วิธีการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์


วิธีการเลือกชื่อคอมพิวเตอร์

วิธีการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์
การพิจารณาเลือกซื้อคอมพิวเตอร์เป็นขั้นตอนสำคัญซึ่งเราควรทำความเข้าใจก่อนศึกษาเรื่องอื่นซึ่งเนื้อหาในบทนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือการเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และการเลือกซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์บางชิ้นในกรณีที่เราต้องการซื้ออุปกรณ์มาประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์เอง หรือเราต้องการอัพเกรดอุปกรณ์บางชิ้นภายในเครื่อง เช่น ต้องการซื้อฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่ที่มีความจุมากกว่าเดิม หรือซื้อแรมมาเพิ่มให้ประมวลผลได้เร็วยิ่งขึ้น เป็นต้น เนื้อหาในส่วนนี้จะให้รายระเอียดและขั้นตอนในการเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เราได้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด และไม่ถูกหลอกในการเลือกซื้อ โดยพอสรุปขั้นตอนที่เราควรคำนึงถึงเป็นแผนภาพดังต่อไปนี้

ลักษณะการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนแรกที่เราควรพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ นั่นคือต้องการนำคอมพิวเตอร์ไปใช้งานอะไร เป็นต้นเพื่อที่เราจะสามารถเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานโดยเราจะแบ่งระดับผู้ใช้งานเป็น 3 ประเภท คือ1. Basic User ได้แก่ ผู้ใช้โปรแกรมประเภท Windows 95/98/Me,Ms Office และดูหนังฟังเพลง2. Power User ได้แก่ ผู้ใช้งานด้านกราฟฟิกและเล่นเกม เช่น โปรแกรม Photoshop ,AutoCAD3. Graphic User ได้แก่ ผู้ที่ใช้งานด้านกราฟฟิกเป็นหลัก เช่น โปรแกรม Photoshop,AutoCAD และ 3D Studio Max ตารางข้างล่างจะเป็นตัวอย่างในการเลือกอุปกรณ์ในการใช้งาน โดยแบ่งตามระดับผู้ใช้งานดังนี้
ระดับผู้ใช้
ซีพียู
ขนาดแรม (MB)
ความเร็วแรม(MHz)
Basic User
Intel Celeron 400-500 MHz AMD K6 350-500 MHzCyrix MII 350 MHz ขึ้นไป
32 หรือ 64
66 หรือ 100
Power User
Intel Pentium III 400 MHz ขึ้นไปAMD K6 III 400 MHz ขึ้นไปCyrix M II 450 MHz หรือ Cyrix M III
64
100
Graphic User
Intel Pentium III 600 MHz ขึ้นไป หรือ AMD k7 600 ขึ้นไป
128
100 หรือ 133
สเป็คของเครื่องคอมพิวเตอร์
เมื่อเราทราบถึงลักษะการใช้งานของเครื่องแล้ว ต่อมาเราจะพิจารณาถึงสเป็ค ของเครื่อง ซึ่งเราควรดู สเป็คของเครื่องคอมพิวเตอร์ว่าเป็นอย่างไร มีความเหมาะสมหรือตรงตามวัตถุประสงค์ในการใช้งานหรือไม่ ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์มีส่วนประกอบหลักๆที่ควรพิจารณามีดังนี้หน่วยประมวลผล (CPU) ว่าเป็นรุ่นใด เช่น Celeron Pentium II Pentium III และ CPU เหล่านี้มีความเร็วในการทำงานเท่าไหร่มีหน่วยความจำหลัก (RAM) ว่ามีขนาดและความเร็วเท่าไหร่ เช่น แรมขนาด 64 MB มีความเร็วในการทำงาน 100 MHzฮาร์ดดิสก์มีขนาดเท่าไหร่ มียี่ห้อหรือเป็นชนิดใดและมีความเร็วในการถ่ายเทข้อมูลเท่าไหร่ใช้เมนบอร์ดรุ่นไหนมีการ์ดจอยี่ห้อหรือรุ่นอะไร และมีหน่วยความจำในการ์ดจอเท่าไหร่มีการ์ดเสียงและลำโพงยี่ห้อหรือรุ่นอะไร ฯลฯ ซึ่งตัวอย่างต่อไปนี้ เป็นสเป็คตัวอย่างของเครื่องในใบเสนอราคาจากร้านค้าแห่งหนึ่ง
37,343 บาท หรือ2,059 บาท/เดือน x 24 เดือนIntel Pentium III 600MHzChipset Intel Mainboard64MB SDRAM (100MHz) Memory15GB Hard Disk Ultra DMA 661.44MB Floppy Disk DriveMedium Twer 250w ATX Case125 WATT Stereo Speaker50X CD-ROM Drive108 Key KeyboardPS/2 Mouse and Mouse pad15" Digital Control Samsung Monitor
ตารางต่อไปนี้จะอธิบายรายละเอียดสเป็คของเครื่องจากโบร์ชัว
สเป็คของเครื่อง
คำอธิบาย
Intel Pentium III 600 MHz
ซีพียู Intel รุ่น Pentium III ความเร็ว 600 MHz
Chipset Intel Mainboard
ใช้ Mainboard ที่ทำงานด้วยชิบเซ็ต จาก Intel
64 MB SDRAM (100 MHz) Memory
หน่วยความจำขนาด 64 MB ทำงานที่ความเร็ว 100 MHz
15 GB Hard Disk Ultra DMA 66
ฮาร์ดดิสก์ขนาด 15 GB ชนิดที่มี ความเร็วในการถ่ายเทข้อมูลแบบ Ultra DMA 66 เมกะไบต์ต่อวินาที
1.44MB Floppy Disk Drive
ฟล็อปปี้ดิสก์ไดร์ฟขนาด 3.5 นิ้วใช้งานกับแผ่นดิสก์เก็ต 1.44MB
Medium Tower 250w ATX Case
เคสขนาดกลาง 250 w ใช้กับบอร์ด ATX
120 Watts Stereo Speaker
ลำโพงสเตอริโอขนาด 120 วัตต์
50X CD-ROM Drive
เครื่องอ่านซีดีรอมความเร็ว 50 เท่า
108 Key Keyboard
คีย์บอร์ด 108 Key
PS/2 Mouse and Mouse pad
เมาส์ขั้วต่อ PS/2 และแผ่นรองเมาส์
15"Digital Control Samsung Monitor
จอภาพขนาด 15 นิ้วระบบดิจิตอล ยี่ห้อ Samsung
ราคาของเครื่องคอมพิวเตอร์ จากตัวอย่างดังกล่าว การที่เราจะเข้าใจใบเสนอราคาเครื่อง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแต่ผู้ใช้ควรมีพื้นฐานภาษาอังกฤษ เพราะใบเสนอราคาเครื่องโดยทั่วไปจะใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด ปัญหาพื้นฐานของผู้ใช้มือใหม่ที่มักจะสับสนว่า อะไรคือชื่อยี่ห้อ อะไรคือชื่ออุปกรณ์ เพราะมองในใบเสนอราคามีแต่ภาษาอังกฤษทั้งนั้น วิธีการแก้ปัญหาคือ การหาชื่ออุปกรณ์ ซึ่งชื่ออุปกรณ์จะใช้คำหลักๆเหล่านี้เสมอ เช่น Mainboard, RAM, Monitor, Keyboard, Mouse ส่วนรายละเอียดอื่นๆที่มีเพิ่มเติม ก็มักจะเป็นยี่ห้อของอุปกรณ์นั้น (ถ้ารายละเอียดเป็นตัวอักษร) เป็นความเร็ว ความจุขนาดของอุปกรณ์นั้น (ถ้ารายละเอียดเป็นตัวเลข) ส่วนรายละเอียดที่แตกต่างจากตัวอย่างที่นำเสนอนั้นจะมีอยู่ไม่มากแล้ว เราสามารถสอบถามจากร้านค้านั้นๆได้
ในปัจจุบันอุปกรณ์หรือเครื่องมีราคาไม่แน่นอน ดังนั้นก่อนซื้อเครื่องเราควรหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าเราจะซื้อรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร โดยการอ่านข้อมูลในหนังสือหรือการเดินสำรวจตามร้านต่างๆ พร้อมหยิบโบว์ชัวหรือใบเสนอราคา เพื่อนำมาเปรียบเทียบสเป็คและราคาว่าเป็นอย่างไรและราคานี้ยังขึ้นอยู่กับลักษณะของการซื้อด้วย ซึ่งในปัจจุบันเราแบ่งลักษณะของการซื้อคอมพิวเตอร์เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้1. กลุ่มผู้ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบมียี่ห้อ หรือเครื่องแบรนด์เนม (Brand Name) ซึ่งเป็น แบรนด์เนมทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ เช่น Intel,Acer, IBM , Atec, Powell, Success PC เป็นต้น ข้อดี คือการได้เครื่องที่มีคุณภาพสูง อุปกรณ์ต่างๆถูกคำนวณและปรับแต่งด้วยวิศวกรที่ชำนาญ เพื่อให้ประสิทธิภาพเครื่องโดยรวมมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังมีการประกันและบริการหลังการขายเป็นอย่างดี (ในบางครั้งอาจมีการฝึกอบรมการใช้เครื่องหรือโปรแกรมแก่ผู้ใช้ด้วย)และเมื่อเครื่องเสียจะซ่อมได้ง่ายเนื่องจากช่างรู้อุปกรณ์ต่างๆเป็นอย่างดี ข้อเสีย คือเครื่องมีราคาแพงที่สุดและเลือกสเป็คตามต้องการไม่ได้ (เพราะว่าสเป็คได้ถูกกำหนดมาแล้วเป็นชุด) เนื่องจากการดูแลรักษาง่าย มีปัญหาน้อยที่สุด ดังนั้น การซื้อเครื่องแบบนี้จะเหมาะกับผู้ซื้อไม่มีประสบการณ์ในการใช้เครื่องและมีทุนทรัพย์เพียงพอและเหมาะกับองค์กรที่ใช้เครื่องเป็นจำนวนมาก2.กลุ่มผู้ซื้อเครื่องประกอบตามใบสั่งจากร้าน ข้อดี คือสามารถกำหนดสเป็คและรุ่นได้ ราคาถูก (ส่วนการรับประกันและบริการหลังการขายขึ้นกับทางร้าน) สามารถจำกัดงบได้ ข้อเสียคือการประกอบเครื่องอาจเป็นเพียงการนำอุปกรณ์ตามที่เรากำหนดสเป็คไว้มาประกอบรวมกันเท่านั้น ไม่ได้คำนวณและปรับแต่งเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งกว่านั้นถ้าเราไม่มีความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์นั้น เราอาจได้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพเพียงพอหรือได้สินค้าปลอม และเมื่อเครื่องเสียต้องยกมาที่ร้านเอง3.กลุ่มผู้ซื้อเครื่องประกอบโดยนำมาประกอบเอง ข้อดี คือได้อุปกรณ์ที่ดีมีคุณภาพเพราะเป็นอุปกรณ์ใหม่แกะกล่อง แน่ใจได้เลยว่าไม่ใช่สินค้าปลอม สามารถเลือกรุ่น และยี่ห้อได้เช่นเดียวกับแบบสั่งประกอบ แต่เลือกได้หลากหลายกว่า และอาจซื้อได้ถูกกว่าอีกด้วย ข้อเสีย คือราคาโดยรวมอาจจะสูงกว่าซื้อตามใบสั่งบางรายการ เพราะอุปกรณ์ที่ได้จะดีกว่าและผู้ซื้อต้องเสียเวลาในการประกอบเครื่องเองและติดตั้งโปรแกรมด้วยตนเอง "คอมพิวเตอร์มีขายเยอะแยะ ทำไมต้องประกอบเอง" คำตอบง่ายๆก็คือ ก็เพราะว่าเครื่องที่ประกอบใช้เองนั้นราคาประหยัดกว่า สามารถเลือกสเปคและยี่ห้ออุปกรณ์ได้ตามความพอใจ และที่สำคัญคือเลือกได้ทันสมัยกว่าเครื่องแบรนด์เนมทั่วไปอีกด้วย

หมายเลขบันทึก: 214865เขียนเมื่อ 8 ตุลาคม 2008 09:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

เราจะเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ได้กี่แบบคะ

การเลือกคอมพิวเตอร์เนื้อหาดีมากคะ

สุดยอดไปเลยเพื่อนเอย

ว่างัยเพื่อนรักพาไปส่งคอมหน่อย

ใช่ค่ะ สิ่งแรกที่ต้องรู้ก้คือ จะนำไปใช้งานในรูปแบบใด

ก่อนจะซื้อคอมพิวเตอร์ต้องศึกษามาก่อนค่ะ

พริกหว๊านหวานค่ะ...

การที่เราจะเลือกซื้อคอมพิวเตอร์นั้น เราคิกว่า จะต้องรู้ว่าจะซื้อมาใช้งานประเภทใด

ราคา ประกัน

ขอบคุณนะสำหรับข้อมูลที่เลือกซื้อคอม

แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะครับ...จากครูสอนคอมพวเตอร์

เป็นประโยชน์อย่างมากครับ

ข้อมูลดีค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลน่ะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท