ที่มาของคำไทย สุภาษิตไทยและ ชื่อต่าง ๆ และ อีกมากมาย 10


รู้ไว้ใช่ว่า

ที่มาของ O.K.

คนส่วนใหญ่ น้อยคนนักที่ไม่รู้จักคำว่า O.K. เรามักจะได้ยินคนพูดกันติดปาก ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ ไม่ว่าวัยใดก็ตาม แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า.. คำคำนี้มีที่มาอย่างไร ?
คำว่า O.K. มาจากคำเต็มว่า Oll Korrect ซึ่งที่ถูกต้องคือ All Correct ( แปลว่า ถูกต้อง ) มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจจาก พ่อค้าชาวอเมริกันคนหนึ่ง มีฐานะ ตำแหน่งหน้าที่การงานสูง แต่การศึกษาน้อย ทุกครั้งที่เขาสั่งงานลงในใบสั่ง ถ้างานชิ้นใดถูกต้อง ตกลง และอนุมัติ เขาจะ เขียนคำว่า Oll Korrect ลงในใบสั่งใบนั้นเสมอๆ ต่อมากิจการของพ่อค้าคนนี้ มีความเจริญก้าวหน้ามาก งานที่ติดต่อมาก็มีมากขึ้น ใบสั่งงานก็มีมากมายล้นโต๊ะ การที่เขาจะต้องเขียนคำ Oll Korrect ลงในใบสั่งทุกใบทำให้ต้องใช้เวลามาก เขาจึงย่อเหลือเพียงสั้นๆ คำ O.K. ซึ่งมีผล และความหมายเหมือนกัน คำว่า "อนุมัติ" นั่นเอง และก็เลยมีการใช้กัน อย่างแพร่หลาย ทั้งภาษาพูด และภาษาเขียน มากันจนปัจจุบันทั่วโลกทีเดียว.

 

ที่มา เก้าอี้

สมัยโบราณตามบ้านคนไทยมิได้มีเก้าอี้ใช้กัน เนื่องจากวัฒนธรรมดั้งเดิมของเราคือการนั่งและนอนบนพื้น แม้แต่การรับประทานอาหาร ก็ตั้งสำรับกับข้าวนั่งล้อมวงกันบนพื้นบ้าน ดังนั้นเครื่องเรือนของคนไทยสมัยก่อนจึงมีเพียงเสื่อ พรม และหมอนอิง เป็นอาทิ คนไทยเราน่าจะได้รับเอาเครื่องเรือนชนิดนี้มาจากชาวจีน เพราะคำว่า "เก้าอี้" ไม่ใช่คำไทยแท้ แต่เป็นคำในภาษาจีนแต้จิ๋ว หมายถึง ม้านั่ง ส่วนสำเนียงจีนกลางออกเสียงว่า "เกาอี่" เกาแปลว่าสูง อี่แปลว่าที่นั่ง รวมความคือ ที่นั่งสูง จึงเป็นไปได้ว่าคำ "เก้าอี้" ที่ไทยใช้ น่าจะเป็นคำเพี้ยนเสียงมาจาก เกาอี่ ของสำเนียงจีนกลาง หรือทับศัพท์สำเนียงแต้จิ๋ว เก้าอี้ ก็ได้
เก้าอี้ที่ใช้กันในระยะแรกเป็นเพียงม้านั่งธรรมดาอย่างที่ใช้กันตามร้านก๋วยเตี๋ยว ส่วนเก้าอี้ที่มีพนักพิงและที่เท้าแขนแพร่มาสู่ประเทศไทยในระยะหลัง (มีบันทึกว่าจีนรับเก้าอี้มีพนักพิงและที่เท้าแขนมาจากพวกแขกที่ติดต่อค้าขายด้วย) อย่างไรก็ตามคนไทยยังคงเรียกเครื่องเรือนทั้งสองลักษณะว่า "เก้าอี้" ตามคำในภาษาจีน

 

 

ที่มา สัญลักษณ์ไฟหมุนที่ร้านตัดผม

สัญลักษณ์ไฟหมุนที่ร้านตัดผม เรียกว่า "บาร์เบอร์ โพล" (barber pole) ถือกำเนิดขึ้นในทวีปยุโรป ยุคที่ช่างตัดผมรวมอยู่ในอาชีพหมอฟันและศัลยแพทย์ หรือจะว่าผ่าตัด ถ่ายเลือด ทำฟัน เป็นภาระหน้าที่อย่างหนึ่งของช่างตัดผมก็ได้

เป็นเช่นนั้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่ พ.ศ.1639 ที่ประเทศฝรั่งเศส ด้วยฝีมืออาร์คบิชอปแห่งร็วง เมืองหลวงของแคว้นนอร์มังดี ท่านสั่งห้ามบุรุษไว้หนวดเคราโดยเด็ดขาด ทำให้กิจการตัดผมและโกนหนวดเครามีความจำเป็นมากขึ้น แล้วใครจะมีของมีคมเท่าศัลยแพทย์เล่า

กระทั่งภายหลังเมื่อการแพทย์มีความชัดเจนในสาขาของตนยิ่งขึ้น อาชีพศัลยแพทย์กับช่างตัดผมจึงถึงแก่กาลต้องแยกจากกันโดยสิ้นเชิง เหลือเพียงสัญลักษณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญตกทอดเป็นมรดกจากหมอผ่าตัดถึงช่างผัดผม

เรื่องก็เพราะ ครั้งยังทำงานทูอินวัน ระหว่างการผ่าตัดถ่ายเลือดผู้ป่วย คุณหมอจะพาดแถบผ้าพันแผล 2 เส้น รอไว้ เส้นหนึ่งสำหรับพันรอบแขนผู้ป่วยก่อนถ่ายเลือด เส้นหนึ่งไว้พันแผลภายหลังงานเรียบร้อย นานเข้าแถบผ้าพันแผล 2 เส้น ก็เป็นภาพเจนตาจนเป็นที่เข้าใจตรงกันทั่วไปว่าเป็นร้านคุณหมอ (ที่รับตัดผมด้วย)

จากแถบผ้าพันแผลวิวัฒน์เป็นเสาทาสีเลียนแบบ ติดตั้งอย่างถาวรภายนอกร้าน มองคล้ายเกลียวริบบิ้น 2 สี เรียก "เกลียวริบบิ้นสีขาวแดงสองเส้นพันรอบแท่งเสา" ว่า บาร์เบอร์ โพล จากยุโรปไปถึงอเมริกา ช่างตัดผมอเมริกันรักชาติเติมสีน้ำเงินเข้าไปในบาร์เบอร์ โพล ด้วย เป็นสีแดง ขาว น้ำเงิน ตามสีธงชาติสหรัฐอเมริกา

บาร์เบอร์ โพล กลายเป็นสื่อสัญลักษณ์สากลของร้านตัดผมในที่สุด เห็นปุ๊บรู้ปั๊บว่าเป็นร้านตัดผม โดยไม่ต้องคอยมองหาป้ายชื่อร้าน ทั้งยังบอกให้ทราบด้วยว่าร้านเปิดทำการหรือไม่ หากไฟหมุนเปิดอยู่แสดงว่าร้านเปิด เข้าไปใช้บริการได้ หากไฟปิดคือร้านปิด ตรงไปร้านอื่นได้เลย

ต้นทางของวัฒนธรรมไฟหมุนหน้าร้านตัดผมจึงคือเมืองร็วง แคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยมหาวิหารนอเตรอดาม สร้างเสริมต่อเติมด้วยสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยจากศตวรรษที่ 12 ถึงศตวรรษที่ 19 และเป็นเมืองที่ฝังศพวีรบุรุษชาวฝรั่งเศสในยุคกลาง เฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่ฝังพระหทัยของพระเจ้าริชาร์ดใจสิงห์ (Richard the Lion Heart) กษัตริย์อังกฤษผู้ประทับอยู่ในฝรั่งเศสมากกว่าอังกฤษ

ใครเป็นคนคิดวิชาแคลคูลัส ?

