ชีวิตที่พอเพียง : 604. ชีวิตของข้าวนอกนา


ชีวิตของผมคล้ายๆ เป็นชีวิตของข้าวนอกนา    คือออกไปทำงานหรือใช้ชีวิตอยู่นอกวงการวิชาชีพ หรือวิชาการที่เล่าเรียนมา  

 

คนเรียนหมอ ทุกคนวาดหวังอนาคตว่าจะรักษาคนไข้ให้ดีที่สุด    มีชื่อเสียงจากการดูแลผู้ป่วยอย่างดี    มีรายได้ดีชีวิตมั่นคงจากวิชาชีพแพทย์    ผมก็อยู่ในกลุ่มนี้

 

แต่พอทำงานเป็นแพทย์ไปพักหนึ่ง ในเวลาไม่กี่ปี ชีวิตหักเหไปทำงานในโรงเรียนแพทย์ใหม่   และไปทำงานบริหาร    เป็นชนวนหนึ่งให้ตัดสินใจย้ายที่ทำงานไปอยู่ด้านดูแลห้องปฏิบัติการทดสอบ    เลิกอาชีพดูแลผู้ป่วย   เป็นการเลือกทางเดินสู่อาชีพที่มีรายได้น้อย และปิดทองหลังพระ    แต่ผมเลือกเพราะมีโอกาสทำงานวิจัยคิดค้น    และมีเวลาทำงานเชิงระบบ

 

เมื่อมาทำงาน สกว. ต้องทำงานกับนักวิจัยหลากหลายสาขา ที่ผมไม่คุ้นเคย    แต่ก็โชคดีที่ได้รับการยอมรับในระดับหนึ่ง    และได้รับความช่วยเหลือ ร่วมมือ จนสามารถทำงานได้ผลสำเร็จ   แต่ก็เป็นชีวิตของการทำงานท่ามกลางคนแปลกหน้า ต่างวิชาชีพ    ยิ่งในช่วงปี ๒๕๓๙ ๒๕๔๓ ผมต้องทำหน้าที่ ผอ. ฝ่าย ๑  ที่ดูแลการวิจัยสาขาสังคม-มนุษยศาสตร์ ยิ่งต้องทำงานในหมู่นักวิจัยที่ผมไม่คุ้นเคย   และผมไม่ได้รับการยอมรับในเบื้องต้น   ก่อความว้าเหว่แปลกหน้าแก่ผมมาก    โชคดีที่จากต้นร้ายกลายเป็นปลายดีได้    และทำให้ผมได้มิตรในวงการมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ จำนวนไม่น้อย

 

การทำงาน ส่งเสริมการจัดการความรู้ ไม่มีศาสตร์ ไม่มีวิชาชีพ    วงยิ่งกว้าง ไร้ขอบเขต   อยู่ในท่ามกลางผู้คนที่แตกต่างหลากหลาย   แตกต่างในวัฒนธรรมและความเชื่อ    และต้องฟังเรื่องราวต่างๆ ที่ผมไม่คุ้นเคย    บ่อยๆ เข้าผมได้เรียนรู้มากมาย

 

ในช่วงเวลาประมาณ ๑๐ ปีเศษที่ผ่านมา    ผมได้รับเชิญไปเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย   หรือกรรมการของสถาบันวิชาการ/วิจัย ที่หลากหลายมาก   ได้เข้าประชุมร่วมกับผู้คนในหลากหลายสาขาวิชาการ/วิชาชีพ   ที่ผมไม่คุ้นเคย    นานๆ เข้าผมก็ได้เรียนรู้วิธีคิด วัฒนธรรมของผู้คนในหลากหลายวงการ

 

มาออกนอกนาไปไกลสุด ก็ตอนไปเป็นกรรมการธนาคารไทยพาณิชย์   ที่ผมยังรู้สึกเป็นข้าวนอกนาสุดๆ อยู่จนบัดนี้    คือฟังเรื่องราวของการประชุมไม่รู้เรื่อง    และรู้สึก alienate อยู่ตลอดเวลา ว่าผมเหมือนเป็นคนนอกวงการการเงิน   ที่จริงก็เป็นคนนอกวงจริงๆ  ช่วยให้ความเห็นอะไรเขาไม่ได้เลยในเรื่องการเงินการธนาคาร   แต่ผมช่วยได้ในเรื่อง CSR ให้เป็นของแท้   ให้ทำกิจการเพื่อสังคมจริงๆ   และเป็นกิจกรรมที่เมื่อทำแล้วผมมีความสุข

 

บอกไม่ถูก ว่าทำไมชีวิตของผมจึงกระเด็นออกไปนอกนาอยู่เสมอ

 

วิจารณ์ พานิช

๖ ต.ค. ๕๑ 
หมายเลขบันทึก: 215120เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2008 08:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2012 01:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • ที่นอกนา หลายๆที่มีปุ๋ยดี ไม่มีพิษภัย
  • ข้าวสายพันธุ์ดี จึงเติบโตได้ และงอกงามกว่าอยู่ในนา 
  • และเมื่ออยู่นอกนา .. ต้นข้าวงามก็โดดเด่น เห็นแต่ไกลได้  คนมากมายจึงได้เรียนรู้ความงอกงามในต้นข้าว แล้วนำไปพัฒนาตนได้อย่างกว้างขวาง อย่างที่เห็นอยู่
  • ยังมีข้าวอีกหลายต้นที่อยู่นอกนา และเป็นที่รักและศรัทธา มากกว่าอยู่ในแปลงนาเป็นไหนๆครับ
  • ต้นนี้ ก็อีกต้นกนึ่งล่ะครับที่ นอกนาขนานแท้ และมีคุณค่ามากกว่าตอนอยู่ในนามากมายนัก

ขอบคุณสำหรับประสบการณ์และเรื่องเล่าที่ผมไม่เคยได้รู้คับ

 

ช่วยเม้นกลับให้นะคับขอบคุณคับคลิกที่นี่

  • ที่นอกนา หลายๆที่มีปุ๋ยดี ไม่มีพิษภัย
  • ข้าวสายพันธุ์ดี จึงเติบโตได้ และงอกงามกว่าอยู่ในนา 
  • และเมื่ออยู่นอกนา .. ต้นข้าวงามก็โดดเด่น เห็นแต่ไกลได้  คนมากมายจึงได้เรียนรู้ความงอกงามในต้นข้าว แล้วนำไปพัฒนาตนได้อย่างกว้างขวาง อย่างที่เห็นอยู่
  • ยังมีข้าวอีกหลายต้นที่อยู่นอกนา และเป็นที่รักและศรัทธา มากกว่าอยู่ในแปลงนาเป็นไหนๆครับ
  • ต้นนี้ ก็อีกต้นกนึ่งล่ะครับที่ นอกนาขนานแท้ และมีคุณค่ามากกว่าตอนอยู่ในนามากมายนัก

lสวัสดีครับ ท่าน อาจารย์

เคยเจออาจารยืหลายงาน มา เรียนรู้จากอาจารย์ ครับ

อาจารย์มีความรู้มากกว่าความเป็นแพทย์ธรรมดาและทำประโยชน์ให้แก่คนในชาติมากค่ะ

ขอบคุณอาจารย์ที่ให้ประสบการณ์ แนวคิด และอีกหลายเรื่องที่แพทย์เราไม่มีโอกาสเรียนรู้ในชั้นเรียนและวงการแพทย์ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท