ผู้หิว...!


ในช่วงเย็นของวันนี้ระหว่างที่ดูงานก่อสร้างนั้น มีผู้ชายคนหนึ่งเดินดุ่ย ๆ เข้ามาหา ดูท่าทางแล้วก็น่ากลัว

ตอนนั้นเราก็พยายามมองและสังเกตท่าทีเขาดูว่ามีภัยหรือปลอดภัย

ครั้นเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ ๆ เรา เขายกมือไหว้ขึ้นอย่างนอบน้อมแล้วพูดว่า

มีข้าวบ้างไหมครับ ขอกับข้าวไปกินหน่อยครับ...”

ตอนนั้นเราเองก็พลันโล่งใจ จากนั้นก็ถามเขาว่าทำงานที่ไหนที่เหรอ

“ผมทำงานก่อสร้างอยู่หมู่บ้านข้าง ๆ ครับ วันนี้เจ๊ไม่มา ที่นี่มีข้าวบ้างไหม...”

เอ่... คนแถวนี้ตอนเย็นเขาไม่กินข้าวกันด้วย กับข้าวที่เหลือจากกลางวันก็แจกจ่ายไปกันหมดแล้ว จะเอาข้าวที่ไหนให้เขาดีหว่า...

ตอนนั้นจึงเดินไปชวนเขาคุยไป ก็คิดขึ้นได้ว่า ปกติเราแจกนมให้ช่างแสงและลูกน้องกินกันวันละสองกล่องอยู่แล้ว เราจึงบอกเขาว่า เอานมไปกินรองท้องก่อนนะ...

“ครับ ๆ ได้ครับ ถ้ามียากันยุงขอยากันยุงด้วยนะครับ...”

จากนั้นเราจึงเดินไปหยิบนมให้ 4 กล่อง แล้วลองมองหายากันยุงดูแต่ก็ไม่มี จึงหยิบสบู่ ยาสีฟัน และแปรงสีฟันไปให้เขา...

 

ชีวิตคนนี่ทุกข์ไม่ใช่เล่นนะ

 

ตั้งแต่เรามาทำงานก่อสร้างนี้เราเห็นชีวิตคนในมุมมองต่าง ๆ อีกมากมาย


แม้แต่ช่างก่อสร้างเอง ถ้าเจอนายจ้างดีก็สบาย แบบช่างก่อสร้างที่ทำงานอยู่กับเรา


ท่านอาจารย์เมตตาให้นมวันละสองกล่อง ตอนกลางวันก็ไปเอาอาหารมังสวิรัตและขนมมากินกันได้ ถ้าวันไหนกันข้าวเหลือเยอะก็ให้แบ่งไว้กินตอนเย็นกัน ส่วนค่าจ้างนั้นเราก็ให้สูงกว่าที่อื่น คือ ถ้าจ้างรายวันเราก็ให้ผู้ชายวันละ 250 บาท ผู้หญิง 200 บาท หรือถ้าจ้างเหมา เราก็จะให้ค่าจ้างเหมาสูงกว่าที่อื่นประมาณ 10 บาทต่อตารางเมตร เพื่อให้เขามีข้าวกิน มีเงินไปใช้เลี้ยงลูก

วันนี้มีช่างผู้หญิงคนหนึ่งลางานไปก็เพราะลูกป่วย ส่งพ่อมาทำงานคนเดียว แม่ต้องดูแลลูก เราเองจึงฝากนมไปให้เขาหลายกล่อง

ชีวิตคนนี้ล้วนแล้วแต่ต้องยุ่งและวุ่นอยู่กับเรื่อง “กาม กิน และเกียรติ”


เรื่องปากเรื่องท้องนี้มิใช่เรื่องเล็ก ๆ เลย


การที่เราต้องวุ่นวายทำงานกันอยู่ในทุกวันนี้ก็เพราะด้วยเรื่องทั้งสาม (กาม กิน และเกียรติ) นี้เอง

แต่นั่นก็เถอะ...


ปากเรา คือ พ่อ และแม่ ก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่ปากลูกน้อยนั้นแลเป็นทุกข์อันใหญ่หลวงของพ่อแม่


ช่างแสงเคยเล่าให้ฟังในวันพุธ (1 ตุลาคม 2551) ที่ผ่านมาหลังจากที่ช่างแสงมาขอเบิกเงินเพื่อไปจ่ายค่าเช่าบ้านประมาณพันกว่าบาท
เราก็ถามช่างแสงว่า วัน ๆ หนึ่งไม่เห็นใช้เงินอะไรเลยที่นี่ก็มีข้าว มีขนมให้กินกันตลอดทั้งวัน

“ช่างแสงก็ตอบว่า ผมกับแฟนใช้เงินกันไม่เยอะหรอกครับ แต่ลูกวันหนึ่งต้องใช้วันละสี่สิบห้าสิบบาท
ทั้งเงินไปโรงเรียน และโดยเฉพาะตอนกลับมาจากโรงเรียนต้องซื้อขนมกินอีกหลายสิบบาท

ที่นี่ให้ขนมไปตั้งเยอะแยะไม่ใช่เหรอ...?

“ครับ ขนมปัง เบเกอรี่พวกนี้ลูกผมไม่กินครับ เขาชอบกินแต่ขนมกรอบ ๆ... !”

คิดแล้วก็สะท้อนใจตัวเองนะ
เราเคยคิดเสมอ ๆ ว่า การที่เราเองเรียนจบมาและทำงานในสายบริหารธุรกิจนี้เป็นต้นเหตุสำคัญในการทำให้สังคมเป็นอย่างนี้
เพราะนักธุรกิจนั้นมีหน้าที่หลักในการแหย่ ยั่ว ยุ “กิเลสและตัณหา” ของคนทั้งหลายเพื่อที่ได้มาซึ่งตัวเลขทางการค้าไม่ว่าจะเป็นเงิน ยอดขาย หรือ “กำไร...”

ความหิวของเด็กคนหนึ่งที่หิวเพราะ “อยาก” กินขนมอบกรอบ
กับความหิวของผู้ใหญ่คนหนึ่งที่หิวเพราะไม่มีข้าวไว้ยาไส้
แต่ไม่ว่าจะเป็นความหิวใด ความหิวทั้งหลายย่อมนำทุกข์มาให้กายและใจนั้นแท้จริง...

หมายเลขบันทึก: 214223เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2008 20:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท