สอนเด็ก
การสอนให้ลูกรู้จักรักและเมตตาสัตว์เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องให้ลูกศึกษาเรื่องของสัญชาตญาณของสัตว์ด้วย ครั้งหนึ่งเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เชียงใหม่ที่มีสวนสัตว์เปิดอยู่ภายในวัดอุโมงค์เชียงใหม่ ที่นั่นมีลิงที่ปล่อยให้อยู่ในวัดอย่างเป็นธรรมชาติ ผู้คนที่ไปทำบุญหรือไปเที่ยวที่วัดอุโมงค์ ( อยู่ด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ) จะคุ้นเคยกับลิงฝูงใหญ่ที่วิ่งไปมา หลายคนก็นำอาหารไปเลี้ยง และเพลิดเพลินกับความเป็น ล.ลิง ภาพลูกลิงตัวเล็กๆ ที่กำลังกินอาหารช่างน่ารักน่าเอ็นดู แอบถ่ายภาพเก็บไว้ แล้วเผลอเอามือไปลูบหลังมันเล่น ....เป็นได้เรื่อง...ถูกมันแว้งกัดจนเลือดไหล....เพราะคิดว่าการลูบหลังคือสัมผัสที่มันรู้สึกว่ากำลังถูกแย่งอาหาร เจ็บและจำจนฝังใจว่า....สัตว์ทุกชนิดไว้ใจมันไม่ได้เพราะเราเดาใจมันไม่ถูก และมันเองก็เดาใจเราไม่ถูกเช่นกัน.....
ประสบการณ์ที่เคยโดนลิงกัดกลายเป็นบทเรียนแห่งการเฝ้าระวังเด็กๆ เมื่อมีโอกาสก็จะสอนให้เด็กเข้าใจถึงสัญชาตญาณของสัตว์ เช่นในวันหนึ่ง มีสุนัขที่เผลอเดินขึ้นตึกหาทางลงไม่ได้ แล้วมิหนำซ้ำยังไปติดอยู่ที่ระเบียงชั้น 6 (อาคารเรียนที่ใช้เป็นที่สอนมีอยู่มึความสูงถึง 7 ชั้น ) และมีช่องว่างพอให้มันหลุดลอดไปที่ระเบียงกันสาดของตึกได้ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นทางออก มันเลยวิ่งกลับไปกลับมาอยู่ที่ระเบียงด้วยความตื่นตระหนก นักเรียนชายคนหนึ่งกระโดดลงไปหวังจะช่วยอุ้มหมาขึ้นมา โดยลืมคิดถึงความสูง...ซึ่งถ้าตัวเองเผลอมองลงไปข้างล่างแล้วเกิดกลัวความสูงแล้ววูบ... ลืมคิดไปว่าตัวเองไม่ใช่เจ้าของหมา และลืมไปอีกว่าหมามันตัวใหญ่...ที่สำคัญมันจะเข้าใจไหมว่านักเรียนจะไปช่วยมัน.... มันอาจกระโจนเข้าหาด้วยสัญชาตญาณแห่งการป้องกันตัว ....( นี่ถ้าครูไม่มาพบและสั่งให้หยุดอยู่ตรงนั้นแล้วให้เพื่อนๆ ช่วยกันดึงแขนขึ้นมา เสียก่อน อาจเกิดเหตุการณ์สยองขวัญที่ไม่คาดคิดก็ได้ )
ปกติจะไม่เคยเฝ้าระวังในเหตุการณ์ที่เล่ามานี้ ตลอดระยะเวลา 12 ปี ที่สอนหนังสือและรับประทานอาหารกลางวันอยู่ที่ชั้น 6 ก็จะเฝ้าระวังแค่กลัวเด็กทดสอบความสูงของอาคารเท่านั้น บทเรียนครั้งนี้จึงเป็นบทเรียนที่ต้องปฐมนิเทศตอนเปิดภาคเรียนและเปลี่ยนระดับชั้นใหม่ทุกครั้ง ... เพื่อสอนวิธีคิดให้เด็กที่รักและเมตตาสัตว์ได้รู้และเข้าใจสัญชาตญาณของสัตว์ด้วย จะได้ระวังตัว....จะหวังให้สัตว์เข้าใจมนุษย์คงยาก....เพราะขนาดมนุษย์...ยังไม่เข้าใจมนุษย์ด้วยกันเลย...อิ..อิ
สวัสดีค่ะ
ขอขอบคุณที่กรุณาไปให้กำลังใจนะคะ
อ่านแล้วขนลุกเลยนะคะ เหตุการณ์เฉพาะหน้าบางทีเด็กขาดความยั้งคิด จริง ๆ ด้วยค่ะ
จะมาติดตามอ่านอีกนะคะ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ
***ขอบคุณครูคิมที่แวะมา
***ถ้ามีโอกาส อยากให้แวะมาหาที่ทำงานบ้าง
สวัสดีค่ะ
***ไม่ค่อยมีบันทึกมาให้ครูอ้อยอ่าน
***มีแต่ติดตามอ่านบันทึกของครูอ้อย...มานาน
***ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
สวัสดีครับ คุณครู กิติยา เตชะวรรณวุฒิ
ผมตามมาจากบันทึกของผมครับ ผมอ่านบันทึกของครูแล้วเพลิดเพลิน สนุกดี
เขียนเรื่องราวดีๆต่อเรื่อยๆนะครับ เป็นกำลังใจให้ตลอดครับ
สวัสดีค่ะจตุพร
***ติดตามบันทึกของคุณตลอดค่ะ..ได้เรียนรู้อะไรดีๆอีกมากมาย...ขอบคุณที่ให้กำลังใจค่ะ..เดินมางบ่อย...ดูแลสุขภาพ..พักผ่อนให้เพียงพอนะคะ.
มาชม คุณ กิติยา เตชะวรรณวุฒิ
มีข้อคิดดี ๆ เช่น...เพราะขนาดมนุษย์...ยังไม่เข้าใจมนุษย์ด้วยกันเลย
สวัสดีค่ะอาจารย์
***ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
***รูปคุณ...คนตัวเล็กๆของอาจารย์ดูห่างหายไปคิดถึงความบริสุทธิ์ค่ะ
สวัสดีค่ะ
***สักวันคงโชคดี...ได้มีโอกาสพบอาจารย์บ้างนะคะ
***ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะคุณครูคิม
***ขอบคุณที่แวะมา...โรงเรียนยังไม่ปิดค่ะ เรียนต่อจนถึงวันที่ 22 ต.ค.51 ค่ะ
***มีเวลาแวะมาเที่ยวนะคะ
***ขอบคุณค่ะ
มาแวะเวียนมาอ่านเรื่องดีดีครับ
สวัสดีค่ะ คนพลัดถิ่น
***ขอบคุณที่แวะมา...ว่าแต่ตอนนี้หายคิดถึงบ้านหรือยังคะ อิอิ