นานมาแล้วผมได้รับบทความสั้นๆที่มีผู้ส่งมาให้ทาง e-mail ชื่อบทความคือ "ความสุขอยู่ที่ไหน" ผู้เขียนใช้ชื่อว่า อยู่กับก๋ง ลองอ่านดูสิครับ ผมว่าดีนะ ท่านเห็นอย่างไรบอกด้วยก็ดี ..
.... ตอนเรียนหนังสือจบ
ฉันมีภาระหน้าที่ในการต้องออกไป “ใช้ทุน” ในต่างจังหวัด
อำเภอที่ฉันจับฉลากได้ เป็นอำเภอที่ห่างไกล และทุรกันดารที่สุด
ในจังหวัด ที่นั่นแทบไม่มีอะไรเลย แม้ที่สิ่งที่เราคิดว่าจำเป็นอย่าง
“ตลาด” เพราะที่นั่นมีเพียงตลาดนัดเล็กๆ อาทิตย์ละ 2 วันเท่านั้น
และคนที่มาขายของ ก็มิใช่ใครแปลกหน้า แต่เป็นชาวบ้านแถวๆนั้น
ฉันแทบจะหลับตาเดินได้ในตลาด บอกได้ว่ามีอะไรบ้างวางขาย
และวางขายตรงไหน เพราะมีคนมารวมกันเพื่อขายผัก ปลาเล็กๆน้อยๆ
สักประมาณ 10 เจ้าเท่านั้นเอง ที่นั่นไม่มีแม้แต่ไฟถนน
ยามค่ำคืนท้องฟ้าจะมืดสนิท คืนเดือนมืดดาวจะกระจายเต็มท้องฟ้า
ถ้าเป็นคืนเดือนหงาย พระจันทร์จะสวยมาก เพราะไม่มีแสงใดบนฟ้าอีกแล้ว
จะส่องกระจ่างเท่า
ปลายหน้าหนาวของปีหนึ่งที่นั่น
ฉันลงไปเดินเล่นในทุ่ง ทุ่งนาที่ไม่ได้เต็มไปด้วยข้าว แต่เต็มไปด้วย
“ดอกหัวหงอก” มันเป็นดอกไม้เล็กๆสีขาว ขึ้นกระจายเต็มทุ่ง
ทางเดินที่เดินเข้าไป เป็นทางดินเหนียวสีแดงอิฐ เล็กๆ
ฉันตามใจตัวเองด้วยการเดินเท้าเปล่า สัมผัสแห่งผืนดินนั้น
เต็มไปด้วยชีวิต ฉันเดินมาจนถึงทางแยก มองเห็นทุ่งนาโล่ง
และกว้างสุดตา อากาศเย็นในหน้าหนาว
ถูกแดดอุ่นยามบ่ายละลายจนเหลือเป็นความเย็นสบายบางเบา ไม่หนาวเสียดผิว
ลมหอบเอากลิ่นแห่งท้องทุ่งพัดพายมาชื่นใจ ฉันเงยหน้ามองท้องฟ้า
มันกว้างเสียจนรู้สึกสัมผัสถึงอิสระ แปลกดี
เพียงแค่เท้าเราสัมผัสผืนดิน เงยหน้ามองท้องฟ้ากว้างๆ
หรือก้มลงทำความรู้จักกับดอกหญ้าเล็กๆสักดอก
โลกก็พร้อมจะหัวเราะกับเรา วันนั้นแม้แต่ใบไม้สีเหลือง
ยังมีชีวิตทั้งๆที่มันเป็นใบไม้แห้ง
ฉันรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทั้งปวงบนโลกใบนี้
วันนี้ ฉันจากที่นั่นมา
เพื่อเรียนให้มากขึ้น
ฉันกลับมายังที่ที่เต็มไปด้วยเครื่องอำนวยความสุข และสิ่งสวยงาม
ฉันไม่ได้เดินเท้าเปล่า แต่ทรงตัวอยู่บนรองเท้าส้นสูง
ฉันไม่ได้หยุดทักทายกับดอกไม้เล็กๆหรือใบไม้สีเหลือง
เพราะเท้าของฉันมันก้าวเร็วกินไป
เครื่องช่วยเดินที่นี่มีเยอะเหลือเกิน และเร็วทันใจดีเสียด้วย
เร็วจนวันนี้โลกเล็กๆของฉันหมุนตามไม่ทัน ฉันมองไปรอบตัว โต๊ะ ผนัง
กำแพง ทีวี ตู้เย็น ล้วนเป็นเศษซากของสิ่งไร้ชีวิต มันกระด้าง
และเยียบเย็นจนเกินที่ฉันจะสนทนาด้วยได้
สิ่งที่มันกำลังอ้างตัวว่าให้ความสุข แท้จริงมันกักขังจินตนาการ
และพรากโอกาสที่ฉันจะสัมผัสกับความสุขง่ายๆ เล็กน้อยแต่งดงาม
เหมือนความสุขในท้องทุ่งวันนั้นหรือเปล่า
ความรีบเร่งที่อำนวยความสะดวกแก่ฉัน กำลังเร่งให้ฉันห่างไกลจากชีวิต
ห่างไกลจากความเป็นจริง ห่างไกลจากสติ การตื่นรู้
และห่างไกลความงามทีเรียบง่าย
หรือกำลังให้ความสุขกับฉันทันเวลากันแน่
ความสุขอยู่ที่ไหน ในทุ่งกว้าง ในเมืองใหญ่
หรือในใจฉัน
….. การที่คนเราได้มีเวลาหยุดนิ่งๆสักพัก มองดูรอบๆตัว
เราจะเห็นความจริงดำเนินไป
เห็นว่าตัวเรานั้นเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่งบนโลกที่กว้างใหญ่
และยังมีอีกหลายชีวิต ที่อยู่ร่วมกับเรา
การเห็นความผูกพันเชื่อมโยงกันระหว่างชีวิต
น่าจะช่วยให้เรามีความเมตตามากขึ้น อ่อนโยนขึ้น เพราะเรา
ไม่ได้เป็นเจ้าของโลกใบนี้คนเดียว
ความทันสมัยในโลกตอนนี้
นำเราออกห่างจากธรรมชาติ วิถีชีวิตที่วุ่นวาย รีบเร่ง
มีส่วนทำให้ใจเราร้อนรน เราไม่มีเวลาหยุด นิ่ง
และได้ทบทวนความเป็นไปของวันนั้นๆมากนัก เรา "ต้อง" เดินเร็ว กินเร็ว
พูดเร็ว เพราะเดี๋ยวจะไม่ทัน อยู่ตลอดเวลา เราถูกเร่ง
จนไม่มีเวลาได้ทบทวนความเป็นไปของชีวิต ….
...............................
ความสุขอยู่ที่ใจค่ะ
แม้ว่าบางครั้งใจมันจะดื้อไม่ยอมสุขบ้าง
ได้อ่านบทความแล้วรู้สึกว่า
ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบายไม่ได้หมายความว่าเราจะมีความสุขเสมอไป ความสุขที่แท้จริงอยู่ในใจเรานั้นเอง
ขอบคุณค่ะ ที่นำบทความดีๆมาให้อ่าน
ความสุขมันอยู่ที่ใจใช้ที่การกระทำค่ะ ฉันเกียดทุกคนค่ะ
สวัสดีครับ อาจารย์
ขอขอบคุณมากครับที่นำเรื่องนี้มาให้ผมอ่านผมเลยรู้ว่าความสุขไม่ได้อยู่ไกลตัวแต่อยู่
ภายในรอบตัวเรานี่แหละ มันไม่ได้อยู่กับสิ่งที่เป็นแสงสีเสียงแต่มันอยู่กับครอบครัวของเราเอง
ขDอบคุณครับ
อ่านแล้วนึกถึงอดีตจริงๆ ครับ ผมอยู่ต่างจังหวัดมาตลอด มาอยู่กรุงเทพฯได้ 20 ปีแล้วตอนอยู่ต่างจังหวัดมีทุ่งนา มีต้นไม้ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำปะปา รู้สึกเรามองข้ามความสุขจากมันมา เราไม่รู้เลยสักนิดว่านั่นคือความสุข แต่...... ตอนนั้นเราอาจคิดไม่ได้ สุข และมีอะไรมาบดบัง เราไม่รู้เลยสักนิดว่าความสุขตัวจริงๆ คืออะไร เพราะฉะนัน ผมคิดว่า เราควรหาความรู้ เรื่องทุกเรื่องให้มาก โดยเฉพาะเรื่องธรรมชาติ เมื่อมีความรู้ทุกเรื่องแล้ว เราอาจจะมีปัญญาเพิ่มขึ้น ว่าความสุขไม่ได้เกี่ยวกับอยู่ต่างจังหวัด หรืออยู่ในเมืองแต่มันอยู่ที่เรารู้เท่าทันสิ่งรอบตัวเรามากกว่า ว่าเราจะทำอย่างไรให้เรามีความร่าเริงอยู่ตลอดเวลา นะครับ .............
ขอขอบคุณรวบยอดนะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและมอบความคิดเห็นไว้ ขอให้ทุกท่านพบความสุขได้โดยง่าย สม่ำเสมอครับ
ใช่ครับความสุขอยู่ที่ใจ ทำดี ประพฤติดี มีอุปสรรค บางอย่าง ใช้จิตใจสงบนิ่ง ค่อยแก้ไขทีละเล็กทีละน้อย ใช้ความอดทนร่วมด้วย สุขทุกข์ถือว่าเป็นธรรมดาของมนุษญ์ จงใช้ จิตใจที่เยือกเย็นค่อยๆแก้ทุกอย่างก็คลี่คลายไปด้วยดีอย่างมีความสุขครับ
คงไม่มีจริงๆที่เราจะพบกับความสุขที่ยาวนานและตลอดไป
คงมีหลายวันที่เลวร้ายและสิ้นหวัง
และสิ่งที่ดำเนินต่อในอนาคตก็คงไม่ต่างอะไรกัน
ชีวิตเราจะเจออะไรอีมมากไหม.....
ขอเพียงหลายวันที่มีความสุข
และมีวันหนึ่งที่ถึงความฝัน
ชีวิตนี้ก็ไม่ต้องการอะไรมากไปแล้ว
เพราะความสุขที่ยิ่งใหญ่ของผม
มันก็คือวันเเห่งความฝันที่ต้องการT_T
ความสุขมันมีจริงๆๆหรอค่ะในโลกใบนี้
ตอนนี้หนู๋มีแตความทุกข์จังเลย
ความสุขมันไม่ได้อยู่กับเราอย่างเดียวหลอกค่ะมันอยู่กับสิ่งรอบกายด้วยต่างหาก บางครั้งความจำเป็นก็ฉุดเราให้อยู่กับความทุกข์ ทั้งที่เรารู้ว่าอะไรทำให้เราสุขได้แต่เราไม่สามารถไปหาความสุขจากมันได้
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ที่มีให้อ่าน
ขอให้ทุกคนรวมทั้งตัวหนิงมีความสุขที่แท้จริงค่ะ
ความสุข จะเกิดเมื่อเรารู้ว่าเราคือใคร?
เราเกิดมาทำไม? และเราอยู่เพื่ออะไร ..?
..ฉนั้น สุขอยู่ที่เรา ไม่ต้องวิ่งหา ไม่ต้องไขว่คว้า
.... ชอบคำกล่าวที่ว่า ...
" ใครชื่น ใครชัง ชั่งเถอะ
ใครเชิด ใครแช่ง ชั่งเขา
ใครเบื่อ ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ..."
ผิดมั้ยกับการที่เรารอความสุขจากการรอคอย รอคอยคัยสักคนหยิบยื่นให้เรา แต่แล้วเค้าก้อไม่ยื่นให้เรา สุดท้ายก้อเปงเราเองที่เจ็บปวด และเสียใจ อยากให้ชีวิตมีความสุข แต่ตอนนี้ยังตัดเค้าออกไม่ได้ ไม่รุ้ว่าจะทำไงเหมือนกาน บางทีมันพูดง่ายแต่ทำยากค่ะ หลายๆ สิ่ง หลายๆอย่าง จิงอยุ่ที่ว่า ความสุขอยุ่ที่เราเลือก แต่พอถึงเวลาจิงๆ เราไม่สามารถทำได้จิงจิงค่ะ ณ ตอนนี้รุ้สึกเหนื่อยมาก เหนื่อยจนอยากจะพัก แต่ก้อทำไม่ได้ ในเมื่อยังมีหน้าทีการงาน ยังมีหลายๆอย่างที่ต้องรับผิดชอบ จะมีคัยเข้าใจเรามั้งมั้ยนะ หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเราบ้า ไม่ผิดหรอก แม้กระทั้งตัวเราเองก้อยังคิดว่าเราบ้า บ้าที่รักเค้าจนไม่นึกถึงอนาคตตัวเอง ฉันขอแค่ให้เค้าปรับตัว รอและให้โอกาส แต่โอกาสมันคงจะไม่มาถึงฉันหรอกจิงมั้ย
จากคนที่รักหมดใจ.....
ผมรู้สึกเบื่อ ไม่มีความสุข กับสิ่งที่ผมไม่ได้ตามที่ตั้งใจ ผิดหวังกับคนที่รอ เซง สุด
ไม่อยากอยู่แล้ว
สุขคือการไม่คาดหวัง เพราะว่าหากผิดหวัง ก็เกิดทุกข์
สุขกับทุกข์อยู่ห่างกันนิดเดียว