ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 หมวด 9 ว่าด้วยเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มีข้อความที่ระบุชัดแจ้ง ถึงการให้ความสำคัญต่อสิ่งที่เรียกว่าเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ทั้งในมาตรา 63 64 และ 65 ดังนี้
มาตรา 63 รัฐต้องจัดสรรคลื่นความถี่ สื่อตัวนำและโครงสร้างพื้นฐานอื่นที่จำเป็นต่อการส่งวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ วิทยุโทรคมนาคม และการสื่อสารในรูปอื่น เพื่อใช้ประโยชน์สำหรับการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมตามความจำเป็น
มาตรา 64 รัฐต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการผลิต และพัฒนาแบบเรียน ตำรา หนังสือทางวิชาการ สื่อสิ่งพิมพ์อื่น วัสดุอุปกรณ์ และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอื่น โดยเร่งรัดพัฒนาขีดความสามารถในการผลิต จัดให้มีเงินสนับสนุนการผลิตและมีการให้แรงจูงใจแก่ผู้ผลิต และพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ทั้งนี้ โดยเปิดให้มีการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม
มาตรา 65 ให้มีการพัฒนาบุคลากรทั้งด้านผู้ผลิต และผู้ใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เพื่อให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการผลิต รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม มีคุณภาพ และประสิทธิภาพ
จะเห็นได้ว่าตามมาตรา 63 นั้นเป็นเรื่องของการจัดสรรคลื่นความถี่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาทุกรูปแบบ รวมทั้งเพื่อทะนุบำรุงศาสนาศิลปะและวัฒนธรรมอีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องติดตามดูกันต่อไปว่าจะเป็นจริงได้สักแค่ไหน เพราะพลังอำนาจและผลประโยชน์มหาศาลที่มีอยู่ในวงการสื่อสารมวลชนนั้น ไม่ธรรมดา
สิ่งที่น่าสนใจติดตามอีกด้านหนึ่งก็คือผลอันเกิดจากการปฏิบัติตามมาตรา 64 และ 65 โดยในมาตรา 64 นั้น เน้นที่การพัฒนาและการผลิตสื่อเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อใช้ในทางการศึกษา ผลที่จะตามมาก็คือเราจะได้เห็นสื่อและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ หลั่งไหลเข้าสู่สถานศึกษามากยิ่งขึ้น ภายใต้เหตุผลที่สวยงามต่างๆ นานา และลงท้ายด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 64 ดังกล่าวข้างต้น
ในแง่ของปริมาณ ความสำเร็จของงานด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาคงดูได้ไม่ยาก เพียงตรวจนับจำนวนเครื่องมือและสื่อต่างๆ ว่ามีเพียงพอและมีอัตราส่วนที่เหมาะสมกับอาจารย์และนักศึกษาหรือไม่ ซึ่งก็จะมีมาตรฐานที่เป็นสากลเป็นตัวเทียบอยู่แล้ว จึงไม่น่าห่วงว่าเราจะล้าหลังไม่มีข้าวของที่จำเป็นไว้ใช้ เพราะการผลักดันให้มีการจัดซื้อจัดจ้าง คงมีมาจากหลายทิศทาง ทั้งด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติและเหตุด้วยผลแอบแฝงในเชิงผลประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้องในระดับต่างๆ แต่ปริมาณหรือจำนวนของสื่อหรือเครื่องมือที่มีใช้ ไม่น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายของความสำเร็จในด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
เมื่อพิจารณาตามมาตรา 65 จะเห็นได้ชัดว่ามุ่งเน้นการพัฒนาที่ตัวบุคคล ทั้งในส่วนของการผลิตและการใช้เทคโนโลยี ข้อความสำคัญในวรรคสุดท้ายที่ว่า “…รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ” เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะถ้ามองย้อนอดีตเรามักจะขาดเรื่องสำคัญ คือ การพัฒนา “คน” ให้ทันกับ “ของ” ทำให้เครื่องมือเครื่องใช้ในระบบเทคโนโลยีต่างๆ เป็นของเล่นของคนกลุ่มหนึ่งไปโดยอัตโนมัติ เหตุก็เพราะไม่ได้สนใจอย่างจริงจังกับการพัฒนาคนอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้ “ของ” ที่มีให้คุ้มค่าที่สุดนั่นเอง เทคโนโลยีจึงเป็นเรื่องอะไรบางอย่างที่ แพง และเปลี่ยนแปลงเร็วตามเงื่อนไขของระบบทุนนิยมและกระแสแห่งวัตถุนิยม ทั้งยังเป็นดาบหลายคมที่อาจสร้างความลุ่มหลง เหลวไหล เป็นของเล่นที่ผลาญเวลาได้มากที่สุด ส่งเสริมความมักง่าย ความเห็นแก่ตัวและการคดโกง แถมด้วยเป็นเครื่องเร่งความเป็นทาส ขาดความเป็นไทยได้มากยิ่งขึ้นด้วย
ในทางกลับกันเราก็มีสิทธิ์ผลักดันให้เทคโนโลยี เป็นเครื่องส่งเสริมความ “ฉลาดรู้” และ “ปรีชาสามารถ” ให้เกิดมีขึ้นในผู้คนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทั้งผู้เรียนและผู้สอน ทั้งนี้เทคโนโลยีจะต้องได้รับการพัฒนา ปรับเปลี่ยนและนำมาใช้อย่างเหมาะสม เป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการและการปฏิบัติและสนองตอบต่อกระบวนการเรียนรู้สมัยใหม่ ของทั้งอาจารย์และนักศึกษา
High-Tech และต้อง High-Touch คะ
แนวคิดที่เปลี่ยน..ไป "โลก"
Thoory --->>> To--->>> Practice
สวัสดีครับ
ตามมาขอบคุณ คุณน้อง Dr.Ka-poom
ขออภัยครับที่ปล่อยให้โดดเดี่ยวอยู่ในบันทึกนี้ร่วม 2 ปี
ผมอยากได้ความหมายของคำว่าเทคโนโลยีเพื่อการศึกษากรุณาช่วยหน่อยนะครับหาไม่เจอ ขอบคุณครับ
เรียนคุณ
ขอบคุณมากครับ และจะรบกวนอีกอน่อยนะครับ คำว่านวัตกรรมการศึกษา กับนวัตกรรมเพื่อการศึกษา ความหมายเหมือนหรือต่างกันอย่างไรครับ ขอความกรุณาด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
สวัสดีครับคุณเจี๊ยบ
"ระยะเวลา" ไม่ได้ทำให้บันทึกนี้ล้าสมัยแต่อย่างใดครับ
"สร้างคน พัฒนาคน" ตาม "เทคโนโลยี" ยากที่ซู้ด ครับอาจารย์
เคยเห็นอาจารย์แถวนี้ ... พักการหาความรู้ใส่ตัว พัฒนาตน มาแล้ว 10 ปี เรียกว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้วสอนอย่างไร 10 ปีต่อมาก็สอนอย่างนั้น
เศร้าใจแท้ ๆ ครับ ... อุตส่าห์ได้มีโอกาสมาสอนบัณฑิต
แอบใส่ความคิดเห็นมาครับอาจารย์
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับท่านอาจารย์ Wasawat Deemarn