ขี้เลื่อยยังมีค่า?


ขนาดขี้เลื่อย เมื่อเอาความรู้เข้าไปจัดการกับมัน ยังกลายเป็นของมีค่ามีประโยชน์ แล้วคน (รวมถึงที่หัวขี้เลื่อย) นี่ เมื่อเอาความรู้เข้าไปแล้ว น่าจะมีค่า มีประโยชน์กว่าขี้เลื่อยมากมาย แต่ก็แปลกเหมือนกัน ที่บางทีบางคนก็ไม่เป็นเช่นนั้น ???

วันเสาร์ที่ผ่านมาผมไปซื้อเฟอร์นีเจอร์ ๒-๓ ชิ้น ในโอกาสย้ายบ้านไปอยู่บ้านเช่าหลังใหม่ นี่คงเป็นข้อดีของคนอยู่บ้านเช่ากระมัง ที่เมื่อเบื่อบ้านที่เช่าอยู่ปัจจุบันก็ย้ายไปเช่าบ้านหลังใหม่ได้ ซึ่งคนมีบ้านเองคงไม่ทำเช่นนั้น ยกเว้นอาจจะตกแต่งบ้านหรือบางส่วนของบ้านใหม่

เรื่องของเรื่องก็คือ เฟอร์นีเจอร์ชิ้นหนึ่งที่ไปซื้อคือ ตู้รองเท้าแบบน็อกดาวน์ ทำจากขี้เลื่อย (เรามักจะได้ยินการเปรียบเทียบว่าคนที่คิดไม่ค่อยเป็นว่าเป็นคนหัวขี้เลื่อย) แต่ คนที่มีความรู้กลับสามารถแปลงขี้เลื่อยธรรมดาๆให้มีราคา เป็นเฟอร์นีเจอร์ เป็นตู้รองเท้าที่สวยงาม และใช้ประโยชน์ได้

หลังจากสั่งสินค้าแล้วเฮียเจ้าของร้านบอกว่า นั่งรอสักครู่กำลังให้ลูกน้องประกอบอยู่ (ผมเป็นลูกค้าของเฮียมาตั้งแต่สมัยเริ่มทำงานบริหารโรงเรียน อายุตอนนั้นประมาณ ๒๐ กว่าๆ เห็นจะได้ ที่ใช้บริการร้านเฮียมาตลอด (๒๐ กว่าปี) ก็มีที่มาครับ คือ โรงเรียนที่ผมบริหารอยู่ย้ายไปที่ใหม่ ที่นี้ผมรับผิดชอบสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ของโรงเรียนใหม่ งบมีจำกัดแต่ห้องเรียนและสำนักงานมีหลายสิบห้อง ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ก็เดินดุ่มไปหาเฮียและบอกว่าจะมาซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้กับโรงเรียนและไม่มีเงินสดเลย ขอผ่อนเดือนละรายการได้มั้ยครับ เฮียแกอึ้งไปพักหนึ่ง ตบบ่าผมแล้วบอกว่า "คนกันเอง ได้ซิ เอาเลยจะเอากี่ชุดอะไรบ้าง"

แทนที่จะนั่งรอผมเดินไปที่โกดัง ไปดูลูกน้องเฮียซึ่งกำลังประกอบตู้รองเท้าอยู่ ใช้เวลาไม่นานตู้ก็ถูกประกอบเสร็จสมบูรณ์

จริงๆแล้วการซื้อเฟอร์นิเจอร์ประเภทน็อกดาวน์ เคล็ดลับหรือเสน่ห์ของมันอยู่ที่การได้ประกอบเฟอร์นิเจอร์ด้วยมือตัวเอง มันเหมือนกับการเล่นกมส์ต่อประเภทหนึ่งที่เมื่อต่อสำเร็จแล้ว เราจะได้รางวัลเป็นของชิ้นหนึ่งที่ใช้ประโยชน์ได้ 

มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากการซื้อเฟอร์นีเจอร์สำเร็จรูป ที่ผู้ซื้อไม่มีส่วนในการประกอบมันขึ้น การประกอบเฟอร์นิเจอร์น็อกดาวน์ได้ปลุก "ความอยากรู้แบบเด็กๆ" ให้ตื่นขึ้น มันเป็นเฟอร์นีเจอร์ที่มี "ความพยายาม" ของเราอยู่ในนั้นด้วย

และที่สำคัญเฟอร์นีเจอร์น็อกดาวน์นี่ มี "ความคิดสร้างสรรค์และการวางแผนที่ดีเยี่ยม" อยู่ในนั้น เป็นการเปลี่ยนของไร้ค่าให้มีค่า มีประโยชน์

ขนาดขี้เลื่อย เมื่อเอาความรู้เข้าไปจัดการกับมัน ยังกลายเป็นของมีค่ามีประโยชน์ แล้วคน (รวมถึงที่หัวขี้เลื่อย) นี่ เมื่อเอาความรู้เข้าไปแล้ว น่าจะมีค่า มีประโยชน์กว่าขี้เลื่อยมากมาย

แต่ก็แปลกเหมือนกัน ที่บางทีบางคนก็ไม่เป็นเช่นนั้น

???

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 217736เขียนเมื่อ 20 ตุลาคม 2008 13:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 02:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

จะหัวดี หรือหัวขี้เลื่อยล้วนมีความสามารถต่างกัน

ความสามารถต่างกัน ไม่ใช่ปัญหาครับ เจ้าหญิง ขอเพียงความสามารถนั้นถูกใช้ไปและเกิดประโยชน์ต่อคนอื่นและโลก เช่น แม้ไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ไม้สักราคาแพง เป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์น็อกดาวน์ที่ทำจากขี้เลื่อยดังที่บันทึกไว้ในบล็อก

อุปมาดังชีวิตของมนุษย์ แม้ไม่ได้เกิดมาในวงตระกูลที่มั่งคั่งร่ำรวย (เช่นไม้สัก)หรือไม่ได้มีมันสมองที่เลอเลิศ เป็นคนที่มีสมองธรรมดาๆ เฉกเช่น ขี้เลื่อย แต่หากขวนขวายหาความรู้ ก็สามารถมีประโยชน์ มีคุณค่าในระดับหนึ่ง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท