หลักสูตรปริญญาโทการแพทย์แผนไทย


มอ. มีคณะการแพทย์แผนไทย    และกำลังริเริ่มหลักสูตรปริญญาโท ด้านการแพทย์แผนไทย    เมื่อเอามาขอหลักการจากสภาวิชาการเมื่อวันที่ ๓ ต.ค. ๕๑    ก็ได้รับคำแนะนำว่า ตัวต้นเรื่องอาจเป็นการแพทย์แผนไทย   แต่ศาสตร์ที่เอามาผสม เพื่อพัฒนาความรู้นั้นเป็นสากล    ซึ่งแปลว่าร้อยพ่อพันธุ์แม่ ไม่ได้ใช้นามสกุล แผนไทย   หลักสูตรนี้ต้องสามารถเอาศาสตร์อื่นมาผสมพันธุ์ได้อย่างไม่จำกัด    อย่าให้ชื่อแผนไทยเป็นข้อจำกัด

หลักสูตรนี้เป็นการพัฒนาคนด้านการแพทย์แผนไทยในเชิงวิชาการ (academic)   ไม่ใช่ด้านวิชาชีพ (professional)    หวังให้ผู้เรียนจบออกไปเป็นครู-อาจารย์ สอนการแพทย์แผนไทย    หรือไปเป็นนักวิทยาศาสตร์ทำวิจัย  

จะเห็นว่า วิชาการด้านการแพทย์แผนไทย ได้กลายเป็นวิชาการผสม   คือใช้วัฒนธรรมด้านปฏิบัติแบบที่ใช้ในการแพทย์แผนไทย    ผสมกับระเบียบวิธีแบบวิชาการ/วิจัยของสังคมตะวันตก   ก็จะเกิดวิวัฒนาการของการแพทย์แผนไทย    ภาพข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ผมเดาว่าไม่มีใครรู้    แต่รู้แน่ว่าสังคมไทยจะได้ประโยชน์    และวิชาการด้านสุขภาพของไทยจะก้าวหน้า    และที่สำคัญ น่าจะไม่แพงเกินไป    เพราะเกิดทางเลือกที่เราพัฒนาขึ้นเอง    สู้กับผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีตะวันตก ที่แพงอย่างขูดรีด

รศ. ดร. สนั่น สุธีรวุฒิ คณบดีคณะการแพทย์แผนไทย บอกว่าเวลานี้ในประเทศไทยมีคนเรียนจบปริญญาตรีด้านการแพทย์แผนไทย และ/หรือ การแพทย์แผนไทยประยุกต์ ๖๐๐ ๗๐๐ คนแล้ว    เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง    หลักสูตรการแพทย์แผนไทย กับ การแพทย์แผนไทยประยุกต์ แตกต่างกันนิดหน่อย (ใครรู้ช่วยบอกด้วย)     คนที่จบปริญญาตรี ออกไปประกอบอาชีพเป็นแพทย์แผนไทย    คนที่มาเรียนต่อปริญญาโทเอก ก็เพื่อเป็นนักวิชาการ สอนและทำวิจัย   เวลานี้หลักสูตรปริญญาเอกมีที่ มรภ. เชียงราย   และหลักสูตรปริญญาโท มีในหลายมหาวิทยาลัย

 

วิจารณ์ พานิช

๕ ต.ค. ๕๑

หมายเลขบันทึก: 215117เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2008 08:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 02:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (42)

ขอบคุณสำหรับประสบการณ์และเรื่องเล่าที่ผมไม่เคยได้รู้คับ

ช่วยเม้นกลับให้นะคับขอบคุณคับคลิกที่นี่

สวัสดีคับ

ผมพอมีข้อมูลความแตกต่างระหว่างแพทย์แผนไทย กับแพทย์แผนไทยประยุกต์มาฝากครับ

ความแตกต่างระหว่างคณะแพทย์แผนไทย กับแพทย์แผนไทยประยุกต์ คือ คณะแพทย์แผนไทย(อาทิ ที่ ม.อ. และที่ต่างๆที่ไม่มีคำว่าประยุกต์ตามหลัง) พวกนี้จะเรียนแบบดั้งเดิมจริงๆ กล่าวคือ เรียนตำหรับตำราวิชาการของแพทย์แผนไทยจริงๆ ผสมกันกับความรู้ในวิชาต่างๆที่เกี่ยวกับการแพทย์ เช่น กายวิภาคศาสตร์ ชีวเคมีฯลฯ เขาจะจบมามาแล้วขึ้นทะเบียนเป็นแพทย์แผนไทย คือ มีใบประกอบโรคศิลปะ แค่ 4 ใบคือ ใบเวชกรรมไทย ผดุงครรภ์ไทย เภสัชกรรมไทย และนวดไทยเท่านั้น แต่ในสายแพทย์แผนไทยประยุกต์(มหิดลหรือที่ไหนๆ ที่มีประยุกต์ต่อท้าย) พวกเขาจะต้องสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยประยุกต์ (จะสอบหรือไม่สอบใบประกอบโรคศิลปะทั้ง4 ใบก็ได้ ) ใบประกอบโรคศิลปะแพทย์แผนไทยประยุกต์นั้น ต่างจากแพทย์แผนไทยดังนี้ คือ เครื่องมือทางการแพทย์ต่างๆ ทางแผนไทยประยุกต์เขาใช้ได้ 13 รายการตามที่กระทรวงกำหนด แต่แผนไทยก็ใช้ได้น้อยกว่า(บางชนิดแพทย์แผนไทยใช้ไม่ได้) และก็วุฒิของแพทย์แผนไทย ก็มี วท.บ(แพทย์แผนไทย)หรือ พท.บ ส่วนแพทย์แผนไทยประยุกต์เมื่อจบจะได้วุฒิ วท.บ(แพทย์แผนไทยประยุกต์) หรือ พป.บ

หากเปรียบเทียบการเรียนแล้ว แพทย์แผนไทย จะเรียนเจาะลึกเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย ผดุงครรภ์ไทย และนวดไทย และเรียนพื้นฐานแพทย์ปัจจุบันเล็กน้อย

ส่วนแพทย์แผนไทยประยุกต์จะเรียนแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนปัจจุบันครึ่งต่อครึ่งเลยหล่ะครับ

อืมมม...ใครสนใจก็ลองสอบดูนะคับ ตอนนี้มีหลายมหาลัยเปิดสอน น่าเรียนอยู่...ทางสายนี้เนี่ย...

