อย่าหลงเพลินกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ จนลืมเป้าหมายที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์
ที่ผ่านมาหลังเลนส์ใช้ชีวิตที่โลดแล่นอย่างโลดโผนอยู่ในยุทธจักรของอบายมุขมามากพอกับหลายๆ ท่าน เพราะในช่วงชีวิตนั้นคิดว่าเหล่านี้มัน คือ ความสุขที่แท้จริงของชีวิต โดยไม่ได้สนใจในเรื่องของพระพุทธศาสนาเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งมีโอกาสเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท เมื่อ 21 ปีที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลาในพรรษา 3 เดือน ก็เข้าร่วมกิจกรรมกับหมู่คณะทุกกิจกรรมด้วยความจำใจ และในใจก็คัดค้านอยู่เสมอว่าทำแล้วได้อะไร ทำเพื่ออะไร บาป บุญ นรก สวรรค์ มีจริงหรือไม่ เหล่านี้เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ
3 เดือนของการใช้ชีวิตของพระสงฆ์นั้น จะต้องตื่นนอนแต่เช้ามืด สวดมนต์ทำวัตรเช้า นั่งสมาธิ ภาคสาย ฟังเทศน์ นั่งสมาธิ ภาคค่ำสวดมนต์ทำวัตรเย็น ฟังเทศน์ นั่งสมาธิ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เฉลี่ยแล้วใน 1 วัน จะต้องนั่งสมาธิราว 6 – 8 ช.ม. เมื่อวันเวลาผ่านไปสังเกตดูจิตของตัวเองปรากฏว่า มันมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ความสับสนวุ่นวายลดลงอย่างเป็นได้ชัด จนจิตสงบมากๆ จนเห็นความว่างของจิต และเกิดปัญญามองเห็น บาป บุญ นรก สวรรค์ พอเป็นเค้าลางประดับสติปัญญาตัวเองได้บ้าง ทำให้มองเห็นว่าการดำเนินชีวิตตามข้อความในวรรคแรกนั้น มันเป็นความผิดพลาดทั้งหมด หากย้อนเวลาได้เราคงไม่ไปทำอย่างนั้น
นับจากวันนั้นจนถึงขณะนี้รวม 21 ปี หลังเลนส์กลายเป็นคนใหม่ พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือท่ามกลางความสงสัยของเพื่อนร่วมงานเป็นอันมาก ว่าเปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ทำให้หลังเลนส์ได้คำตอบว่าเป้าหมายที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์ก็คือ การเกิดมาเพื่อสร้างบารมีสั่งสมบุญเพื่อเป็นเสบียงติดตามตัวไปในภพหน้า เพราะชีวิตของการเกิดมานั้นมันสั้นนัก บางคนอาจตายตั้งแต่อยู่ในท้อง หรือหลายต่อหลายคนก็มีอายุไปจนถึงความตายนั้นแตกต่างกันไป ซึ่งไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าจะตายเมื่อไหร่ ดังนั้น บางคนหมดโอกาสในการสร้างบารมีหรือบางคนใช้เวลาในการสร้างบารมีน้อย
ที่หลังเลนส์นำเสนอเรื่องนี้มาก็เพื่อ จะได้เป็นสติเตือนใจว่า ชีวิตหลังความตายนั้น สิ่งที่เราจะได้ไปนั้นก็คือ บุญกับบาป เพื่อส่งไปนรกหรือสวรรค์เท่านั้น ส่วน ลาภ ยศ สรรเสริญ นั้นเอาไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อยซึ่งเราทราบกันดี ในฐานะที่เป็นชาวพุทธก็จึงอยากให้ชาวพุทธด้วยกันได้พิจารณาใคร่ควรเอาไว้บ้าง อยากจะบอกส่งท้ายว่า วัดที่หลังเลนส์เข้าไปบวชและปฏิบัติธรรมนั้น คือ วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ที่หลายต่อหลายคนต่อต้านวิพากวิจารณ์ ดังนั้น เพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องชัดเจนเกี่ยววัดพระธรรมกาย หลังเลนส์ขอเชิญทุกท่านได้ไปสัมผัสด้วยตัวเองแล้วนำมาวิเคราะห์ด้วยเหตุด้วยผลด้วยใจที่เป็นกลาง ก็น่าจะได้คำตอบที่ถูกต้องครับท่าน
ไม่มีความเห็น