อยากให้ลูกอ่านหนังสือ
จากการได้พูดคุยกับผู้ปกครองนักเรียน พบว่าพ่อแม่และผู้ปกครองนักเรียนยินดีจ่ายสตางค์ซิ้อหนังสือให้ลูกอ่าน และจากการสอบถามนักเรียนว่าพ่อแม่บ่นหรือไม่ เมื่อครูสั่งการบ้าน ให้อ่านหนังสือนอกเวลาเพื่อทำบันทึกการอ่านมาส่งครู นักเรียนเกือบร้อยละร้อยตอบว่าถ้าเป็นหนังสือ...พ่อแม่ไม่เคยบ่น พ่อแม่บางคนได้มีโอกาสพาลูกไปซื้อหนังสือ ทั้งพ่อแม่ลูกช่วยกันเลือกหนังสือให้ลูก เป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ในครอบครัวเพราะหนังสือเล่มนั้น ทุกคนในครอบครัวได้อ่านและนำมาเป็นประเด็นในการพูดคุยกัน.....นั่นเพราะคนที่เป็นพ่อแม่เกือบทุกคนอยากให้ลูกอ่านหนังสือ
สังคมโลกยุคสื่อสาร....ทำให้หนอนหนังสือลดจำนวนลง เยาวชนบางกลุ่มใช้เวลาหาความสุขกับการดูหนัง ฟังเพลง ใช้โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตสื่อสารกัน ชีวิตจึงขาดสุนทรียจากการอ่านไป
ทำอย่างไรจึงจะสร้างแรงจูงใจให้ลูกรักการอ่านได้ เป็นโจทย์ที่พ่อแม่ทุกคนต้องช่วยกันคิด เพราะการจะสร้างวัฒนธรรมแห่งการอ่านหนังสือได้ ต้องเริ่มที่ครอบครัวก่อน อยากให้ลูกอ่านหนังสือ คงต้องถือหนังสืออ่านให้ลูกเห็นเป็นภาพพิมพ์ใจตั้งแต่เยาว์วัย พอลูกเติบใหญ่ก็ต้องเสริมแรงอย่างต่อเนื่อง เพราะหนังสือคือความจำเป็นขั้นพื้นฐานของชีวิต และหนังสือช่วยออกแบบชีวิตให้มนุษย์ได้.
สวัสดีครับคุณกิติยา
การจะสร้างวัฒนธรรมแห่งการอ่านหนังสือได้ ต้องเริ่มที่ครอบครัวก่อน อยากให้ลูกอ่านหนังสือ คงต้องถือหนังสืออ่านให้ลูกเห็นเป็นภาพพิมพ์ใจตั้งแต่เยาว์วัย พอลูกเติบใหญ่ก็ต้องเสริมแรงอย่างต่อเนื่อง เพราะหนังสือคือความจำเป็นขั้นพื้นฐานของชีวิต และหนังสือช่วยออกแบบชีวิตให้มนุษย์ได้.
ขอ"เชียร์"ครับ
โชคดีครับผม
พ่อแม่และคุณครูคือต้นแบบค่ะ เราผู้ใหญ่ทั้งหลายหยิบหนังสืออ่านกันวันละหลายๆครั้งกันเถิดค่ะ รับรองว่าไม่ต้องรณรงค์อะไรเลย เด็กๆอ่านแน่นอน ทำให้ผู้ใหญ่ที่รู้ว่าการอ่านหนังสือเป็นเรื่องดี มาช่วยกันอ่านหนังสือให้มากขึ้นได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นปัญหานี้จะหมดไปแน่นอนเลยค่ะ
***ขอบคุณค่ะนายช่างใหญ่
นมัสการท่าน tukkatummo ด้วยความเคารพค่ะ
สวัสดีค่ะ...โอ๋ - อโณ
*** ขอบคุณที่แวะมาค่ะ...การอ่านหนังสือคือการสร้างชีวิตให้แข็งแร็งสมบูรณ์เพื่อช่วยชาติบ้านเมือง....การอ่านหนังสือเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องช่วยกันทุกฝ่ายค่ะ
ในตอนเด็กๆ พ่อกับแม่ของหนูก็ชอบซื้อหนังสือมาให้อ่านและอ่านให้ฟังบ่อยๆค่ะ จนตอนนี้หนูกับพี่สาวติดอ่านหนังสืออยู่ตลอดเวลา ต้องหาหนังสืออ่านตลอด ทั้งวรรณกรรมเยาวชน หนังสือแปล มันสนุกมาก และตอนนี้ก็ติดเรื่อง เจ้าชายไม่วิเศษ อยู่ค่ะเป็นวรรณกรรมเยาวชนยอดเยี่ยมของนายอินทร์อะวอร์ด ตั้งแต่ปี46 เบื่อๆเลยไปค้นหนังสือเก่าๆของพี่มาอ่าน สนุกมากค่ะ คิดว่าอาจารย์คงอ่านแล้ว หนูคิดว่าการที่เด็กๆจะรักการอ่าน มาจากปัจจัยหลายๆอย่างค่ะ เช่น พ่อแม่ชอบอ่านหนังสือเป็นแนวทางต้นแบบให้ลูกสนใจอ่านตาม ปลูกฝังให้เด็กๆอ่านหนังสือกันบ่อยๆ ทั้งพ่อแม่และครูอาจารย์ก็ต้องช่วยกันค่ะ ทุกวันนี้เด็กๆหลายคนแม้กระทั่งวัยรุ่นที่เริ่มโตขึ้นกัน ก็ไม่ค่อยสนใจอ่านหนังสือกันแล้ว เพราะคิดว่าน่าเบื่อ เล่นแต่อินเทอร์เน็ต Hi5 เล่นเกมส์กัน ก็มีแต่ผู้ปกครองกับครูอาจารย์เท่านั้นแหละค่ะที่ต้องช่วยกันดูแลช่วยกันดึงเค้าออกมา ให้มาสนใจสิ่งที่มีประโยชน์จริงๆ การอ่านหนังสือสร้างความรู้และจินตนาการให้เรามากมาย การที่หนูได้อ่านหนังสือมามาก ทำให้รู้ถึงข้อแตกต่างกับเพื่อนๆที่ไม่ได้อ่านเลยค่ะ ไม่ว่าอาจารย์จะถามอะไรที่เป็นประวัติศาสตร์ ความรู้รอบตัวทั่วไปในโลก การเมือง ข้อกฏหมาย หนูก็สามารถตอบได้ ต่างกับเพื่อนๆที่ตอบไม่ค่อยได้ ไม่ค่อยรู้อะไรเลย เห็นได้ชัดว่าการอ่านสร้างประโยชน์ให้เราได้มากมาย หากเด็กๆได้รับการดูแลใส่ใจปลูกฝังค่านิยมการอ่านหนังสือ ให้อ่านหนังสือดีๆ มาพัฒนาความรู้(ดีกว่าให้เด็กๆอยู่กับเกมส์เลียนแบบเกมส์ ใช้อินเทอร์เน็ตในทางที่ผิดๆ)ประเทศไทยของเราคงจะมีเยาวชน อนาคตของชาติที่มีประสิทธิภาพมีความรู้ความสามารถอีกมากมายเลยล่ะค่ะ