ผมเป็นคนหนึ่งที่เรียนการแพทย์แผนไทยประยุกต์ครับ ตอนนี้อยกทราบที่เรียนต่อปริญญโท ทางด้านกรแพทย์แผไทยประยุกต์ มีมหวิทยาลัยใหนเปิดบ้างครับ มีใครช่วยให้ข้อมูลส่วนนี้ได้บ้าง จักขอบพระคุณเป็นอย่งสูงครับ

เรียนแพทย์แผนไทยจบมาเปนหมอแผนไทยแล้วทำหน้าที่อารายหรอค่ะ

ต้องนวดด้วยหรือป่าวหรือแค่ตรวจรักษาเฉยๆคะ

ถ้าจบเอกบริหารธุรกิจแล้วจะต่อทางด้านแพทย์แผนไทย จะได้ใหมคะ

จบพยาบาลมาค่ะ

แต่อยากเรียน ป.โทแพทย์แผนไทย

จะเรียนได้ไหมค่ะ

จากความคิดเห็นของท่านที่ 2 ที่ว่า "แพทย์แผนไทยประยุกต์นั้น ต่างจากแพทย์แผนไทยดังนี้ คือ เครื่องมือทางการแพทย์ต่างๆ ทางแผนไทยประยุกต์เขาใช้ได้ 13 รายการตามที่กระทรวงกำหนด แต่แผนไทยก็ใช้ได้น้อยกว่า(บางชนิดแพทย์แผนไทยใช้ไม่ได้)" ถ้าดูตามพรบ.การประกอบโรคศิลปะ 2542 คำนิยามของแพทย์แผนไทย กับแผนไทยประยุกต์ต่างกันที่ว่า

แพทย์แผนไทย หมายความว่า การประกอบโรคศิลปะ ตามความรู้ หรือ ตำราแบบไทย ที่ถ่ายทอด และ พัฒนา สืบต่อกันมา หรือ ตามการศึกษาจากสถานศึกษา ที่คณะกรรมการรับรอง

แต่ แพทย์แผนไทยประยุกต์ หมายความว่า ว่า การประกอบโรคศิลปะ ตามการศึกษาจากสถานศึกษา ที่คณะกรรมการรับรอง และ ใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อการ วินิจฉัยและการบำบัดโรค ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

ตรงนี้คือความต่างๆ ของแผนไทยประยุกต์จะใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ต้องเป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวงเท่านั้น แตกต่างจากแพทย์แผนไทยที่ไม่ได้ระบุไว้.......

ยังไงแผนไทยก็ไม่ขึ้นอยู่กับการแพทย์กระแสหลัก มีองค์ความรู้และศาสตร์เป็นของตนเองบทบาทที่มีมากกว่าแผนไทยประยกตุ์ เอาเป็นว่าจะแผนไทยหรอแผนไทยประยุกต์ต้องต่อสู้เพราะจะได้ไม่ให้ใครมาเอาเปรียบก็พอ

สวัสดีค่ะ หนูจบ คหกรรมศาสตร์ วทบ มาได้ 3ปีแล้วค่ะ ต้องการศึกษาวิชาแพทย์แผนไทย หนูสามารถเรียนได้อย่างไรบ้างคะ ปัจจุบันหนูอายุ25แล้วค่ะ

"หากเปรียบเทียบการเรียนแล้ว แพทย์แผนไทย จะเรียนเจาะลึกเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย ผดุงครรภ์ไทย และนวดไทย และเรียนพื้นฐานแพทย์ปัจจุบันเล็กน้อย

ส่วนแพทย์แผนไทยประยุกต์จะเรียนแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนปัจจุบันครึ่งต่อครึ่งเลยหล่ะครับ"

ผมเป็นนักศึกษาแพทย์แผนไทยครับ ในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ครับ คือ อยากจะบอกข้อความนี้ไม่ถูกต้องนะครับ

แพทย์แผนไทย ที่ผมได้เรียนนั้น เหมือนเรียนเพื่อสามารถต่อยอดความรู้หรือพัฒนาองค์ความรู้ให้มาิกขึ้น

วิชาที่เรียนนั้นเชื่อมต่อได้ทุกสาขาที่ทางวิทยาศาสตร์สุขภาพเลยทีเดียว

"ต้องคุยสามารถกับทุกสาขาอาชีพได้"

ดังนั้น วิชาพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพทุกอย่าง มีเรียนหมดครับ

ที่สำคัญ วิชาที่เรียนนั้น เมื่อเทียบกับแพทย์แำผนไทยประยุกต์นั้น ไม่ต่างกันครับ

ไม่เชื่อลองเอาหลักสูตรมาเทียบกันดู กรุณาเทียบในส่วนของเนื้อหาสาระด้วยนะครับ

จริงๆ แล้ว ทำไมต้องมีการแบ่งแผนไทยและแผนไทยประยุกต์

คิดว่า น่าจะเกิดนโยบายของรัฐที่ต้องการลดค่ารักษาพยาบาล โดยการใช้การป้องกันโรค และแพทย์พื้นบ้าน เพื่อเข้ามาเป็นหน่วบปฐมภูมิ

แพทย์แผนไทยก็เป็นหนึ่งในศาสตร์ที่รัฐต้องการฟื้นฟูครับ แต่รัฐต้องการนำเข้ามาในระับบ จึงได้มีการสร้างมารตรฐานโดยการสร้างใบประกอบโรคศิลป์ให้

นั่นคือใจความสำคัญของนโยบายของรัฐ

แต่ทำไมต้องแยกกันขนาดนี้น่าจะเป็นส่วนของการประยุกต์มากกว่านะครับ

แพทย์แผนไทย เน้นการวินิจฉัยแผนไทย ควบคู่ไปกับวินิจฉัยแผนปัจจุบัน และรักษาแบบแผนไทย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยแบบแผนปัจุบันครับ

ส่วนแผนไทยประยุกต์เท่าที่ศึกษามา ก้อมีความเหมือนไม่ต่างกันเลยครับ ต่างกันในส่วนของหน้าที่ และสิทธิทางกฎหมายแค่นั้นเอง

เท่าที่ทราบมา แผนไทยประยุกต์สามารถใช้เครื่องมือได้มากกว่าแผนไทยจริงๆครับ

แต่สามารถรักษาได้จำกัด 42 โรค ตามที่บัญญัติในกฎหมาย *และต้องการคำสั่งของแพทย์เพื่อการวินิจฉัยโรคและการรักษาครับ

แต่แพทย์แำผนไทยไม่จำกัดโรคในการรักษา แต่เดิมทีโรคตามคัมภีร์ต่างๆ(แพทย์แผนไทยเดิมทียึดวิีธีการรักษา วินิจฉัยและรายชื่อโรคตามคัมภีร์ครับ)มีข้อจำกัดในการรักษาของมันอยู่แล้ว โรคที่เมื่อคำนึงประสิทธิผลในการรักษาที่มากทีสุดอยู่ในกลุ่ม

