เรื่องที่ ๓๑ โง่แล้วอวดฉลาด
นานมาแล้วสมัยครั้งพุทธกาล มีชายคนหนึ่งทำหน้าที่ดูแลสวนของพระราชา เขาต้องคอยรดน้ำต้นไม้ ในพระราชอุทยานอันกว้างใหญ่ ไม่มีโอกาสได้ไปพักผ่อนที่ไหน ในอุทยานมีลิงอยู่ฝูงหนึ่ง เฝ้ามองการกระทำของชายผู้ดูแลสวนมาโดยตลอด
วันหนึ่ง มีงานฉลองยิ่งใหญ่ในเมืองแห่งนั้น ชายผู้ดูแลสวนอยากจะไปเที่ยวเป็นกำลังแต่มีภาระหน้าที่ ต้องรดน้ำให้ต้นไม้ในสวน หัวหน้าฝูงลิงเห็นความทุกข์ระทมของผู้ดูแลสวนที่น่าสงสาร จึงอาสารดน้ำต้นไม้ให้
“ท่านไปเที่ยวในงานเถิด ข้าและลูกน้องฝูงลิงของข้าจะดูแลต้นไม้และรดน้ำให้ท่านเอง ท่านไม่ต้องเป็นห่วง เพราะว่าข้าเฝ้ามองท่านรดน้ำอยู่ทุกวัน”
ชายผู้ดูแลสวน จึงฝากการรดน้ำดูแลสวนไว้กับฝูงลิง
“นี่แน่ะ พวกเจ้าทั้งหลาย จงฟังข้า” หัวหน้าลิง กล่าวกับลูกน้องลิง “ ข้าสังเกตการณ์รดน้ำของชายผู้ทำสวนอยู่ทุกวัน เขาช่างไร้สติปัญญา การรดน้ำของเขา เป็นการใช้น้ำอย่างเปล่าประโยชน์ และสิ้นเปลือง เพราะเขาไม่รู้เลยว่า ต้นไม้แต่ละต้นนั้น รากยาวหรือสั้นเท่าใด พวกเจ้าทุกตัวจงถอนต้นไม้ขึ้นมาทุกต้น ต้นไหนรากยาว ฝังกลับเข้าไปแล้วรดน้ำมาก ๆ ถ้าต้นไหนรากสั้น ฝังกลับเข้าไปแล้วรดน้ำน้อย ๆ ก็พอ” ฝ่ายฝูงลิง เมื่อได้ฟังความคิดที่เฉียบแหลมเช่นนั้น ก็ต่างพากัน ถอนต้นไม้ขึ้นมาแล้ววัดราก แล้วจึงฝังลงไปใหม่ แล้วจึงรดน้ำ”
บันทึกหลังเรื่องเล่า
ในโลกนี้ มนุษย์อาจแบ่งเป็นสองประเภท
คือ คนโง่ และคนฉลาด
กล่าวกันว่า ถ้าหากฉลาดก็ขอให้ฉลาดอย่างน่าบูชา
อย่าฉลาดแกมโกง
และถ้าโง่ ก็ขอให้โง่อย่างน่าสงสาร
อย่าโง่แล้วอวดฉลาดเลย...