Folk KM คือ KM ชาวบ้าน มีอยู่แล้วโดยทั่วไป คู่กับวิถีชีวิตผู้คน แต่เป็นกิจกรรมที่ไม่เป็นระบบ ไม่มีการจัดกระบวนการให้ชัดเจน จึงอยู่ในสภาพที่แม้มีอยู่ ก็ไม่มีพลัง
เมื่อ สคส. ไปหนุนโรงเรียนชาวนา มูลนิธิข้าวขวัญ สุพรรณบุรี เมื่อประมาณ ๔ ปีที่แล้ว เราประหลาดใจมาก ที่พบว่าชาวบ้านใช้ KM เก่งอย่างไม่น่าเชื่อ
คุณเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ค้นพบว่า หัวใจอยู่ที่การรวมตัวกันเป็นกลุ่ม มีการ ลปรร. กันอย่างสม่ำเสมอเนืองนิตย์ โดย ลปรร. ประสบการณ์จากนาข้าวของตนเอง ชาวบ้านจะมีจุดแข็งตรงที่ไม่หวงวิชา เอื้อเฟื้อกันเป็นทุนเดิมด้านนิสัยใจคอที่เอื้อเฟื้อโอบอ้อมอารี
อีกหัวใจหนึ่งคือ “คุณอำนวย” ที่มีทักษะในการจุดประกาย กระตุ้นการเรียนรู้ของกลุ่ม กระตุ้นการ ลปรร. และสร้างวัฒนธรรมกลุ่มที่สนุกสนานควบคู่ไปกับการเรียนรู้จากการปฏิบัติ รร. ชาวนามูลนิธิข้าวขวัญมีการออกแบบวิธีการปรบมือพร้อมกันเพื่อให้กำลังใจแก่กันและกัน สร้างความสนุกสนานมีชีวิตชีวา
วปอ. ชาวบ้านพิจิตร มูลนิธิร่วมพัฒนาพิจิตร ที่นำโดยคุณสุรเดช เดชคุ้มวงศ์ และเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านพิจิตร เป็น Folk KM ที่กว้างขวางและยั่งยืนมาเป็นเวลาหลายปี
แต่ที่ยาวนานที่สุดน่าจะเป็นเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านภาคอีสาน ที่เชื่อมโยงเครือข่ายโดย นพ. อภิสิทธิ์ – พญ. ทานทิพย์ ธำรงวรางกูร ทำมาก่อนกระแส KM หลายปี เมื่อรู้จัก KM ก็เอามาใช้เพิ่มความคมของการ ลปรร. ยิ่งขึ้น
ที่ทำอย่างกว้างขวาง เป็นระบบทั่วทั้งจังหวัด ร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ และภาคประชาชนอย่างดีเยี่ยม คือที่ จ. นครศรีธรรมราช นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด วิชม ทองสงค์ ทำมา ๔ ปี และมีเป้าหมายทำต่อเนื่องไปอีก ๑๒ ปี
Folk KM คือเครื่องมือทางสังคม ในการ “สร้างพระเจดีย์จากฐาน”
วิจารณ์ พานิช
๓ ต.ค. ๕๑