แคลคูลัส เป็นวิชาคณิตศาสตร์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นพื้นฐานต่อการ ทำความเข้าใจโลก และปรากฏการณ์ต่าง ๆ แคลคูลัสช่วยให้เราสามารถ คำนวณวงโคจร ของดาวต่าง ๆ ช่วยให้เราคำนวณกระแสน้ำ ช่วยในการทำคำนวณหาเส้นแรง ในอาคารรูปแปลก ๆ เพื่อให้สามารถสร้างอาคารเหล่านั้นได้ โดยสรุปก็คือแคลคูลัส เป็นวิชาที่จำเป็นสำหรับนักวิทยาศาสตร์แทบทุกแขนง
ผู้ที่เกิดแนวคิดเรื่องแคลคูลัสก่อนผู้ใดเมื่อราว พ.ศ. 2210 ก็คือ เซอร์ ไอแสค นิวตัน นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ หลังจากนั้นไม่นาน นักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมันชื่อ กอตฟรีด ไลปนิซ ก็เกิดแนวคิดในทำนองเดียวกันด้วย ทั้งสองคน เขียนจดหมายแลกเปลี่ยนทัศนะ และแนวคิดกัน ต่อมานิวตัน ซึ่งเป็นคนที่ขี้ระแวงและโมโหง่าย ได้กล่าวหาว่าไลปนิซ เป็นผู้ขโมยความคิดเรื่องนี้ของตนไป
อย่างไรก็ตามปรากฏว่าแม้ ไลปนิซจะคิดเรื่อง แคลคูลัสช้ากว่านิวตัน แต่กลับนำผลงานไปตีพิมพ์เผยแพร่ก่อน ปัจจุบันนักประวัติคณิตศาสตร์ได้สรุปว่า แคลคูลัส เป็นผลงาน คิดค้นของทั้งนิวตันและไลปนิซ

 

 

ฟ้าผ่าลงหรือขึ้น


เมื่อ ค.ศ. 1752 นักการเมืองและนักวิทยาศาสตร์ชื่อ เบนจามิน แฟรงคลิน ทำการทดลองและพิสูจน์ให้เห็นว่า ฟ้าแลบฟ้าผ่าคือประกายไฟฟ้าสถิต โดยใช้ลวดติดหัวว่าวซึ่งทำด้วยเพชร ปลายสายลวดสุดผูกลูกกุญแจไว้ใกล้ๆ เครื่องตรวจประจุไฟฟ้า เหนือลูกกุญแจขึ้นมาเป็นสายแพรสำหรับชักว่าว ซึ่งเขาจะยืนชักเชือกว่าว
อยู่บนแท่นทำด้วยฉนวนในอาคารพิเศษ ไม่ให้สายชักเปียกฝน
จากการทดลองนี้เขาอธิบายได้ว่า ฟ้าแลบ เกิดจากประกายไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจากประจุไฟฟ้าลบ แล่นไปยังประจุบวกระหว่างเมฆที่เคลื่อนที่เข้ามาใกล้กันพอ ฟ้าแลบชนิดแผ่น เป็นแสงสะท้อนของฟ้าแลบชนิดแฉกที่ห่างไกล จึงไม่สีใดๆตามมา ฟ้าแลบชนิดแฉก จะทำให้อากาศรอบสายฟ้าขยายตัวอย่างฉับพลัน เป็นคลื่นผลักดันกันเกิดเป็นเสียงดังเปรี้ยงปร้าง เรียกว่า ฟ้าร้อง
ส่วนฟ้าผ่า เป็นปรากฎการณ์ที่ก่อให้เกิดภัยพิบัติ ในปี ค.ศ.1971 โรเจอร์ เซ็ง ค้นพบว่า ละอองน้ำจะเยือกแข็ง ณ อุณหภูมิ -15 องศาเซลเซียส มีประจุลบ จะสลัดหยดเล็กที่มีประจุบวกออกมา บริเวณที่จะมีฟ้าผ่าจะต้องปกคลุมด้วยเมฆฝนฟ้าคะนอง ซึ่งมีประจุบวกอยู่ตอนล่างสุดของเมฆ เป็นตัวล่อให้ประจุลบในเมฆแล่นลงสู่พื้นดินเรียกว่า สายนำ อันจะเหนี่ยวนำให้ประจุตรงข้ามจากบริเวณยอดตึกยอดไม้แล่นสวนทางเป็นสายฟ้าย้อนขึ้นทันที ฉะนั้นที่เราเห็นฟ้าผ่ามีสายฟ้าแวบเดียวนั้น ความจริงมีสายฟ้าขึ้น-ลงระหว่างเมฆกับพื้นดินหลายสาย แต่ตาเราแยกไม่ทันจึงเห็นแต่สายฟ้านำผ่าลงแต่อย่างเดียว แต่ถ้าลองตรวจสภาพของเนื้อไม้ที่ถูกฟ้าผ่า จะเห็นว่าเนื้อไม้แตกออกเป็นเสี้ยนที่มีส่วนแหลมขึ้นไปหายอด อันเกิดจากสายฟ้าย้อนขึ้นชัดเจน

 

 

 

ปีแสงคืออะไร


แสงที่ส่องมาจากดวงดาวต่างๆ ที่อยู่บนฟากฟ้านี้ทำให้เรามองเห็นได้นั้น แท้ที่จริงแล้วแสงเหล่านี้อยู่ไกลจากโลกเรามาก และไม่มีหน่วยวัดใดๆ ที่จะสะดวกในการวัดความยาวไกลของดวงดาวเหล่านั้น ที่อยู่ไกลจากโลกของเราออกไปนักดาราศาสตร์จึ้งกำหนดหน่วยวัดชนิดหนึ่งขึ้นมา ซึ่งเรียกว่า ปีแสง ปีแสงเป็นระยะทางที่แสงเดินทางได้ภายใน 1 ปี ลองคำนวณดูก็ได้ว่า 1 ปีแสงนั้นมีความยาวเท่าไร เมื่อ 1 วินาที แสงเดินทางได้ 300,000 กิโลเมตร ใน 1 ปีจะมี 31,536,000 วินาที ดังนั้นแสงจะเดินทางได้ประมาณ 9,460,800,000,000 กิโลเมตรใน 1 ปีแสง

 

 

ที่มา บันไดเลื่อน

 มีวิวัฒนาการ มากจาก สายพาน ที่เลื่อนไปได้ ไม่มีจบสิ้น ใช้สำหรับ นำสินค้า เลื่อนไปในโรงงาน ต่อมา มีการใช้สายพานนี้ วางเอียงๆ เป็นเครื่องพา นักท่องเที่ยว ขึ้นไปบน หน้าผา นั่นเป็นรูปแบบดั้งเดิม ของบันไดเลื่อน ที่ไม่มีขั้นบันได
สำหรับบันไดเลื่อน รูปแบบที่ใช้อยู่ ในปัจจุบันนั้น บันไดแต่ละขั้น จะยึดติดกัน และมี ล้อเลื่อนขึ้นลงได้ ไปตามรางใต้บันได ขั้นบันได จะเลื่อนไปสู่ ปลายด้านหนึ่ง ของบันไดเลื่อน โดยจะค่อยๆ ลดระดับลง จนสุดที่ ปลายบันไดเลื่อน พาผู้ใช้ ขึ้นไปถึง ที่พักบันได เพื่อเลื่อน กลับมา การทำงานของบันไดเลื่อน จะมีมอเตอร์ไฟฟ้า หมุนเฟืองอันใหญ่ ฉุดให้ขั้นบันได เคลื่อนที่ นอกจากนี้ ยังฉุดราวบันได ซึ่งเป็น สายพานวิ่งได้รอบ ให้เคลื่อนที่ตามด้วย สำหรับให้ ผู้ใช้บันไดเลื่อน ยึดจับได้มั่น
ความเร็วของบันไดเลื่อนนั้น ประมาณ ๔๐ ฟุตต่อนาที แม้ลิฟท์ จะขนคนขึ้นที่สูง ได้เร็วกว่า แต่บันไดเลื่อน ก็ยังเป็น สิ่งจำเป็นอยู่ดี เพราะ บันไดเลื่อน เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ทำให้ ขนย้าย จำนวนคน ได้มากกว่าลิฟท์ ในเวลาเท่ากัน
ห้างสรรพสินค้า ไทยไดมารู ราชประสงค์ เป็นผู้นำ บันไดเลื่อน ตัวแรก เข้ามาในเมืองไทย เปิดบริการเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๐๗ ปรากฏว่า ชาวกรุง แห่กันไป ใช้บันไดเลื่อน กันเนืองแน่น ยายของ "ซองคำถาม" เอง ยังอุตส่าห์ นั่งรถจาก นครปฐม มาขึ้น บันไดเลื่อน กับเขาด้วย ห้างสรรพสินค้า ไทยไดมารู ที่ติดตั้ง บันไดเลื่อนตัวแรกนี้ ตั้งอยู่ทางฝั่ง ศูนย์การค้า เวิร์ลเทรดปัจจุบัน ต่อมา ห้าง ย้ายไปอยู่ ฝั่งตรงข้าม ไม่ทราบว่า เขาย้ายบันไดเลื่อนตัวแรก ตามไปด้วยหรือไม่ ปัจจุบัน อาคารห้างสรรพสินค้า ไทยไดมารู ถูกทุบทิ้ง ไปนานหลายปีแล้ว

 

ทำไมชาวมุสลิม มีภรรยาได้ 4 คน

คนทั่วไปมักจะรู้จักมุสลิมเพียงสองประการ คือ มุสลิมไม่กินหมู และมุสลิมมีภรรยาได้หลายคนว่าที่จริงการมีภรรยาหลายคนเป็นประเพณีที่มีมาแต่โบราณ บทบัญญัติของศาสนาส่วนใหญ่ในโลกก็ไม่ได้ห้ามการมีภรรยาหลายคน
ศาสนาอิสลามนั้นอนุญาตให้ชายมีภรรยาได้ไม่เกินสี่คน ภายใต้ข้อแม้ว่าจะต้องสามารถให้ความยุติแก่ผู้หญิงทั้งสี่ได้ ความยุติธรรมในที่นี้ได้แก่ความเท่าเทียมกันในด้านการจ่ายค่าครองชีพ (ค่าอาหาร เครื่องแต่งกาย และที่อยู่อาศัย) ไม่ก่อให้เกิดความกระทบกระเทือนแก่จิตใจของภรรยาคนใดคนหนึ่งต่อหน้าภรรยาคนอื่น ๆ และสามีต้องค้างคืนกับภรรยาแต่ละคนให้เท่า ๆ กัน
เหตุที่ศาสนาอิสลามอนุญาตไว้เช่นนี้ เพราะอิสลามส่งเสริมให้มีลูกมาก ๆ เพื่อจำนวนมุสลิมจะได้มีมากขึ้น อิสลามคำนึงถึงความจำเป็นของชายที่ปรารถนาจะสืบต่อวงศ์ตระกูล แต่ภรรยาไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้เพราะเป็นหมันหรือป่วย อีกทั้งชายบางคนก็มีความต้องการทางเพศสูง การอนุญาตให้เขามีภรรยาเพิ่มขึ้น (โดยที่เขาต้องเลี้ยงดูผู้หญิงใหม่ได้อย่างยุติธรรมดังกล่าวมาแล้ว) จึงย่อมดีกว่าปล่อยให้เขาไปหาทางออกทางอื่นที่เป็นบาป และอิสลามคำนึงว่าในโลกนี้มีพลโลกหญิงมากกว่าชาย ทำให้หญิงจำนวนมากต้องครองตัวเป็นโสด หากอนุมัติให้เธอแต่งงานกับชายที่มีภรรยาแล้ว ซึ่งสามารถให้ความสุขและความยุติธรรมแก่เธอได้ ย่อมเป็นการดีกว่า
อย่างไรก็ตาม การอนุญาตให้มีภรรยาได้ไม่เกินสี่คน เป็นข้อยกเว้นที่เปิดโอกาสให้กระทำได้ แต่มิได้หมายความว่าศาสนาอิสลามจะส่งเสริมให้ชายทุกคนมีภรรยาหลายคน และในหมู่ชาวมุสลิม ชายที่มีภรรยาหลายคนเมื่อเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วก็นับว่าน้อยมาก ในอียิปต์กฎหมายอนุญาตให้มีภรรยาได้ไม่เกินสี่คน แต่ปรากฏว่าผู้ที่มีภรรยามากกว่าหนึ่งคนมีเพียง ๒.๗๕ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

 

 

ปลาดื่มน้ำหรือไม่ ?

คำตอบคือ ปลาต้องกินน้ำเช่นเดียวกับสัตว์อื่นทุกชนิด (รวมทั้งคนเราด้วย) เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดได้ ปลาดึงออกซิเจนจากน้ำมาใช้หายใจด้วย คงมีข้อสงสัยตามมาว่า แล้วปลาที่ว่ายอยู่ในทะเลและมหาสมุทรล่ะ ต้องดื่มน้ำเค็มหรือ คำตอบคือ ใช่ แต่ปลาน้ำเค็มสามารถขับเกลือจำนวนมากออกไปจากตัวโดยอาศัยอวัยวะที่เรียกว่า "เหงือก" (gills) ช่วย ความสามารถขับเกลือนี้ช่วยอธิบายว่า ทำไมเนื้อปลาส่วนใหญ่ที่เรารับประทานจึงมีรสชาติไม่เค็มเลย ยกเว้นก็แต่ปลาฉลามเท่านั้น

 

 

คำสำคัญ (Tags): #ความรู้
หมายเลขบันทึก: 218919เขียนเมื่อ 26 ตุลาคม 2008 16:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม 2012 12:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท