L.O.A. กฟภ.โรงแรมมิราเคิล แกรนด์


มนุษย์มีศักยภาพไม่มีขีดจำกัดทั้งทางบวกและทางลบ

       ความรู้ส่วนภูมิภาคมีมาเกือบ 50 ปีแล้ว ผมชื่นชมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาตลอด และมีโอกาสมาร่วมหลายครั้ง ในวันนี้ ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์  ผมดีใจที่ได้มีโอกาสมาประสานความรู้ให้ท่านผนึกกำลังกันในการทำ Workshop แล้วนำไปแก้ปัญหา เสนอความคิดใหม่ๆ

 

                            KM การเรียนรู้                  LO วัฒนธรรมการเรียนรู้

                    -     การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คือองค์กรที่พัฒนาประเทศตัวจริง

                    -     อยากให้ กฟภ. เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ วัดผลได้

 

ผมหวังว่าลูกศิษย์ทั้งหมดใน กฟภ. จะเข้ามาร่วม Share ความรู้นะครับขอบคุณครับ

จีระ หงส์ลดารมภ์

หมายเลขบันทึก: 215144เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2008 10:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (41)

อยากให้เปลี่ยน KM ไปสู่ LO เพราะต้องการทำให้สังคมเป็นเลิศ ไม่ใช่แค่องค์กร กฟภ. เท่านั้น

ดังนั้นการจะทำอะไร จึงต้องทำ 3 ต. คือ ต่อเนื่อง ต่อเนื่อง และต่อเนื่อง

เราคิดแค่ว่า ทุกวันนี้ เราทำงานเยอะ แต่อันที่จริง เราทำงานเยอะ แต่เราคิดน้อย เราต้อง ใฝ่รู้ ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองให้มากขึ้น

มนุษย์มีศักยภาพ ไม่จำกัด ทั้งในทางบวกและทางลบ

เราจะต้องมีความรู้เพื่อใช้จัดการเปลี่ยนแปลงตัวเองไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น

องค์กรแห่งการเรียนรู้ จะทำให้เกิด

- การแข่งขันได้

- High performance

- สร้าง Good ไปสู่ Great

- ความภูมิใจของพนักงานที่ยั่งยืน ในอนาคต

1. เราต้องใช้ความรู้ที่สด และข้ามศาสตร์ เพื่อแก้ปัญหา

2. เราต้องจัดการกับความไม่แน่นอนได้

3. เราต้องแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ช่วยกันสร้างสังคม คุณธรรม จริยธรรม มี Corporate Social Responsibility

สิ่งแรกในองค์กรแห่งการเรียนรู้คือ ต้องหันมาสังเกตุตัวเองก่อน

เราเรียน แต่ยังไม่ได้นำไปใช้ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม

ต้องคิดเป็นระบบ , เดินสายกลาง , บริหารความเสี่ยง

ต้องรู้ให้จริง ให้ทันเหตุการณ์

 

กราบเรียน อาจารย์ค่ะ

ขอบคุณที่อาจารย์ให้ความรู้ในเรื่ององค์กรแห่งความรู้ โดยบรรยายและให้ตัวอย่างทำให้เข้าใจ และก่อนให้เกิดความรู้สึกที่จะหาความรู้ใหม่ๆ ให้กับตัวเองมากขึ้น และอยากที่จะอ่านหนังสือด้านนี้มากขึ้นค่ะ

กลุ่มที่อบรมที่ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์นี้ เป็นพนักงาน จากส่วนกลาง แต่ผมก็เห็นว่า ความสนใจ ความตั้งใจ และความกระตือรือล้น ก็เป็นเลิศ ไม่แพ้เขตอื่นๆ หวังว่า ทุกคน จะมีความตั้งใจที่จะใฝ่รู้อยู่ตลอดเวลา

จีระ หงส์ลดารมภ์

กราบเรียน ศ.ดร.จีระค่ะ

ท่านเป็นผู้มีความรู้มาก และมีวิสัยทัศน์กว้างไกล และทำให้ดิฉันได้รับความรู้จากการสัมนาในครั้งนี้มาก และ สามารถนำแนวคิดของท่านที่ให้ข้อคิดต่างๆ นำไปพัฒนางานใน กฟภ. ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ดร.จีระ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์มากเกี่ยวกับด้านทรัพยากรมนุษย์ สามารถให้ความรู้และแง่คิดต่างๆ ได้ดีมาก

 

การเรียนรู้เป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาตนเอง และนำมาพัฒนา องค์การ สังคม รวมทั้งประเทศชาติได้

สิ่งสำคัญที่สุดที่จะสร้าง วัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ เพื่อนำสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ได้ คือ คน โดยบุคลากรในองค์กร ต้องละทิ้งความคิดเก่าๆ และบุคลากรทุกระดับในองค์กรต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้

- ผู้บริหารต้องมีความเข้าใจ สร้างบรรยากาศ และให้การสนับสนุน อย่างจริงจัง ต่อเนื่อง

- ตนเอง หรือคนในองค์กร ต้องขวนขวาย มีความกระตือรือล้น ที่จะเรียนรู้อยู่เสมอ เปิดใจกว้างพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่

ดร.จีระ มีความรู้มาก แต่ยังถ่ายทอดได้ไม่มาก การดึงศึกยภาพพนักงาน ยังน้อย การให้ความรู้ ยังถ่ายทอดไปยังพนักงานไม่ถึง

เห็นด้วยกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของ กฟภ. แต่การเลือกวิทยากรในการให้ความรู้ ควรมีวิจารญานในการเลือก วิทยากรไม่ควรเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง ควรยกตัวอย่าง จากสภาพแวดล้อมของประเทศ โลก และสังคม

หากผู้ฟังเกิด อคติ (Bias) ต่อวิทยากร การรับรุ้ เรียนรู้ ไม่รับเต็มเนื้อหา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำ workshop เป็นเรืองของการ Brainstorm การ Discussion ไม่ใช่การมาฟังวิทยากร พูดและชื่นชมตัวเองอย่างเดียว

เห็นด้วยกับการเรียนรู้ และแลกเปลี่ยนทักษะ แต่ไม่เห็นด้วยกับการเรียนรู้แบบนี้

ทฤษฎีการเรียนรู้ และการพัฒนา ศักยภาพมนุษย์

เป็นวิทยากรที่มีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถในการปลุกเร้า และสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟัง หรือผู้รับการถ่ายทอดเป็นอย่างดี โดยมีการยกตัวอย่าง เปรียบเทียบกับสถานการณ์เป็นจริง ท้งในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งการยกตัวอย่างจะต้องชี้ผลดี ผลเสีย ให้ชัดเจน สำหรับการตัดสินในอย่างใดอย่างหนึ่ง

- การยกตัวอย่าง อาจจะต้องวิเคราะห์ในเหตุผลทั้ง2 ด้าน คือ หากบุคคลใดบุคคลหนึ่งจะกระทำหรือตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจมีผลจากปัจจัย หลายประการได้แก่

- สภาพแวดล้อม ของเหตุการณ์ในขณะนั้น

- ภูมิหลังของบุคคล

- วัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของบุคคลนั้น ฯลฯ

ซึ่งการให้ความเห็นของวิทยากรอาจจะต้องคำนึงถึงความเห็นของบุคคลที่อ้างถึงด้วย ในด้านบวก เช่น ในกรณีของ กฟภ. ส่งเสริมกีฬา เพื่อการพัฒนาบุคลากร ชื่อเสียง และเอื้อประโยชน์ให้แก่วงการกีฬา ของประเทศ ควรมีแนวทางที่ชัดเจน และเตรียมพร้อมในการรับผลกระทบในด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น งบประมาณ , หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง

สำหรับประเด็นการพัฒนาบุคลากร (HR) ที่เน้นเรื่องการเรียนรู้ขององค์กร การทุ่มเทงบประมาณในการพัฒนา อาจเป็นปัจจัยหลัก แต่ต้องคำนึงถึงวัฒนธรรมที่ปลูกฝังกันมาอย่างยาวนานของ กฟภ. เช่น โครงสร้างที่เป็นยอดปิรามิด , การยึดมั่นในขอบเขตความรับผิดชอบเฉพาะหน่วยงาน

อุปนิสัยและจริยธรรมบางประการของผู้บริหาร (อัตตา, ประชาชนผู้ใช้บริการ) ซึ่งปัจจุบัน จะก้าวตามองค์กรอื่น หรือถูกชี้นำ จากองค์กรภายนอก ที่มีอิทธิพลสำหรับผลประโยชน์ขององค์กร หากจะให้ กฟภ. เป็นองค์กรที่รับผิดชอบ ต่อภารกิจ ความสำเร็จ ความก้าวหน้าของประเทศ จะต้องทำให้ กฟภ. ก้าวเดินในเส้นทางโดยบุคลากรทุกคน มีส่วนร่วมกันในการกำหนดทิศทาง มีความรับผิดชอบร่วมกัน อย่างต่อเนื่อง มีการวางแผน กำหนดทิศทาง ส่งเสริม สนับสนุน การดำเนินงาน เพื่อจุดหมายร่วมกัน และบางครั้งต้องมีการแก้ไขปัญหา อุปสรรค ต่างๆ ในระหว่างการก้าวสู่จุดหมายนั้น โดยอาจต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ขององค์กรมากกว่า ตัวบุคคล หรือกลุ่มคน

อาจารย์ถ่ายทอดวิชาการที่ให้ความรู้อย่างมาก อาจารย์พูดเยอะ ชัดเจน ทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้ ว่าจำเป็นต้องมีอย่างมาก และอย่างต่อเนื่อง

ผมอยากให้พี่จีระ พูดถึงการมองไปข้างหน้า นอกจากการเรียนรู้แล้ว ผมอยากให้มีการวิเคราะห์ถึงปัญหาขององค์กรในการมองไปข้างหน้าว่าในอนาคต การใช้พลังงานไฟฟ้า นอกจากจะมีการแข่งขัน กับ SPP แล้ว การมองให้เห็นถึงพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นการอนุรักษ์พลังงาน การเตรียมพร้อมและการเตรียมตัวรวมทั้งการวิเคราะห์ และวิจัย ถึงเทคโนโลยีที่สมัยใหม่ให้พนักงานเรียนรู้ ซึ่งผมมองไปว่า พลังงานทดแทนเหล่านี้ จะนทำให้การขายพลังงานไฟฟ้าขององค์กรเปลี่ยนไป เช่นเรื่อง solar cell หรือ การใช้พลังงานจากขยะ พลังงานลม ซึ่งต่อไปพลังงานที่ใช้แทนพลังงานน้ำ หรือพลังงานถ่านหินหรือก๊าซ หรือน้ำมัน ซึ่งจะหมดไปในอีก 40 ปีข้างหน้า

ว่าที่ร.ต. ไชยยศ มุกกะนันทน์

การบรรยายของ ศ.ดร.จีระ เป็นการบรรยาย เรื่องการสร้างความตระหนักองค์กรแห่งการเรียนรู้ ท่านได้แสดงให้เห็นว่า ท่านจะมาบรรยายให้กับหน่วยงานใด ท่านได้ศึกษาวัฒนาธรรมองค์กร โครงสร้าง ของหน่วยงานนั้นๆ ก่อนที่จะมาบรรยายให้ หน่วยงานนั้นฟัง เท่ากับว่าเป็นการเตรียมตัว ค้นคว้า เรียนรู้ ก่อนที่จะลงมือปฏิบัติ เท่ากับเป็นตัวอย่างให้คิดว่า ถ้าจะทำงานใดๆ ต้อง รู้จริง รู้ลึก เพียงพอก่อนที่จะลงมือทำ หากไม่มีการศึกษาเรียนรู้ ก็จะไม่สามารถดึงศักยภาพ ของผู้เข้าร่วมสัมนาในโครงการได้ เหมือนสุภาษิตที่ว่า "รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง" เพราะการเรียนรู้ ซึ่งเป็นพื้นฐานของคนทุกคน หากทุกคนลืมพื้นฐานของการเรียนรู้ จะไม่ประสบความสำเร็จตามที่มุ่งหวัง

 

ดร.จีระ นอกจากจะเป็นวิทยากรที่มากด้วยความรู้และประสบการณ์แล้ว ยังเป็นผู้ที่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง และมีศิลป์ในการพูด สามารถกระตุ้นให้ผู้เข้ารับการสัมนาเกิดความตื่นตัว และเกิดความสนใจเกี่ยวกับเรื่ององค์กรแห่งการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี

นายไพบูลย์ รูปประดิษฐ์

อาจารย์ควรปูพื้นฐาน ความรู้ก่อน เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเข้าใจก่อนที่จะมีการทำ workshop

เอกสาร ควรมีเนื้อหา ที่น่าสนใจ มีรายละเอียดเพียงพอ

- อาจารย์จีระ ควรพูดถึงรายละเอียด ของทฤษฎีให้ผู้ฟังเข้าใจบ้าง เพราะบางคนไม่รู้เรื่องมาก่อน บางทฤษฎี อาจารย์แต่ละคนอธิบายต่างกัน ซึ่งผู้เข้าสัมนา ควรจะได้ความรู้มากในเรื่องพื้นฐานของทฤษฎี

- ชอบที่เป็นคนพูดวิจารณ์ วิเคราะห์ ตรงไปตรงมา

- เมื่ออาจารย์ให้ทำ workshop แล้ว ก็ควรเปิดโอกาสให้ present ครบทุกกลุ่ม อาจจะใช้เวลาสั้น ๆ

- อาจารย์บริหารเวลาได้ดีมาก เพราะการพูดถึงเวลา จะมีการบอกล่วงหน้า

- ช่วงทำ workshop อาจารย์พูดออกไมโครโฟน ตลอด ทำให้ผุ้เข้าสัมนาทำ workshop ไม่ได้ (จนเวลาหมด)

จากการที่ได้มีโอกาส ได้เข้าอบรม องค์กรแห่งการเรียนรู้ กับท่าน ถือเป็นโอกาสที่ดีมาก ได้รับความรู้ และแนวคิดที่มีประโยชน์ ถือเป็นการจุดประกาย การให้ความคิดเพิ่มพูน ความรู้ รวมทั้ง แบ่งปันและแลกเปลี่ยนความซึ่งกันและกัน ให้จริงจัง และชัดเจนมากขึ้น

ดิฉันกราบขอบคุณท่านอาจารย์ที่สละเวลามาให้ความรู้ แก่พนักงาน กฟภ. สิ่งที่ได้รับอย่างมากคือ การกระตุ้นให้เกิดความอยากรู้ นอกกรอบ และ ความรู้อื่นๆ ทั่วไปที่เคยคิดว่า อาจไม่สำคัญ จนทำให้ตระหนักได้ว่า ไม่ว่าความรู้ด้านใด ก็มีความสำคัญทั้งนั้น จึงตั้งใจจะหาความรู้ให้มากขึ้น กว่าที่เป็นอยู่

ท่านมีความรู้และประสบการณ์ในด้านต่างๆ มากมาย มีเป้าหมายในการคิดการพูด และการทำ ที่ชัดเจน เพื่อนำไปปฏิบัติ และสร้างให้เป็นนิสัย ซึ่งมีความสำคัญมาก และจะเป็นจุดเริ่มต้น ของเราต่อไป

วันนี้ ได้รับความรู้เป็นอย่างมาก ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และไม่เคยรับรู้มาก่อนว่า การเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา นั้น มีความสำคัญมาก เพื่อเป็นการพัฒนาตนเองให้ทันสมัย อยุ่ตลอดเวลา รู้ทันเหตุการณ์ ในปัจจุบัน และมองไปในอนาคตได้

เพราะบางครั้ง เคยคิดเบื่อหน่าย ในการทำงาน เป็นอย่างมาก จนอยากจะลาออก ในบางครั้ง

จนมาวันนี้ ข้าพเจ้าได้รับการอบรม ในวันนี้ รับทราบความรู้จาก ดร.จีระ แล้ว รู้สึกมีกำลังใจ ในการทำงานเป็นอย่างมาก รู้สึกว่าเราจะทำองค์กรของเราเป็นที่น่าอยู่ อบอุ่น และมีคุณธรรมที่ดีได้ ขอให้เราต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ได้

และจะนำความรู้วันนี้ ไปแนะนำแก่ผู้ร่วมงาน และลูกน้องเพื่อเป็นประโยชน์ต่อองค์กร

สรุป Workshop

กลุ่ม 3.1 ใช้ ทฤษฎีพระเจ้าอยู่หัว มี 4 หลักการคือ ทำอะไร , ทำอย่างไร , ทำเพื่อใคร และทำแล้วได้อะไร

ทำอะไร คือ เริ่มจากการพัฒนาองค์กร โดยตอนนี้ เริ่มจากการฝึกอบรมพนักงานในองค์กร

ทำอย่างไร คือ การจัดฝึกอบรม, สัมมนา , ดูงาน ทำ workshop การเรียนรู้ในทุกเรื่อง

ทำเพื่อใคร คือ ทำให้องค์กร ให้ประเทศ ผลลัพธ์จะย้อนกลับมาหาเรา

ทำแล้วได้อะไร ได้วัฒนธรรมในการเรียนรู้ในองค์กร

อาจารย์จีระเสริมว่า น่าจะเพิ่มรายละเอียด เช่น ข้อ 2 ทำอย่างไร คงไม่ทำทุกเรื่อง ต้องมุ่นเน้น ทำให้เกิดการแบ่งปัน ความรู้ เกิดการกระตุ้น ต้องมีวิธีการเรียน และ เสริมด้วยทฤษฎี 4L’s ทำอะไรต้องนึกถึงประโยชน์ส่วนรวม อย่านึกถึงตัวเองก่อน

ข้อเสีย ของ กฟภ. คือ Knowledge ยังเป็นระบบไซโล

ปีหน้าต้องเน้น Corporat Social Responsibility ให้มาก

กลุ่ม 5.2 ใช้ ทฤษฎีพระเจ้าอยู่หัว

ทำอะไร ทำการอบรม เพิ่มการเรียน

ทำอย่างไร เพิ่มพูนความรู้ที่แปลกใหม่ให้พนักงาน เสริมด้วยทฤษฎี Peter Senge ในการมองอนาคตร่วมกัน

ทำเพื่อใคร ทำเพื่อพนักงานของ กฟภ. เอง

ทำแล้วได้อะไร เพื่อให้ กฟภ. เป็น องค์กรชั้นนำในอนาคต

อาจารย์จีระเสริมว่า ถ้า เบื้องบน (ฝ่ายบริหาร) อยากก้าวไปแต่พนักงานด้านล่าง ไม่รู้ว่าจะไปยังไงก็จะทำให้ไปไม่ได้ การฝึกอบรมกับการเรียนรู้ เป็นคนละเรื่องกัน

ฝ่าย HR ต้องใฝ่รู้ และพร้อมที่จะทำเพื่อเปลี่ยนแปลง พฤติกรรม ของคนในองค์กร

Training เป็นคำพูดโบราณ ที่ไม่มีใครใช้ แต่เราต้อง เปลี่ยนเป็น Learning

องค์กรเป็นสิ่งมีชีวิต ต้องเป็นองค์กรเพื่ออนาคต

คนที่ไม่ใฝ่รู้ คือ คนที่เสื่อมตั้งแต่อายุน้อยๆ เราต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อม ใน กฟภ.

กลุ่ม 2.1 + 2.2   LC จะเกิดได้อย่างไร

1.      ต้องมีขบวนการ โดยเลือกใช้ ทฤษฎีพระเจ้าอยู่หัว

-          ทำอะไร รู้จริงว่าจะทำให้เกิด L.O. ซึ่งเป็นขบวนการหนึ่ง

-          ใช้ ทฤษฎี 4L’s เสริม ดู methology รูปแบบที่จะทำให้สำเร็จมีอะไรบ้าง

-          ใช้ ทฤษฎี Peter Senge เลือก Model อาจจะ ระดมพลเพื่อเลือกทฤษฎี ที่เหมาะสมกับ กฟภ. และสร้างเป็น Model สำหรับ กฟภ.

-          Knowledge เกิดจากความรู้จริง + ความรู้ที่ซ่อนเร้น

1. มีการนำความรู้ที่มีอยู่ในแต่ละบุคคล มาแชร์ความคิดร่วมกัน เพื่อให้เกิดการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

2. มีแนวความคิดในการบริหารทรัพยากรบุคคล

3. มีความกระตือรืนล้น ในการหาความรู้มากขึ้น เพื่อนำมาวิเคราะห์สภาพเหตุการณ์ในปัจจุบันและในอนาคต

4. ทราบถึง กลยุทธ์ในการสร้างความผูกพัน ของพนักงานในองค์กร

1. สร้างความเชื่อมั่น และศรัทธาในตัวเอง และพัฒนาตนเอง เพื่อสร้างความสำเร็จในองค์กร

2. เรียนรู้ และแบ่งปันความรู้ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับสังคม และประเทศชาติ

3. นำประสบการณ์ และหาความรู้เพิ่มเติม มาแชร์กัน เพื่อให้เกิดเป็นวัฒนธรรม ปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่อง

อารยา ศุภมาตย์

กลุ่ม 5.1

ดูเทปแล้ว ได้รับอะไรบ้าง

สร้างวัฒนธรรมองค์กร

ตั้งแต่การเข้างาน จนถึงการรักษาพนักงาน ให้ความเป็นธรรมในการทำงาน การพิจารณาความดีความชอบ การประเมินผลงาน สร้างแรงจูงใจในการทำงาน ให้ผลตอบแทน

สร้างธรรมาภิบาล ตั้งแต่เริ่มเข้างาน

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ วิทยากร ทำให้รู้ว่างานทุกอย่าง จะสำเร็จได้ด้วยคน และ องค์กร กล่าวคือ หากมีการพัฒนาคนให้มีความรู้ ความสามารถ มีจริยธรรม มีคุณธรรม ก็จะช่วยให้องค์กรมีความเจริญ สังคมมีความเจริญ ประเทศชาติ ก็จะพัฒนาไปในทางที่ดี

ได้รับการกระตุ้น ให้มีความกระตือรือล้น ที่จะนำความรู้ที่มีอยู่มาใช้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่รับผิดชอบ ให้มากขึ้น รวมทั้งความพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง เพื่อเพิ่มคุณค่า ของตัวเอง มีความรู้สึกว่า การที่จะทำให้กฟภ. ไปสู่วัฒนธรรม การเรียนรู้ เป็นเรื่องที่ใกล้ตัว และพนักงานทุกระดับสามารถทำได้ เมื่อกลับไปจะได้ไปถ่ายทอดให้เพื่อนร่วมงาน และพนักงานระดับอื่นๆ ได้รับทราบ

ควรมีการจัดในลักษณะนี้ เป็นระยะเพื่อ เป็นการกระตุ้น ให้ต่อเนื่อง

กัสมา เกษมสันต์

1. การพัฒนาองค์กรใดๆ ให้ก้าวหน้า นั้นสิ่งสำคัญ คือ "คน" ซึ่งเป็น ทรัพยากรที่มีค่า เป็นผุ้ขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์กร

ดังนั้น จึงควรมุ่งพัฒนาคน ให้เกิดการเรียนรู้ ใฝ่รู้ ทั้งความรู้ภายในภายนอก องค์กร เป็นการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และติดตามให้นำความรู้ มาใช้ในการทำงาน และรักษาความรู้ ประสบการณ์ให้อยู่กับองค์กรเพื่อถ่ายทอดสู่พนักงานต่อๆไป

2. การมองปัญหาให้กว้าง ไม่มองเพียงแต่ในองค์กร มีโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น มองทั้งประโยชน์และโทษที่จะเกิดในภายหน้า เพื่อจะได้นำมาสู่องค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่จะนำมาพัฒนาองค์กรต่อไป

เรื่อง ดูเทป ดร.จีระ กับ ผวก.(คุณอดิศร) , คุณพารณ ให้เลือก 2 เรื่องที่เป็นประโยชน์

1. เรื่องการฝึกอบรมบุคลากร ให้มีความรู้ความสามารถ มีจิตสำนึกในการทำงาน เพื่อให้งานที่ได้มีประสิทธิภาพ เป็นที่พอใจของลูกค้า

2. การทำธุรกิจเสริม กฟภ.มีการดำเนินการจัดตั้ง บริษัทลูก ขึ้นเพื่อสร้างรายได้ เสริมให้กับ กฟภ. ซึ่งเป็นรายได้เพิ่มจากรายได้ประจำที่ กฟภ. ได้รับอยู่จากการขายไฟ, บริการ ประชาชนในส่วนภูมิภาค

เรียน อ.จีระ

การสัมนา "โครงการสร้างความตระหนักองค์กรแห่งการเรียนรู้"

ในวันแรกรู้สึกเสียดายเวลาอยากจะกลับไปทำงานที่ค้างอยู่ที่โต๊ะมากกว่า เพิ่งรู้สึกว่าโชคดีที่ได้มาฟังในวันนี้ คุ้มค่ากับเวลา และ อาจารย์ได้จุดประกายบางอย่างในการปฏิบัติงาน เช่นการเป็นคนใฝ่รู้ การแบ่งปันความรู้ การรับฟังความคิดเห็น นอกจากมีความรู้แล้วก็ต้องนำมาปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ด้วย

ด้วยความเคารพ

ปวรพร ศุภการ

ความคิดเห็นและความรู้สึกที่มีต่อ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

ท่านคือ กูรู แห่งวงการด้านความรู้ในการพัฒนาคน อย่างแท้จริง

แต่ท่าน pr ตัวเองมากไปนิด อยากให้ใช้เวลาที่มีอยู่จำกัดมาขยายข้อคิดบางอย่างที่น่าสนใจ อย่าง ทฤษฎีต่างๆ ของท่านที่อยู่ในตำรานี้ ซึ่งขอยกย่องว่าดีมาก และจะขอนำไปใช้ในการทำงานให้เป็นประโยชน์ต่อไป แต่ไม่เป็นปัญหา เพราะจะเข้าไปศึกษาเพิ่มน web ท่าน

ขอบพระคุณ ที่นำแนวคิด และมุมมอง ที่ท่านมีต่อ กฟภ. มาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนขึ้น เป็นการกระตุ้นใหรับรู้พร้อมข้อเสนอแนะที่ดี และขอขอบคุณในความ "บ้าคลั่ง" ที่จะเรียนรู้ของท่าน เพราะสิ่งนี้ ได้กลายมาเป็นแรงจูงใจต่อดิฉันที่จะเรียนรู้ต่อไป

ตัวแทนกลุ่ม 5.1

การฟังบรรยายจาก ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ เกี่ยวกับการสร้างความตระหนักองค์กรแห่งการเรียนรู้ ทำให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และความสำคัญของทรัพยากรมนุษย์ คือ การจะทำงานให้บรรลุเป้าหมาย และเกิดการพัฒนาในองค์กรทุกๆ ด้าน จะต้องให้ความสำคัญกับคนในองค์กรเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งมีคุณค่ามากกว่าทรัพยากรด้านอื่นๆ ซึ่งมีวิธีการต่างๆ ในการพัฒนาคน อย่างดียิ่ง

ทั้งนี้ในโอกาสต่อไป ขอให้อาจารย์เน้นในเรื่องการพัฒนาด้านต่างๆ ควบคู่กบการปลูกจิตสำนักให้คน(ทรัพยากรมนุษย์) มีคุณธรรม จริยธรรม ก็คือ จะทำอย่างไรให้เป็นคนดี โดยเน้นมากๆ และแนวคิด วิธีการของการเป็นคนดี จะปลูกฝังอย่างไรให้ยั่งยืน หมายถึงให้มีความเจริญทางวัตถุและความเจริญทางจิตใจ อยู่คู่กัน

อาจารย์เป็นผู้ที่มีความเชื่อถือของคนทั้งประเทศในด้านวิชาการและเป็นรูปธรรม จึงขอให้อาจารย์เป็นผู้มีความเชื่อถือของคนทั้งประเทศในด้านคุณธรรม จริยธรรม ที่เป็นรูปธรรมด้วย อาจารย์เก่งมาก

 

สร้างความประทับใจ เนื่องจาก กระตุ้นให้มีความเข้าใจในความมุ่งมั่น ของ ผวก. ซึ่งไม่เคยแน่ใจว่าจะมีนโยบาย เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติได้จริงๆ

กระตุ้นให้เกิดความใฝ่รู้ และกระตือรืนล้น มากขึ้น

มีความรักและภาคภูมิใจในองค์กรที่ให้บริการประชาชนอย่างแท้จริงมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มากขึ้น

ตระหนักถึงปัญหาในอนาคต ที่จะเผชิญ ซึ่งทุกคนในองค์กรต้องมีองค์ความรู้ เพื่อประสานกันเพื่อแก้ปัญหา และสร้างความเจริญก้าวหน้าให้องค์กรต่อไป

ส่งที่ได้จากการอบรมในโครงการสร้างความตระหนักองค์กรแห่งการเรียนรู้

ในส่วนของผมได้รับคือการกระตุ้นให้มีการตื่นตัวในการทำงานให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่ง ท่านดร.จีระ ได้พยายามให้ตระหนักถึงความสามารถที่มีอยู่ภายในตัว และพยายามให้นำสิ่งเหล่านี้ ออกมาใช้ตามนโยบาย ของผู้ว่าการฯ  ที่ต้องการให้ กฟภ.เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ย่อมมีความต้องการให้พนักงาน กฟภ. ได้ศึกษาวิทยาการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้นำความรู้เหล่นั้น มาพัฒนา กฟภ. ให้สามารถแข่งขันได้ และนำพา กฟภ. ไปสู่องค์กรชั้นนำของประเทศ และ ไปสู่ระดับสากลในอนาคต

ผมขอชื่นชมในความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของท่านวิทยากร ที่ได้ถ่ายทอดความรู้ กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำให้กับ พนักงานของ กฟภ. ได้อย่างชัดเจน และดีเยี่ยม

ผมโชคดีมาก ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของผู้เข้ารับการอบรมในหลักสูตร "โครงการสร้างความตระหนักองค์กรแห่งการเรียนรู้" ในครั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ทำงานให้กับ กฟภ. มากว่า 19 ปี ผ่านการอบรมในหลักสูตรต่างๆ มามากมาย ทั้งในและนอกประเทศ ไม่สามารถกระตุ้นหรือจุดประกายความคิดให้กับผมได้ เท่ากับการอบรมในครั้งนี้

นับแต่นี้ จะขอติดตามผลงานต่างๆของท่านวิทยากรทั้งในวิทยุ โทรทัศน์และ อินเตอร์เน็ต ต่อไป อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ให้กับ กฟภ. อย่างยั่งยืน

[email protected]

ความรู้ที่ได้รับจากการรับฟังเทป ผวก. และ คุณพารณ

- ต้องส่งเสริมการพัฒนา การเรียนรู้ อยู่ตลอดเวลา เพื่อจะได้นำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ และต้องแบ่งปัน แลกเปลี่ยนความซึ่งกัน

- ปลูกฝังจิตสำนึก ในการให้บริการที่ดี เนื่องจาก จะมีคู่แข่ง ในอนาคตเพื่อองค์กรจะคงอยู่ได้ในสังคมในอนาคต

- บุคลากรต้องพัฒนาการเรียนรู้ อยู่ตลอดเวลา ไม่หยุดนิ่ง

- จะทำธุรกิจเสริมต่างๆ จะต้องเตรียม บุคลากรที่มีคุณภาพที่ดี ให้พร้อมก่อนด้วย

จากเทป ดร.จีระ กับปูนซีเมนต์

- ต้องสร้างความผูกพันธ์ที่ดีกับพนักงาน ที่ปฏิบัติงานร่วมกัน และกับผู้ใต้บังคับบัญชา อย่างอบอุ่น

- กรทำงานอย่างมีคุณธรรม เห็นความสำคัญต่อบุคลากร ในองค์กร และสร้างวัฒนธรรมที่ดีๆ สืบต่อกันมา

 

วันนี้ เราได้รับความรู้จาก ศ.ดร.จีระ อย่างไรบ้าง

1. ได้คำแนะนำ หลักการณ์ต่างๆ เพื่อให้เข้าใจโครงการแห่งการเรียนรู้ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์กับเราได้นำไปปฏิบัติ รวมทั้งให้คำแนะนำน้องๆต่อไป

2. ได้รับการมีส่วนร่วมกับพนักงานต่างๆ แลกเปลี่ยน ช่วยวิเคราะห์ หัวข้อ จากการทำ workshop ทำให้ช่วยสนับสนุนการทำงานได้ดีต่อไป

3. รวมทั้งได้รับการ share ความรู้ซึ่งกันและกัน รวมทั้งได้รับประสบการณ์จากผู้บรรยาย วิธีการสอนแนวที่ให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น

ฟัง อ.จีระแล้ว ทำให้ต้องกลับไปทบทวนว่า วันนี้ ตัวเองใฝ่หาที่จะเรียนรู้หรือยัง ที่จะสามารถทำงานอยู่ในสภาวการณ์ของโลกปัจจุบัน ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

คงจะต้องเอาที่ อาจารย์ให้ความรู้ไปปรับเปลี่ยนตัวเองในเรื่องการใฝ่ที่จะเรียนรู้เรื่องต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อองค์กร กฟภ. ในทางที่ดีขึ้นต่อไป

คันธรส สิริศักดิ์โกศล

การสัมนา "โครงการสร้างความตระหนักองค์กรแห่งการเรียนรู้" ดิฉันวลัยพรรณ ทรงเจริญ ตำแหน่ง ผชน.8 กนพ.สวก. งานที่ได้รับมอบหมายเป็นงานที่ต้องตัดสินใจเองในการจัดหาของที่ระลึกให้ ผวก. โดยได้รับการแนะนำจากหัวหน้า เพียงเล็กน้อย จากนั้นต้องตัดสินใจเอง และนำเสนอหัวหน้า ทำให้บางครั้งการตัดสินใจลำบาก ส่วนอีกงานคือ จัดทำหนังสือ ทำเนียบผู้บริหาร กฟภ. ตลอดเวลาทำงานดังกล่าวเอง ขอข้อมูลจากหน่วยบานต่างๆ ก็ไม่คิดว่า การอบรมครั้งนี้จะได้อะไรเพื่อตัวเองได้ แต่พอได้อบรมและการได้ฟัง ดร.จีระ บรรยาย ทำให้ได้ความรู้กว้าง เพิ่มขึ้น และทำให้รู้สึกได้รับแรงกระตุ้น มีไฟเพิ่มขึ้น แล้วก็หันมาดูตัวเอง และรู้สึกว่า ต้องปรับปรุงตัวเองมากขึ้น ในตัวเองมีความละเอียดรอบคอบในงานในหน้าที่ของตัวเองให้มากขึ้น แม้ตัวดิฉน ไม่ได้มีความรู้จบปริญญา แต่คิดว่า เราต้องทำงานใหคุ้มกับเงินเดือนที่ได้รับ ทำหน้าที่ของตัวเองให้มากขึ้นอีก เพราะรอบข้างที่อบรมเป็นผู้ที่มีความรู้มาก ในความคิดจึงต้องพยายามในส่วนของตัวเองใดเท่าที่จะทำได้

ดิฉัจขอขอบคุณ ศ.ดร.จีระ สอนให้กว้างขึ้น และกระตุ้นจิตสำนึกมากขึ้น

ด้วยความเคารพ

วลัยพรรณ ทรงเจริญ

การสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ LO ตามที่ได้รับฟังบรรยาย ในครั้งนี เป็นเรื่องของการสร้างคนในองค์กร ให้มีประสิทธิภาพ ที่ยั่งยืน

เรื่อง LO ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ของ กฟภ. แต่เรื่อง LO มีหน่วยงานใน กฟภ. อยู่ หน่วยหนึ่ง ที่มีการดำเนินองค์กรแห่งการเรียนรู้นี้ ได้แก่หน่วย Hotline ทำหน้าที่ ผลิตพนักงาน Hotline ให้แก่ กฟภ.  ได้ดำเนินการเช่นนี้มากว่า 30 ปี แล้ว เพียงแต่เป็นการดำเนินการตามความเคยชิน ไม่ได้ปรับเปลี่ยบเทียบกับทฤษฎีอะไร แต่เมือมีวิชาการใหม่ๆ เข้ามาจึงได้เปรียบเทียบกับทุกทฤษฎีได้ ที่วิทยากรกล่าวถึง ซึ่งแนวทางที่ พนักงาน HL จะมีกระบวนการดังนี้

1. รับเด็กนักเรียน จบ ม. 3 มาเรียน ใน โรงเรียนของ กฟภ. 3 ปี

2. เมื่อจบ จะได้รับการฝึกอบรม ทฤษฎีทำงาน HL และ ออกหาประสบการณ์อีก 1 ปี

3. ส่งไปประจำ กฟฟ ต่างๆ ทั่วประเทศ

4. มีการเรียกกลับมา อบรมเพิ่มเติม ความรู้ ความสามารถ เพิ่มเติม ทักษะ การทำงาน ตลอดจนกว่า จะลงจาก HL

5. พนักงาน HL ได้รับประโยชน์ในความก้าวหน้าด้วยความสามารถ อย่างเต็มที่

เมื่อมีการอบรม LO อย่างเป็นระบบ แล้วได้มีการหยิบยกปรับทฤษฎีต่างๆ มาใช้ในกระบวนการผลิตพนักงาน HL จะทำให้งานด้าน Hotline ของ กฟภ.จะเป็นระบบ เป็นมืออาชีพ มากขึ้น

นายอุทัย มีทิพย์ทัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท