หลังจากที่กลับมาบ้านก็รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับมา เหมือนที่เขาว่าที่ใดจะสุขเท่า่ที่บ้านเราไม่มีอีกแล้ว ตอนนี้ข้าวที่ปลักดำแล้วกำลังออกรวงสีเขียวขจีอยู่มองไปทางไหนก็มีแต่เจอแต่สีเขียวของข้าว และอีกไม่นานก็ีคงเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองทอง ที่เรียกกันว่า ข้าวรวงทอง
ตอนแรกที่ปลัักดำลงไปตรงนั้นดินเค็ม ดูเหมือนจะไม่รอดเลย แต่พอมาดูตอนนี้ก็รู้สึกโล่งใจต้นข้าวนี้สูงเชียว เดี๋ยววันหลังจะถ่า่ยรูปมาให้ดูก็แล้วกันครับ อิอิ…
และวันนี้ก็ได้ปลูกเตรียมแปลงผัก ตอนแรกก็คิดว่าไม่มีอะำไรหรอกแค่ทำแปลงผัก แต่พอทำจริงก็ไม่ใช่เรื่องหมูๆอย่างที่คิดเลย เ่ล่นเอาเหงื่อตกเหมือนกัน สิ่งที่ยังไม่ได้ลงมือทำเราก็ไม่มีวันรู้ว่ามันเป็นอย่างไร
หลังจากที่ทำแปลงเสร็จก็รดน้ำแล้วก็ลงมือปลูกหอมหัวแดงและหอมแบ่ง ในตอนเช้าก็ได้ไปเกี่ยวหญ้าให้วัวต้องตระเวนเกี่ยวตามคันนากว่าจะได้สักถุงปุ๋ยมันช่างยากลำบากเหมือนกันนะครับ ทำให้รู้ว่าเวลาจะเลี้ยงวัวต้องมีแปลงหญ้าเอาไว้เลี้ยงวัวไม่งั้นก็ต้องตระเวนหาหญ้าไปทั่วทุกที่เลย
หลังจากเกี่ยวหญ้่าเสร็จก็ต้องเอามาให้วัวอีก ซ้ำยังต้องหาบน้ำมาใส่ที่รองน้ำให้วัวกินอีกโดยใช้ไม้คานหาบน้ำ ซึ่งที่ผ่านมานั้นผมไม่เคยจะอยากใช้ไม้คานเลย แต่พอลองใช้ดูก็รูู้่ว่ามันสามารถทุ่นแรงเราไปได้เยอะเลยแต่ก็เหนื่อยพอดู ดังคำที่ว่า ขยันให้เหงื่อออกตามรูขุนขม แต่กว่าลำบากแล้วยากจน จนน้ำล้นออกทางตา เหนื่อนไม่กลัว กลัวไม่เหนื่อย ความลำบากไม่เคยฆ่าใคร ซ้ำยังสอนคนให้เป็นคนอีกด้วย
สวัสดีเจ้าค่ะ พี่เทพจ๋า
น้องจิแวะมาดูกิจกรรมหลังปิดเทอม อิอิ ตอนนี้น้องจิจะเปิดเทอมอีกแล้ว เอิกๆๆ คิดถึงนะค่ะ รักษาสุขภาพด้วยเจ้าค่ะ...หนูจิ
ผมก็ทำงานไม่กลัวเหนื่อยครับ เหนื่อยก่อนพักก่อนครับ อิอิอิ
บ้านคือ วิถีชีวิตที่สมบูรณ์ มากกว่าที่ใดๆ