ของโรคทาง กล้ามเนื้อ หลอดเลือด กระดูก ภูมิคุ้มกัน เรื้อรัง เช่นพวกเบาหวาน ความดัน หัวใจ ซึ่งกลุ่มโรคที่เห็นประสิทธิผลน้อยอยู่ในกลุ่ม โรคติิดเชื้อครับ ซึ่ง ปัจจุบันได้พยายามพัฒนาการใช้สมุนไพรเกี่ยวกับโรคติดเชื้อมากขึ้น

จึงแจ้งให้ทราบนะครับ ว่าเรียนคล้ายคลึงกัน แต่หน้าที่ และ สิทธิต่างกันตามกฎหมายเท่านั้นครับ

ปัจจุบันผู้คนส่วนมากยังไม่ค่อยให้การยอมรับคับ ใครเรียนด้านนี้ต้องทำใจหน่อย โดนเรียกว่า "หมอกระดาษ หรือหมอนวด"

และทางด้่านวิชาชีพยังมีความขัดแย้งกันสูงในเนื้อหาของสาขาวิชาครับ ทำให้นักศึกษาอย่างผมต้องลอยคอต่อไป

คนไทย ไม่รักษ์ศาสตร์แผนไทย แล้วคนที่ไหนจะัมารักษ์ศาสตร์ของเรา

จะมีเปิดหลักสูตรปริญญาโทเมื่อไรคะ อยากเรียนค่ะ แต่จบการจัดการโรงแรมมา ไม่ทราบจะสมัครได้รึเปล่า

หลักสูตรปริญญาโท

หลักสูตรการแพทย์แผนไทยมหาบัณฑิต (Master of Thai Traditional Medicine)

คณะการแพทย์แผนไทย มอ. หาดใหญ่ เปิดแล้วครับ รายละเอียด

http://www.ttmed.psu.ac.th/page.php?pageid=8

ตลกที่สุดกับความคิดเรียน แพทย์แผนไทย โท เอก เพื่อ

เป็นการพัฒนาคนด้านการแพทย์แผนไทยในเชิงวิชาการ (academic) ไม่ใช่ด้านวิชาชีพ (professional) หวังให้ผู้เรียนจบออกไปเป็นครู-อาจารย์ สอนการแพทย์แผนไทย หรือไปเป็นนักวิทยาศาสตร์ทำวิจัย

วิชาแพทย์แผนไทยจะเปนยังงัยในอนาคต ถ้าคนที่เปนครููสอนไม่เคยนวด เปนแต่วิชาการ เดาไไม่ออกจริงๆๆๆ

ถ้าอย่าพัฒนาแพทย์แผนไทยจริง ไม่ต้องไปเรียนหรอ วิชาการ อย่างวิชาการนวด โน้น คนเก่งๆๆ ทำอาชีพจริงๆๆอยู่ตามป่าตามเขา

ไปรับ ยก และแต่งตั้งมา เปนอาจารย์

วิชาการช่วยอะไรไม่ได้

จากประสบการของเรานะ

เราจบ นวด 60 ชม 150 ชม 372 ชม จากกระทรวง และบังเอิญ ไปได้วิชาจัดเส้น มา มาได้สองปีกว่า

ตอนนี้ เปดร้านนวดที่ออสเตรเลีย บอกเลยว่า สิ่งที่เราทำให้กับ ลุกค้าที่นี้ แพทย์ที่นี้ งง และไม่เข้าใจว่าเราทำไดไง

ก็แค่เส้นพลิก เข้ายังทำไม่ได้ บอกว่าเอซเรไม่เจอ แต่เรา ใช้มือคล่ำ สาม ที่ ไม่ได้โม้ แต่จริง

ถ้าเปนที่บ้านเรา ธรรทดามาก มากมายที่ใครๆๆ กะทำได้ ถ้าทำจริง แต่นี้ไม่มีใครทำได้

ถ้าอยากจะพัฒนาจริงๆๆ หาคนที่นวดจริง ทำจริงเถอะมาเปนอาจารย์ สอน ทั้ง ป เอก ป โท ป ตรี นั้นแหละ

อยากให้มองไปที่ ทำไม แผนจีน ทางการทำไง เข้าถูกยอมรับไปทั่วโลก แล้วแผนไทยเราหละ จะต้องทำไง ต้อนนี้ยังไม่ไครรู้จักเลย

จัดการชุมนุม ได้แล้ว ช่วยกันข้นหาว่าในอดิต แผนไทยหายไปได้ยังไง เลิกบ้าเอกสาร วิชาการได้หละ จับคนไม่รู้หนังสือ มาสอบ บ้าหรือเปล่า บ่างอย่าง ต้องปฏิบัติเท่านั้น ก็ต้องทดสอบปฏิบัติ แล้วจะเอาคนที่เรียนแต่ทฤษฎี มาทดสอบคนปฏิบัติ ก็มีแต่ตกกับตก เอาสมองส่วนไหนมาคิด

แล้วจะเรียกว่าพัฒนายังงัย

ความสำคัญของแพทย์แผนไทย ผมต้องการเป้าหมายพัฒนาสู่การใช้ความรู้แพทย์เพื่อการรักษาหรือ งานคลืนิกของผู้สำเร็จ ส่วนพัฒนาเป็นศาสตร์ก็มีประโยชน์ในการทำวิจัยและหมอจะได้ใช้บ้างครับ

ขานทอง

ความรู้เท่าหางอึ่ง

ได้ยินมาว่า แพทย์แผนไทยจริงอยู่ มีการเรียนการสอนทางวิทยาศาสตร์การแพทย์และการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ แต่ในทางปฎิบัติยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ตามใบประกอบโรคศิลป์ครั้งหนึ่ง กล่าวว่า แพทย์แผนไทยไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ดังนั้นการที่จะพัฒนาการแพทย์แผนไทย ต้องเอาวิทยาศาสตร์มาช่วย เรียกว่าการแพทย์แผนไทยประยุกต์ สำหรับประเทศจีนที่การแพทย์ก้าวหน้านั้นไม่ใช่ มีแต่คนเก่งปฎิบัติครับ แต่เค้าเอาวิทยาศาสตร์มาพัฒนา(ตอบความคิดเห็นที่ 13) แล้วก็ไม่ได้บ้า ด้วยครับ สำหรับการพัฒนาหลักสูตร ให้เจริญเติบโต แพทย์แผนไทยหรือแผนไทยประยุกต์ไม่ใช่มีแต่นวดนะครับ เนื้อหาบางอย่างต้องเรียนรู้จิงๆจังๆ เราเป็นศิย์มีครูนะครับ ใครจะเอานักวิชาการมาสอนปฎิบัติละครับ เค้าก้มีการแบ่งเป็นฝ่ายเป็นแผนก คุณนี่มั่วจริงๆนะครับ ในโลกนี้ยังมีคนเก่งกว่าคุณอีกมากนะครับ อย่าคิดว่า คุณวิเศษสุด สุดท้ายฝากเอาไว้

"เป็นแพทย์ไม่รู้ใน คัมภีร์ไสย์ท่านบรรจง

รู้แต่ยามาอ่าองค์ รักษาไข้ไม่เข็ดขาม ฯ

บางหมอก็กล่าวคำ มุสาซ้ำกระหน่ำความ

ยกตนว่าตนงาม ประเสริฐยิ่งในการยา ฯ..."

"...บ้างถือว่าตนเฒ่า เป็นหมอเก่าชำนาญดี

รู้ยาไม่รู้ที รักษาได้ก็ชื่นบาน ฯ

แก่กายไม่แก่รู้ ประมาทผู้อุดมญาณ

แม้เด็กเป็นเด็กชาญ ไม่ควรหมิ่นประมาทใจ ฯ"

จาก พระคัมภีร์ ฉันทศาสตร์

และ จะเป็นแพทย์แนไทยหรือแผนไทยประยุกต์ ก็ขอให้สามัคคั พัฒาการภูมิปัญญาของชาติสืบไป

แล้วอย่างนี้เราจะเรียนดีไหม กำลังจะเรียนแพทแผนไทยอยุ่เอาใบประกอบโรคศิลป์ก่อน ได้ใบมาจะทำงานอะไรได้บ้างช่วยแนะนำหน่อยค่ะ

ชอบคุณ หัวข้อ 13 มาก มาก เลย...เราเองก็จบ ป.ตรี วิศวะ มาน่ะนะ แต่นอกคอก มาเรียนนวดทีหลัง ชักติดใจ อาจารย์ไหนดังๆเรียนใหญ่เลย ช่วยให้คนหายเจ็บป่วบนี้รู้สึกมีความสุข .... ตอนนี้ดิ้นรนอยากเรียนแพทย์แผนไทยให้สูงๆ มีความรู้เยอะๆ การนวดก็ได้แล้ว แก้อาการได้ แต่บางอย่างเราต้องรู้เรื่องวิชาการ กล้ามเนื้อ ว่าจะต้องนวดไปในทิศทางไหน จุดนั้น จุดนี้ มีความหมายว่าอย่างไร ช่วยอะไรได้บ้าง ลูกค้าถามจะได้มีความรู้แท้จริง มีเหตุผลในการตอบลูกค้าได้ เพราะเราทำการรักษาคน ทุกอย่างสำคัญหมด

เรียนอย่างเดียวแล้วไม่ทำมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เอาแบบเจ๋งๆไปเลยว่า นวดก็เก่ง วิชาการ ก็เก่ง perfect person ว่างั้นเถอะ พอโกอินเตอร์ เค้าถึงจะได้ยอมรับเรามากขึ้นในเรื่องการแพทย์แผนไทย เพราะเรา รู้จริง ทำจริง หายจริง เอาแบบ สมองไหลไปเลย บรรพบุรุษ ปู่ชีวกจะได้ภูมิใจ

สวัสดีชาวแพทย์แนไทยทุกคนเป็นอย่างไรกันบ้าง คิดอะไรกันไปถึงไหนแล้ว...พวกเราจะทำอย่างไรกันดี ให้นวดไทยของเราขยายกว้างไกลให้ทุกคนทั่วโลกได้รู้จักกันให้มากกว่านี้.....เพราะเป็นวิชาที่ทำรายได้เข้าประเทศของเราได้มาก....แต่ก็จะเสียพลประโยชน์ไปกับพวกที่ค้ามนุษย์ใช้ความทุกข์ของคนอื่นสร้างกำไรเข้าตัวเอง....มีทั้งหลอกไปทำงานที่เมืองนอกเมือนารับปากอย่างดีตอนอยู่ในประเทศ..แต่พอพ้นออกนอกประเทศไทยไปแล้ว...ไม่มีใครจะยืนมือมาช่วยพวกเขาเลย...

ใครอยากเรียนก็เรียนไปเถอะคับ ไม่ตกงานอยู่แล้ว รัฐบาลเขาจัดให้มีแพทย์แผนไทยหรือไทยประยุกต์ ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 150 ตำแหน่ง แต่ตอนนี้นะ 99 คน เขาใช้ชื่อว่า นักการแพทย์แผนไทย ทำงานเหมือนกันทั้งแผนไทยและไทยประยุกต์ แล้วมีคนกำลังจะออกเยอะแยะมากมาย แล้วโรงพยาบาลชุมชน หรือโรงพยาบาลประจำอำเภอเขาก็เปิดรับสมัครเยอะแยะมากมาย แถมเรายังเปิดคลินิกได้อีกต่างหาก จากประสบการณ์ที่ผมทำงานมานะคับ ประชาชนทั่วไปตามชนบทเขาให้ความสำคัญกับแพทย์แผนไทยมากเลยคับ ประชาชนต้องการให้เรารับฟังปัญหาต่างๆในชีวิตของเขา ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีเวลาให้คนไข้เลย ผมว่าแค่เขาสบายใจโรคต่างๆที่เขาเป็นมันก็หายไปกว่าครึ่งแล้วคับ ผมเป็นคนหนึ่งที่จะพัฒนาการแพทย์แผนไทย ต่อ ลืมบอกคับ ผมจบแพทย์แผนไทยประยุกต์นะคับ

ด่วนนนนนน!!!!!

สาธิตการผ่าอาจารย์ใหญ่

ไม่ต้องง้อวันวิทย์ ไม่ต้องคอยตามติดโอเพ่นเฮาส์ เราผ่าให้ดูกันถึงในบ้าน...

DvD Anatomy For Beginners

การเรียนการสอนจากประเทศเยอรมัน สาธิตจากการผ่าศพจริงตั้งแต่ต้นจนจบ บรรยายเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ต้องกลัวฟังไม่ทัน เรามีเนื้อหาที่บรรยายเป็นไฟล์ให้ด้วย...เรียนรู้ไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทุกระบบ เวลาในการสาธิตประมาณ 250 นาที เหมาะสำหรับนักศึกษาแพทย์,นักศึกษาพยาบาล,เทคนิคการแพทย์,กายภาพบำบัด เภสัช ทันตแพทย์ สาธารณสุขและนักศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพทุกสาขา และนักเรียนผู้สนใจศึกษาสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ หรือเพื่อประกอบการตัดสินใจเข้าศึกษาในคณะแพทย์ศาสตร์ทุกสาขา...(วัดใจก่อน เรียน...)

1 ชุด 1 แผ่น ราคา 250 บาท

จัดส่งถึงบ้าน

สนใจติดต่อทางอีเมลหรือทิ้งเบอร์โทรกลับไว้ในอีเมล

[email protected] (จีเมลนะ สำคัญมาก...)

หรือเยี่ยมชมข้อมูลและตัวอย่างที่ www.imed-shop.com

เราจบพยาบาลศาลตร์ ต่อเวชแล้ว อยากเรียนแพทย์แผนไทยอีกบ้านอยู่สตูล ใครทราบว่าเรียนที่ไหน อย่างไรดีบอกด้วย

คุณ..21...เรียนที่ยะลาก้อได้นะค่ะ

ที่ วสส.ยะลา เปิดหลักสูตรแพทย์แผนไทยบัณฑิต 4 ปี

ยังไงก้อลองเข้าเว็ปไปดูนะค่ะ

ข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจเรียนแพทย์แผนไทย

เหนือสิ่งอื่นใดการจะเลือกเรียนหลักสูตรอะไรก็ตามควรศึกษาข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญเช่น พรบ.การประกอบโรคศิลปะแพทย์แผนไทย ซึ่งมี 2 สาขาคือสาขาการแพทย์แผนไทยและสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ผู้ที่จะเรียนเพื่อเป็นหมอต้องมีใบประกอบวิชาชีพ สาขาแพทย์แผนไทยมี 3 ช่องทางคือมาตรา33(ก)ครูรับมอบตัวศิยษ์(เรียกให้เข้าใจง่าย)คือเรียนจากผู้มีใบประกอบโรคศิลป์ ซึ่งมีหลายแห่งที่เก่าแก่ที่สุดคือวัดโพธิ์(ที่อื่นๆอย่างใจที่ไม่ได้กล่าว)โดยแบ่งเป็น 4ประเภท(เวชฯ/เภสัช/หัตถเวช/ผดุงครรภ์หากจะเป็นหมอต้องมีใบเวช) ช่องทางที่2 มาตรา33(ข)เรียนจากสถาบันการศึกษาที่ผ่านการรับรองจากคณะอนุกรรมการวิชาชีพแพทย์แผนไทย(ขอเน้นหลักสูตรต้องผ่านการรับรองฯ ปัจจุบันสถาบันการศึกษาจำนวนมากเปิดการเรียนการสอนแพทย์แผนไทยโดยหลักสูตรยังไม่ผ่านการรับรอง เด็กที่เรียนจบไม่สามารถสอบใบประกอบวิชาชีพได้ ต้องหาทางเลี่ยงคัมภีร์โดย ให้ผู้เรียนมอบตัวศิยษ์แล้วไปสอบเหมือน (ก) แล้วจะไปเรียนทำไมไปเรียนตามสมาคม ตามวัดก็ไปสอบได้) ส่วนช่องทางสุดท้าย 33(ค) ต้องเป็นผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญแล้วได้รับการแต่งตั้ง

    สำหรับสาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์ มีช่องทางเดียวเท่านั้นคือ ต้องเรียนจากสถาบันการศึกษาที่ผ่านการรับรองจากคณะอนุกรรมการวิชาชีพแพทย์แผนไทยประยุกต์ ซึ่งปัจจุบัน มี 8 สถาบัน เช่น ศิริราช(สถานการณ์แพทย์แผนไทยประยุกต์) ธรรมศาสตร์ (คณะแพทยศาสตร์) ซึ่งการสมัครเข้าเรียนจะเป็นระบบAdmissionและสอบตรง ซึ่งคะแนนสอบค่อนข้างสูง ที่มาของแนวคิดการเรียนการสอนแพทย์แผนไทยประยุกต์ในระบบสถาบันมาจากศ.นพ.อวย เกตุสิงห์ ที่ได้ไปศึกษาดูงานที่ประเทศจีนและอินเดียที่เห็นนักเรียนแพทย์อินเดีย แพทย์จีนในห้องเรียนเป็นคนวัยหนุ่ม สาว การเรียนการสอนหนักพอสมควร เพราะศ.นพ.อวย เห็นจุดอ่อนสำคัญของแพทย์แผนไทยคือการฝึกปฏิบัติ ดังนั้นสถาบันการศึกษาที่จะเปิดการเรียนการสอนต้องมีสถานพยาบาลสำหรับ นศ.พทป.ฝึกปฏิบัติ หลักการนี้เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2525

     จะเห็นว่าการเรียนแพทย์แผนไทยหรือแพทย์แผนไทยประยุกต์ มีเป้าหมายเหมือนกันหรือไม่ หากมีเป้าหมายคือบัณฑิตจบมาต้องเป็นหมอ หลักสูตร การเรียนการสอน การฝึกปฏิบัติ และที่สำคัญที่สุดคือจิตสำนึก

    ดังนั้นผู้ที่สนใจเรียนต้องถามตัวเองก่อนเรียนเพื่อเป้าหมายอะไร หากเรียนเพื่อให้ได้วุฒิ ป.ตรี หรือหาความรู้เพิ่มเติมโดยไม่คิดจะประกอบวิชาชีพ ก็ไม่ต้องสนใจว่าหลักสูตรนั้นผ่านการรับรองหรือไม่ เลือกที่สามารถเรียนได้กับภาระกิจของตัวเอง แต่สำหรับน้องๆที่เพิ่งจบ ม.6 แล้วสนใจที่จะเรียนเพื่อจบแล้วจะนำไปประกอบวิชาชีพ ต้องใส่ใจสาระตรงนี้มากๆ และต้องหาข้อมูลสถาบันการศึกษาที่เปิดการเรียนการสอนแพทย์แผนไทยหรือแผนไทยประยุกต์ โดยอย่าดูเฉพาะหลักสูตรซึ่งเขียนเหมือนๆกัน ต้องดูอาจารย์ประจำหลักสูตร (ไม่ใช่อาจารย์พิเศษ ชื่อดังๆอาจเป็นอาจารย์ทุกสถาบัน)ถามผู้ที่กำลังเรียนอยู่ ถามแหล่งฝึกก็ได้ว่าสถาบันไหนไปฝึกแล้วเด็กเรียนแบบตามบุญตามกรรม

การเรียนตามกระแสอันตรายสำหรับเด็กมาก สุดท้ายอย่าแต่มัวถามว่าแพทย์แผนไทยหรือแผนไทยประยุกต์เหมือนหรือต่างกัน อะไรดีกว่ากัน หากทั้ง 2 สาขา รักษามาตรฐาน ตามเกณฑ์วิชาชีพของตนอย่างแท้จริง ล้วนเป็นการพัฒนาแพทย์แผนไทยอย่างแท้จริง

cat

อยากทราบว่า สาเหตุไร? ที่หลักสูตร พท.บ.ของ มสธ. คณะกรรมการ ยังไม่รับรอง และผู้ศึกษาจบแล้ว จะทำอย่างไร จึงจะมีสิทธิ เหมือนผู้ที่จบจากสถาบัน ที่คณะกรรมการรับรอง..

ตอบคุณ24 ได้ข่าวมสธ.ส่งหลักสูตรให้คณะอนุกรรมการวิชาชีพพิจารณาตั้งแต่ปี46 ทำหนังสือถามความคืบหน้าเป็น 10 ฉบับ ก็ยังนิ่ง ไม่ใช่แค่มสธ.ที่หลักสูตรยังไม่ผ่านการรับรอง ยังมีอีกเกือบ20 สถาบันที่เปิดสอนแพทย์แผนไทย แต่หลักสูตรยังไม่ผ่านการรับรอง ท่านจะมีสิทธิได้รับปริญญาตรี แต่รพสต. ยังรับท่านไม่ได้

คห ๒๔ และ ๒๕ ผมเพิ่งสมัครเรียนแพทย์แผนไทยกับมสธ เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับเอกสาร เขียนไว้ว่าหลักสูตรนี้ผ่านการรับรองแล้วอ่ะครับ ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่เนี่ย

ผม ชื่อ.......เรียนจบเภสัช สาขาการแพทย์แผนไทย ตอนที่ผมเรียนจบอายุ22 ใช้เวลาเรียน2ปี แต่ก่อนหน้านี้ผมเรียนตั้งแต่มอ5-6

ได้อ่านหนังสื้อเภสัช เวชกรรม ตอนแรกๆ งง ไม่รู้มันคืออะไร ต่อมาผมก็ตั้งใจเรียนศึกษาอย่างจิง ก็พอรู้ว่า สาขาเภสัชนี้ มันไม่ธรรมดา แน่ ตอนแรกเรียนกับหมอโบราณ ชื่อก็โบราณ อะไรต่างๆมันก็โบราณ

เรียนจบไป ไม่มีอะไรทำ ไปสมัคงานที่ไหนก็ไม่รับ บอกให้ผมรอ งาน

บ้างครั้งบางที ผมมองไปที่ใบประกอบโรคศิล อยากจะเอาไปเข้าโรงจำนำ

เบื่อๆ นะคับ เลย ระบายให้ฟัง ยินดีที่รู้จักทุกคนคับ ช่วงนี้เครียดหนักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปล่ะ

เรียนจบแต่ไม่มีงานทำ

แพทย์แผนไทยประยุกต์กำลัง

เป็นที่ยอมรับมากขึ้น

เรียนแพทย์แผนไทยทำอะไรได้มากมาย

สนใจก็คุยกันครับ [email protected]

เรียนแพทย์นี้ดีที่สุด เพราะรักษาโรคได้ให้หาย เช่ยโรคริดสีดวงทวารก็กินยาเพ็ชรสังฆาต หายได้นี้คือผลของแพะทย์นี้

อยากให้คุณหมอแผนไทยประยุกตฺทำวิจัยยารักษาโรคที่ยาปัจจุบันรักษาไม่หาย เช่นไปหาหมอปัจจุบันเอายางรัดริดสีดวงมา ไม่หายแต่ทำสมทธิกินยาเพ็ชรสังฆาตหายได่และควรวิจัยต่ออีกให้หายเจ็บปวดด่วยเอายาปัจจุบันดาฟอนกินผสม ควรให้มีโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยประยุกต์มีให้รัฐกำหนดให้เป็นข้าราชการด้วยมิใช่แค่เป็นลูกจ้าง ให้กพ.จัดสอบและเมื่อสมัครเป็นลูกจ้างในสสจ.ต่างก็ประเมินเป็นพนักงานราชการ และเป็นข้าราชการได้เลยเพราะความจริงหมอปัจจุบัน เภสัชทันตะจะลาออกไปอยู่เอกชนและเปิดร้านได้ ในโรงพยาบาลควรให้มีข้าราชการคือเป็นได้ แพทยฺแผนไทยประยุกต์ สาธารณสุข เอกส่งเสริมสุขภาพ พยาบาล เพื่อให้สสจ.มีศักดิ์ศรีมิใช่มีแต่ลูกจ้างอยู่ทำงาน ขณะครูยังมีตำแหน่งข้าราชการเลย และควรแยกจากกพ.มาตั้งเหมือนวงการครู

คนไทยรู้ไหมเวลาไปหาหมอปัจจุบัน กินยาบางที่โรคก็ไม่หาย แต่มาหาหมอแผนไทยประยุกต์ที่จ่ายยาของแพทยนี้หายได้ ฉะนั้นจงภาคภูมิใจและรัฐอย่ากดขี่ความคิดการรักษาโรคต่อไป และบางอย่างก็หาหมอปัจจุบันหายฉะนั้นให้มีทางเลือกการรักษาได้ ไม่ว่าซึ่งกันและกัน

ทุกอำเภอควรให้มีตำแหน่งนายกสมาคมแพทย์แผนไทยประยุกต์ด้วยเพื่อความเป็นพี่น้องกันและแลกเปลี่ยนกับแพทย์ปัจจุบันและถือว่าจบจากคณะแพทย์ด้วยกัน เป็นพี่น้องกันช่วยกัยวิจัยรักษาโรคให้หายทุกตัวยา และควรเรียกคำนำหน้าชื่อแพทย์แผนไทยประยุกต์ว่า แพทย์ไทยประยุกต์จะเหมาะสมกว่าคำว่านักการแพทย์เพราะคนไข้ก็เรียกว่าแพทย์/หมออยู่แล้ว ทำไม่คนตั้งจึงเรียกกันไปเอง ถือว่าไม่ถูกต้องเลย

ใครเป็นริดสีดวง รักษาแผนปัจจุบันเจ็บมากเอายางรัด ควรกินยาของแผนไทย หายได้คือยาเพ็ชรสังฆาต หัวฝ่อยุบหายปวดด้วย บอกเอาบุญ ของแพทย์แผนนี้ คนไทยเป็นกันมากแต่เอาทนมากกับโรคนี้เพราะคนไทยรถติดกันอุจจาระ กินรสจัดๆ เป็นเผาพันธ์ที่เป็นโรคนี้เกือนคอนประเทศ เพราะสังเกตุดูแผนกศัณยกรรม มีแผนกรักษาริดสีดวงมากๆ แต่ก็หายเป็นบางช่วง ควรกินยานี้ตลอดรักฟษาไว้ได้เลย สงสารคนไทยจัง แพทย์แผนไทยประยุกต์ได้บุญมากและโรคนิ้วร๊อกด้วย ปวดหลังยาแพทย์ไทยนี้ก็หายได้ เก่งจริงๆ หมอปัจจุบันบางคนเป็นโรคนี้ยังมากินยานี้เลย

จบแพทย์มาเพราะภาษีประชาชน

เรียนคุณหมอวิจารณ์ พานิช

กระผมติดตามและศรัทธาคุณหมอและขอเรียนว่าทุกอย่างจะพัฒนาตามครรลองของมันจนเป็นสากลได้(คล้ายแผนจีน)

คือต้อง

1 หมอแผนปัจจุบันอย่า"กร่างและคอยขวาง"เขารู้นะหลายต่อหลายโรคที่แพทย์ปัจจุบันสั่งให้ผู้ป่วยกลับไปนอนรอความตายที่บ้านแต่กลับรักษาหายด้วยสมุนไพร แต่เขาหยิ่งๆที่ได้เรียนหมอ เพราะท่องจำเก่งและได้กวดวิชาแต่วิจารณญาณมีแค่ไหนไม่รู้พูดไปก็เหมือนอิจฉา ความจริงถ้าเปิดโอกาสให้พยาบาลต่อยอดเป็นแพทย์ได้ผมว่าเขาจะเก่งกว่าหมอด้วยซ้ำ เขาก็เปิดโอกาสนะครับแต่ต้องไปเริ่มสอบเข้าปีหนึ่งใหม่ อ้าว..พยาบาลทั่วประเทศลุ้นกันหน่อยอย่าคอยแต่ปกปิดช่วยหมอเวลารักษาผิดพลาด..ใครรักษาผิดพลาดให้ไปสอบเข้าใหม่น่าจะเหมาะกว่า(วิศวถ้าผิดพลาดต้องยืดใบประกอบวิชาชีพ แพทย์ถ้าผิดพลาดตายไปถ้าถูกสอบก็จะเดินขบวนไม่ปฏิบัติหน้าที่ ก็ได้ครับปรับคืนทุนและถอนใบประกอบ ท่านอย่าไปเอาใจหมอประเภทนี้ นี่คือความกร่างและอีโก้สุดดดดด)

2.เห็นแก่ตัว คือหมอแผนปัจจุบันเห็นแก่ตัวทั้งนั้น ออกไปอนยู่ตามคลีนิคเงินเป็นแสน ใครอยากอยู่ในโรงพยาบาลให้โง่ ดังนั้นแพทย์ปัจจุบันจึงเห็นแก่ตัวสร้างทีมบริหารก็เป็นพวกเดียวกันและเลือกใช้พยาบาลและแพทย์แผนไทยได้อย่างเต็มที่และกักไว้แต่ผลงานวิจัยตัวเองมีชื่อนำตลอดนี่คือความเห็นแก่ตัวเชิงวิชาการ

3.ขอฝากท่านวิจารณ์ พานิช และคณบดีคณะแพทย์ทุกท่านโปรดพิจารณาโครงสร้างใหม่เพราะเอื้อให้เป็นแพทย์เชิงพานิชมากกว่าเชิงบริการประชาชนทั้งที่เอาภาษีเขามาร่ำเรียน

ความไม่พอเพียงของแพทย์(ไม่ใช่แพทย์ไม่พอเพียง)

วงจรที่สวนทางกับความพอเพียง

1.แพทย์เอาทุนไปเรียนต่อต่างประเทศงปม.สูงมาก ต่อคน

2.กลับมาไม่มีอุดมคติเห็นเงินเป็นใหญ่

3.ฝากเวรให้กับนักศึกษาแพทย์(อ้างอิง: พญ.โมนา อัศวิษณุ 2552 ) ส่วนแพทย์ที่เชี่ยวชาญออกหากินตามคลีนิก แพทย์ที่มีอุดมการณ์ เสียสละเพื่อสังคมแท้จริงมีน้อยและถูกกลั่นแกล้ง

4.รายได้ในคลีนิกหรือโรงพยาบาลเอกชนประมาณ 30 เท่าของภาครัฐ

5.ส่วนมากผู้ป่วยเป็น ชาวบ้านธรรมดาชาวไร่ชาวนามีมาก(คนฐานะดีๆไม่เข้าโรงพยาบาลรัฐแน่นอน) แต่ต้องมาเจอแต่ยาแก้ปวดเจอแต่การทดลองยา อยู่ร่ำไป อย่างที่ประชาชนรู้ๆกัน ก็เพราะหมอที่เป็นงานไม่ค่อยอยู่ภายในแต่อ้างว่าขึ้นประชุม ขึ้นสอน อะไรไปเรื่อย ที่ไหนได้ไปตาม 3. และ 4.

6ทำงัยได้ถึงชาวไร่ชาวนาก็รักญาติของเขาการที่จะเยื้อชีวิตญาตินั้น ราคาแพงแค่ไหนก็ต้องพาไปหาที่เอกชน (ส่วนมากถ้าไม่มีญาติพาไปส่งจ้างหมอเขาก็ไม่รับต่อให้ปางตายก็ตาม..เขาต้องรู้ก่อนใครจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนี่หรือจรรยาแพทย์ไม่มีแม้นิด)

7 ทำงัยชาวนาชาวไร่จะมีเงินมาเสียให้คณะแพทย์ตามคลิกนิกนอกเวลาและโรงบาลเอกชนได้ ก็ทางเดียวแหละครับคือขายไร่ขายนาจำนองที่ทำกิน ทางเหนือส่งเงินกู้ไม่ทันก็เอาลูกสาวไปขัดดอก เพราะนายทุนให้กู้ยืมมันจ้องจะยึดที่ดินอยู่แล้ว

8ในเมื่อสาขาวิชาชีพนี้เอาได้ 30 เท่า ก็ทำให้วิชาชีพอื่นๆเอาตาม ผลก็คืออาหารก็แพงขึ้น ราคาสินค้าอื่นๆก็ตามกันขึ้น ท่านอย่ามองและโทษแต่น้ำมันและไข่ไก่ เป็นปัจจัยแค่นั้น ค่าตอบแทนที่สูงลิบลิ่วของแพทย์ต่างหาก"ที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคและไม่มีความพอเพียงตามพระราชดำรัสและตามจรรยาบรรณวิชาชีพบริการ"ที่ก่อหวอดให้ทุกอย่างกระเพื่อม แม้สินค้าภายในมหาวิทยาลัยก็แพงลิบลิ่ว

9คนรวยเกิดฉวยโอกาส คนจนก็ย่ำแย่ เป็นเหตุให้เกิดโจรกรรม ปล้น ชิงทรัพย์ ฯลฯ

10คนจนที่หาที่พึ่งไม่ได้แล้วแต่ไม่อยากเป็นโจร ก็ออกค้าแรงงาน แต่ก็โดนเอารัดเอาเปรียบจากสังคมที่"ผู้บริหารไม่ดีโกงกิน"

11ในที่สุดเพื่อความอยู่รอดจึงเริ่มค้ายาเสพติดและตนเองก็ติดยาและติดคุกในที่สุด แล้วครอบครัวเขาจะอยู่รอดได้อย่างไร

กระผมขอฝากท่านวิจารณ์ พานิช ไปยังสภามหาวิทยาลัย ไปยังแพทยสภา ภายใน 1 เดือนนะครับ หากไม่มีอะไรเคลื่อนที่กระผมจะส่งสำเนานี้ไปยังสื่อมวลชนให้ช่วยวิเคราะห์ และขอเรียนย้ำว่ามิได้มุ่งดิสเครดิตบุคลากรทางการแพทย์ แต่วิเคราะห์ดีแล้วเห็นชัดเจนว่าเป็นจุดกำเนิดของ"ความไม่พอเพียงของคณะแพทย์"นั่นเอง ขอให้ปรับฐานค่าตอบแทนลง และลดความสำคัญลง จะทำให้หมออยู่ในอุดมคติและทำตามอุดมการณ์ได้ และไม่อยากหากินบนความลำบากยากแค้นของผู้ที่เจ็บและจนอีกต่อไปเพราะถึงออกไปเอกชนก็แค่ 2 เท่า สู้อยู่ในโรงพยาบาลดีกว่า

12 เมื่อทำ 11 ได้คนป่วยที่ทั้งเจ็บและจนก็จะกลับเข้าสู่โรงพยาบาลของรัฐ เอกชนที่เคยคิดแพงๆก็จะอยู่ไม่ได้จำต้องลดค่ารักษาที่มหาโหดลง(เพราะหมอพิเศษก็จ่ายเพียง 2 เท่าของเงินเดือนเท่านั้นแล้วจะคิดกับคนป่วยแพงได้อย่างไร)

13 เศรษฐกิจโดยรวมก็จะค่อยๆกลับคืนสู่ความพอดีของมัน

อยากให้เปิดสอนการแพทย์แผนไทยภาคพิเศษบ้างในระดับปริญญาโท

แพทย์แผนไทยนิรนาม

น่าเสียดาย บางคนมีอาวุธแต่ใช้อาวุธไม่เป็น

เด็กรุ่นหลังที่คิดจะเรียนแพทย์แผนไทย เพื่อเอาใบประกอบโรคศิลปะมาแปะข้างฝา ขอร้องอย่าเรียนเลย บางคนก็บอกว่าเรียนแล้วไม่มีงานทำ แล้วก่อนที่เริ่มเรียนคิดอะไรอยู่ คนที่คิดเรียนคณะนี้ จบมาก็เป็นหมอ เป็นบุคคลที่รักษาคนไข้ให้หายป่วย ต้องมีความศรัทธาในตัวเองถ้าไม่ศรัทธาในตัวเอง และมัวแต่คิดว่าจบมาแล้วมาเป็นหมอนวด ก็ได้โปรดอย่ามาเลือกเรียน แพทย์แผนไทยที่เค้าเก่งและมีจิตวิญญาณรักษาผู้ป่วยให้หายก็มี ถึงมีน้อยแต่ก็มี เป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วยที่สิ้นหวัง นั้นก็มี คอยดู..แพทย์แผนไทยก็เก่งไม่แพ้แพทย์แผนอื่นแน่นอน

เข้าใจนะค่ะสำหรับน้องๆ ที่อยู่ในช่วงอายุของวัยเรียน และวัยเริ่มทำงานจะสับสนว่าจะทำมาหากินอะไรกับวิชาแพทย์แผนไทย(ประยุกต์) ดังนั้น จึงขอบอกว่าอย่าพึ่งคิดถึงตรงนั้นนะค่ะ เรียนให้จบ โดยเรียนแบบใช้ใจเรียน และความรู้สึกเรียน โดยเข้าใจให้ได้ว่าเนื้อหาวิชาที่เข้าต้องการสื่อให้เราเข้าใจคืออะไร ใช้จิตน้อมเข้าไปเรียน  น้องๆ จะวิสัชนาได้ด้วยตนเอง แล้วจะไม่มีปุฉาให้กับตนเองอีกเลยค่ะ / แพทย์แผนไทยจังหวัดชลบุรีค่ะ

 

เห็นด้วยจริง ๆ กับเรื่องที่ทำไม ร.พ.เอกชน ที่คิดค่ารักษากับคนไข้ผู้ทุกข์ยาก และคนไข้ทั่วไปในราคาไม่สมเหตุสมผลกับอัตราส่วนของการลงทุน ไม่ว่าค่าจ้างหมอ ค่าเครื่องมือแพทย์ ค่าอาคาร ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ  เท่าไร ๆ ก็ยังคิดแพงลิบลิ้วเป็นประมาณสิบเท่าตัวอยู่ดี   ทำให้อัตราผู้ป่วยหรือผู้เข้าใช้บริการมีน้อยกว่าที่ควรจะเป็น จึงเกิดราคาโขกซับ แม้แต่ศพในบางรายที่เอาออกมาทำพิธิศพ  ยังแพงแทบล้มละลาย เอาเป็นว่าคนจน อย่าได้สะเอะป่วย หรืออย่าไปฉุกเฉินแถวนั้นเชียว! การบริหารจัดการหรือนโยบาย ที่จะมารองรับเรื่องนี้  ไม่ทราบจะมีไหม? สำหรับประเทศเรา  หรือจะปล่อยให้เป็นปมปัญหา ต้องห้าม....จะปล่อยปละละเลย ...จนทุกวันนี้ งาน ของ ร.พ.รัฐ  หนักทุกประเภท เข้าข่ายวิกฤติตั้งแต่เรื่องเครื่องมือแพทย์ไม่เพียงพอ  แพทย์ขาดแคลน ..ฯลฯ......เพราะการกระจายถ่ายน้ำหนักในเรื่องนโยบาย"ทำไม่เป็น" หรือเปล่า?  คนมีใจ มีอำนาจ มีเงิน..คนกล้า!.ไปอยู่ไหนกันหมด ทำไมไม่ทำ   แทนที่จะทำเรื่อง 30 บาททุกโรคเพียงอย่างเดียวซึ่งก็ มีปัญหาอยู่เนือง ๆ ฯ........ควรมีการทบทวน!.ถ้าให้ความสำคัญในเรื่องนี้และจัดการเรื่องนี้ให้เห็นเป็นรูปธรรมเสียที   .......ใช่!  แก้เป็นระบบ  .แพทย์แผนไทย&แผนประยุกต์ ออกโรง สนองนโยบายเดิมเรื่อง ประหยัดงบประมาณชาติ  ปีละล้านล้านบาท  จะได้เป็นจริงเสียที       .........

ิอยากให้เร่งพัฒนาการเรียน ต่อยอดเป็นโทหรือเอกเพื่อให้มีความรู้้ที่มากขึ้ย ไม่ใช่ อยากเรียนเป็นอาจารย์อย่างเดียวครับ..และ อยาก ให้ หลาย แห่ง ช่วย กัน เปิด สอน และ อยาก ให้ รับ บุคคล ที่ ชอบ ทางนี้ทุกสถาบัน..เข้า เรียน อย่่า เลือก..เพราะ เราคนไทยด้วยกีน…รัก ชาติ รัก วิชาแผนไทย..ต้องการ ช่วยไทย เช่น กัน ครับ..ขอบ คุณ คนดีทุกท่าน..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท