รายงานผลการพัฒนานวัตกรรม ผลการทดสอบประสิทธิภาพสื่ออิเล็กทรอนิกส์
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง อาหารหลัก 5 หมู่ สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนคงทองวิทยา อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต 1
งานวิจัยทางการศึกษาของ นางสุพัตรา ศรีพิพัฒน์
บทคัดย่อ
ในการทำวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยทำวิจัยโดยสร้างสื่ออิเล็กทรอนิกส์ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง อาหารหลัก 5 หมู่ ซึ่งเป็นเนื้อหาจากแผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงาน อาชีพและเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้พื้นฐาน (งานบ้าน) หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อาหารและโภชนาการ หน่วยย่อยที่ 1 การบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เรื่อง อาหารหลัก 5 หมู่ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 และทดสอบประสิทธิภาพของสื่อ ศึกษาผลการใช้สื่อในการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจและเจตคติของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนคงทองวิทยา อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต 1 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพสื่อให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ คือ E1 / E2 = 80 / 80 เพื่อศึกษาหาความก้าวหน้าทางพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนหลังการใช้สื่อ เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่ใช้สื่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนดังกล่าว ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนที่เรียนตามหลักสูตร การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 ของโรงเรียนคงทองวิทยา โดยแบ่งเป็นกลุ่มเก่ง ปานกลาง อ่อน เครื่องมือที่ใช้ได้ผลิตบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง อาหารหลัก 5 หมู่ นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ประเมิน และวิเคราะห์หาค่าดัชนีความสอดคล้องแต่ละรายการ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยรวบรวมจากแบบประเมิน แบบฝึกปฏิบัติกิจกรรมจากการทดลอง 3 ครั้ง คือการทดลองแบบเดี่ยว แบบกลุ่ม และแบบภาคสนาม โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียน ผลการทำแบบฝึกกิจกรรม แต่ละหน่วยเนื้อหา และเก็บข้อมูลจากแบบทดสอบหลังเรียน แบบประเมินความพึงพอใจ
ผลการวิจัยพบว่าการทดสอบประสิทธิภาพแบบเดี่ยวได้ค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ และเกณฑ์ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ E1 / E2 = 87.93/60.00 ซึ่ง E2 ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ จึงได้พัฒนาและปรับปรุงบทเรียนนี้จึงนำไปใช้ทดสอบประสิทธิภาพแบบกลุ่ม ได้ค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ และเกณฑ์ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ E1 / E2 = 89.66 / 86.67 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ทุกหน่วยเนื้อหาย่อย ถือว่าชุดการสอนชุดนี้สามารถนำไปใช้กับการทดลองภาคสนามได้โดยได้ค่าประสิทธิภาพของกระบวนการและเกณฑ์ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ E1 / E2 = 91.23 / 86.67 ซึ่งได้ค่าสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ทั้งด้านกระบวนการคือตัวกิจกรรมต่างๆ ที่อยู่ในสื่อ และด้านผลลัพธ์คือผลการเรียนรู้ของผู้เรียนจากการทดสอบทุกหน่วยเนื้อหา ได้ค่าประสิทธิภาพ สูงกว่าเกณฑ์ทุกหน่วยเนื้อหา ถือว่าสื่อนี้มีประสิทธิภาพควรนำไปใช้สอนได้ ส่วนการทดสอบประสิทธิผลหรือความก้าวหน้าทางการเรียนรู้ของผู้เรียนพบว่า คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนทุกหน่วยเนื้อหาที่ทดลอง ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นหลังจากใช้สื่อคิดเป็นร้อยละ 4.82 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 ความพึงพอใจของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างต่อบทเรียนในระดับดี มีคะแนนเฉลี่ย 4.11 และอยู่ในระดับมากทุกข้อ คืออยู่ในเกณฑ์ช่วง 3.51 – 4.50
ไม่มีความเห็น