ประเทศไทยปกครองแบบนี้ดีไหมครับ
ในขณะที่ความแตกแยกทางความคิดของประชาชนมาถึงจุดสูงสุดแล้วในขณะนี้ จากการที่คนในประประเทศนี้แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย สังเกตได้ว่าแต่ละฝ่ายยืนกระต่ายขาเดียวว่า พวกข้านี่แหละถูกแน่ ๆ ถูกที่สุด และดีที่สุด หนัก ๆ เข้ากฎหมายบ้านเมือก็ไม่เคารพกันแล้ว พวกตนเท่านั้นที่ถูก ส่วนพวกท่านนั่นแหละที่นำพาประเทศไปสู่หนแห่งความฉิบหาย ด้วยการโกง ๆ กันสุด ๆ และก็พลอยหาที่และแหล่งที่มาของเหตุแห่งความเสื่อมทรามของสังคมประเทศนี้ว่า มาจากนักเลือกตั้งพวกนี้เองที่เรา ๆ ท่าน ๆ เรียกพวกเขาว่า นักการเมืองนี้เอง พวกเขามีที่มาจากสาระพัดอาชีพและฐานะทางสังคมอาศัยช่องทางที่เราว่า ประชาธิปไตย ครั้งหนึ่งที่เราเคยคิดว่าเป็นระบอบการปกครองที่ดีที่สุดโดยผ่านระบบตัวแทน ถึงแม้จะมีความชั่วอยู่บ้างก็ยังดีกว่าการปกครองระบอบต่าง ๆ ที่มีอยู่ในโลกใบนี้ แมถึงวันนี้และขณะนี้ประชาธิปไตยโดยผ่านระบบตัวแทนอาจไม่เหมาะกับประเทศไทยของเราเสียแล้ว พวกเขาเข้ามาเพื่อแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์เท่านั้น เพราะตัวแทนที่มาก็มาเพื่อแสวงหาอำนาจได้ เข้ามาเพื่อกอยโกยผลประโยชน์ให้แก่ตนและพวกพ้อง บางคนจน ๆ มาเล่นการเมืองไม่กี่ปีก็รำรวยมหาศาล โกงแล้วโกงอีกสืบถอดกันมาเป็นทอด ๆ เพราะเขาเหล่านั้นได้สิ่งสำคัญที่เขานำมาเป็นอาวุธข้ออ้างที่สำคัญ คืออำนาจที่เขาได้รับจากประชาชนหรือเป็นเพราะอำนาจนำมาซึ่งความฉ้อฉลดังนักปราชญ์ทางการเมืองของยุโรปเคยกล่าวไว้ ผมมองว่าหรือเป็นเพราะความชั่วร้ายต่างที่ทำให้นักการเมืองเสียคนและคดโกงกินชาติบ้านเมืองของเราในปัจจุบันนี้ มาจาก อำนาจนี่เอง เพราะว่าอำนาจนี้เป็นกิเลสอย่างหนึ่งเมื่อเข้าใครมีในใคร หรือได้เสพเข้าไปแล้วยากที่จะถอนตัวได้ หรือที่เรียกกันว่ามัวเมาอย่างสุด ๆ นั่นเอง ดังนั้นระบอบการปกครองแบบใหม่ที่จะเสนอต่อไปนี้เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณาว่าจะเหมาะสมกับประเทศไทยหรือไม่คือ ระบอบที่นักการเมืองที่อาสาเข้าปกครองโดยไม่ต้องใช้อำนาจปกครอง ท่านทั้งหลายคิดว่าจะมีโอกาสเป็นไปได้ไหมครับ ถ้าเป็นไปได้เราจะเรียกการปกครองนี้ว่าระบอบอะไร และจะมีวธีการปกครองอย่างไรครับช่วยคิดหน่อยครับ
ความเห็น (4)
คุณโสภณครับ นี่หละครับเขาเรียกว่า "กลียุค" ใคร ๆ อย่าหวังที่ว่าจะเข้าไปแก้ไขได้เลย ตอนนี้แต่ละคนต้องแก้ไขที่ตัวเอง อย่าไปยุ่งกับเหตุการณ์ใด ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น ผมมองเหตุการณ์ทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นว่าเป็นกิจกรรมของคนชั่วร้าย ที่น่ารังเกียจ ผมจำกัดกิจกรรมชีวิตไว้เพียงในสังคมรอบข้างในทิศทั้งสี่เท่านั้น คือ ครอบครัวและเพื่อนบ้าน ความคิดของผมไปไกลที่สุดเพียงแค่ระดับตำบลเท่านั้น ขอให้ผมมีเพื่อนบ้าน ข้าวในนาได้ผลสักครึ่งหนึ่ง มีวัด มีโรงเรียน มีนักปราชญ์ชุมชนคอยนำทางแบบ"คติชนชาวบ้าน" แค่นี้ผมพอแล้วครับ ไกลไปจากนั้นแล้วแต่กิเลสของใครของมันครับ ระบบปกครองระบบไหนไม่สำคัญ ผมว่าสู้เราปกครองตนเองด้วยธรรมจรรยาดีกว่า ใครอยากได้เปรียบเราให้เขาทำไป เพราะเราหาเพียงแค่เลี้ยงตัวไม่เกินเลยพอที่ใครอยากจะมาแสวงหาจากเรา
แบ่งอำนาจการบริหารประเทศออกเป็นด้านๆ โดยให้ขึ้นอยู่กับความถนัดและกลุ่มอาชีพของประชากรในสังคม เช่น ด้านกสิกรรม ด้านอุตสหกรรม ด้านพาณิชย์ ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านศิลปะและวัฒนธรรม ฯลฯ (ก็คล้ายๆ กับกระทรวงตอนนี้) แล้วให้ประชาชนแต่ละคน ใช้สิทธิเลือกตัวแทนที่จะไปบริหารประเทศ "เฉพาะด้าน" นั้นๆ ได้เฉพาะในอาชีพหรือความถนัดของตนเอง (ซึ่งคนหนึ่งอาจสังกัดหลายกลุ่มได้)
อย่าเห็นแก่ตัวเลยครับ อย่ากลัวว่าจะเข้าไปยุ่ง เราคนไทย ปล่อยให้บ้านเมืองถูกนักการเมืองแบบนี้ปกครองวได้หรือ คนที่บอกว่า กลียุค แต่อยู่เฉยๆ เห็นแก่ตัวครับ แยกถูกผิดให้เป็น ทำเพื่อบ้านเมืองบ้าง ไม่ว่าจะเลือกข้างไหน แต่หาจุดยืนตัวตนให้ชัดเจน สำหรับเจ้าของบันทึกลองศึกษาการเมืองใหม่ดู ว่าพอเป็นทางออกไหม เพราะหากปัยหามันวิกฤติ อย่าดุ่ยๆ ทำเหมือนเดิม มันแก้ปัญหาไม่ได้ มันต้องคิดใหม่ ทำใหม่ ทำการเมืองใหม่ครับ อารยะประชาธิปไตย ของหมอประเวส วะสี ลองอ่านดูครับ
ท่านท้าวสีโห ความเห็นของท่านก็น่าคิดครับแต่ด้วยเราเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนี้และนักการเมืองเหล่านี้ก็กรรมทำเข็ญกับประเทศชาติและประชาชนมามากมายครับหากเราไม่ช่วยกันหาทางแก้ไขก็คงเป็นบาปในใจเราแน่ครับ หากถือว่ายุคนี้คือกลียุค ก็คงเกิดจากนักการเมืองชั่ว ๆ เหล่านี้ครับ ท่านคนพลัดถิ่น เป็นความคิดที่ดีครับที่บอกว่าจัดการปกครองแบบเป็นด้าน ๆ ก็น่าคิครับ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะแก้การโกงได้อย่างไรครับ ท่านคนโรงงาน อย่างนี้คือสิ่งที่ผมคิดตลอดครับว่าเราจะแก้ไขอย่างไรจะเป้นการเมืองใหม่ หรือการเมืองเก่าก็ตามหากนำมาซึ่งความร่มเย็นเป็นสุขของบ้านเมืองมันก็ต้องทำกันหละครับ ความเห็นของท่านทั้งสามหลากหลายครับ