเยอะนะ ธรรมจัดสรรเลยมักจะมารูปแบบแปลกๆ ทำให้มีน้ำโหอยู่เรื่อย สงสัยจะกลัวว่าชาติหน้าจะสวยเกินไปรึยังไงเลยให้ขี้หงุดหงิดโมโหซะหน่อยเพื่อลดดีกรีความสวยของชาติหน้า 555

  • เขียนบันทึกได้ขนาดนี้...ก็เท่ากับรู้เหตุแล้ว
  • แต่คงดับเหตุไม่ทัน...อิอิ...
  • อย่าเผ่อวางใจไป ว่าจะลดดีกรีความสวยด้วยการขี้โมโห หงุดหงิด...แบบว่า...คนสวยอย่างเราๆ ก้อปล่อยให้มันสวยถึงขีดสุดเถอะนะ...
  • ไม่ว่าด้านดี หรือด้านมืด...ก็เกิดขึ้นได้เสมอแหล่ะ...
  • ถึงมีคำว่า มองต่างมุม...และ การคิดเชิงบวก และคิดเชิงลบ...งัยหล่ะ
  • ขึ้นอยู่กับว่า เราจะยอมให้น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอๆ หรืออย่างไร มี
  • อะไรก็นึกถึงช่อง Freez เอาไว้ แช่ใจให้เย็น ใจจะได้เป็นน้ำแข็ง...ไหลลงที่ต่ำไม่ได้งัย...good idea มั๊ยอ่ะ

สวัสดีค่ะพี่superPoo

บางครั้งการนับเลข 1-10 ก็ดูจะยากกว่าท่องสูตรคูณนะคะ....555...เอิ๊ก แล้วจะรีบปั่นบันทึกใหม่มาให้อ่านค่ะ เอาชื่อบันทึกไปก่อนเลย น่าจะชอบนะ "การสื่อสารและบทบาทผู้นำ"...555

กุ๋มกิ๋ม

พี่ดีใจมากที่เรื่องเล่าความเครียดนี้ สามารถสร้างความรื่นรมย์ให้กุ๋มกิ๋มได้(ซึ่งตรงกับเจตนารมย์ของเจ้าของบล็อกมาก) เค้าถึงบอกว่ามุมมองและการเผชิญหน้ากับปัญหาเป็นศิลปะขั้นสูง พี่เองจะพยายามแปลงมันให้เป็นเรื่องตลกประจำวันเหมือนกัน... 5555...(แม้ว่าจะขำทั้งน้ำตา....555)

ป้าจ๋า

รู้แต่เหตุแต่ยังหาทางดับทุกข์ไม่เจอ...55 แต่แอ้โชคดีอยู่อย่างไม่ว่าสถานการณ์ไหนก็อุ่นใจว่ามีนางฟ้าแม่ทูนหัวอยู่ 2-3 คอยให้ความช่วยเหลือ(ทางด้านจิตใจ..อย่างนี้เค้าเรียกทำบุญมาดี...555..เอิ๊ก ถึงชาติหน้าสวยน้อยหน่อยก็ช่างมันเฮอะ)

ขอบคุณพี่แอ้ที่เข้ามาอ่านนะคะ

อ้อมเขียนยังไม่คล่อง อาศียอ่านของพี่ตุ่นเพื่อพัฒนาฝีมือค่ะ

  • แวะมาดูเมฆที่นี่สวยแปลกตาจัง
  • ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเราใจเราจริงๆนะคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท