การปฏิรูปการศึกษา


ปฏิรูปศึกษารอบใหม่เน้นแต่เรื่องคุณภาพ

แนะปฏิรูปศึกษารอบใหม่เน้นแต่เรื่องคุณภาพ 

จากการเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ เรื่อง ใส่ปุ๋ย เสริมแรง สร้างความเข้มแข็งการปฏิรูปการศึกษาเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ กรรมการบริหารสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวว่า 9 ปีของการปฏิรูปการศึกษาเราควรได้เห็นดอกผล และได้เก็บเกี่ยวผลผลิตจากการปฏิรูปการศึกษา แต่ตนไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีขึ้น แม้ผลประเมินภายนอกของ สมศ.จะออกมาว่าดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่แนวโน้มปัญหาเด็กเยาวชนยังสูงขึ้น เช่นปี 2547 เด็กก่อความรุนแรงที่เป็นคดีความประมาณ 3,000 คดี แต่ปี 2550 เพิ่มเป็น 50,000 คดี และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ แสดงให้เห็นว่าเป้าหมายการปฏิรูปการศึกษาที่เนื้อแท้คือการสร้างคนยังขาดไป หรือโรงเรียนยังไม่ได้สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กได้เลย ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าการปฏิรูปการศึกษาที่ผ่านมาเห็นผลชัดเจนทำให้เกิดวัฒนธรรมคุณภาพในวงการศึกษา แต่ก็ยังมีปัญหาอุปสรรค ซึ่งต้องแก้ไขกันไปหรือถ้ามีอะไรที่ทำไปแล้วเกิดปัญหาก็ต้องทบทวน แต่ถ้าจะมีการปฏิรูปการศึกษารอบ 2 ตนเห็นว่าไม่ควรเป็นการรื้อระบบครั้งใหญ่เหมือนที่ผ่านมา เพราะการปฏิรูปทำให้หลายคนเจ็บตัว แต่ควรเป็นการผ่าตัดเล็ก ๆ เติมแต่งสิ่งที่ขาด และเน้นการมีส่วนร่วมให้มากขึ้น รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาที่ผ่านมาหมดไปกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารของศธ. และกฎหมายต่าง ๆ ส่วนเรื่องของคุณภาพแทบไม่เห็น จนทำให้รู้สึกว่าเราใส่ปุ๋ยผิดที่หรือไม่ และเสริมแรงในทางที่ผิด ดังนั้นถ้าคิดจะปฏิรูปการศึกษาอีก 10 ปี จะต้องดูเรื่องของคุณภาพทั้งหมดว่าจะทำอย่างไร และที่สำคัญต้องดึงชุมชนเข้ามาร่วมด้วย และทำให้ ศธ.มีขนาดเล็กลง โดยแบ่งสัดส่วนให้ศธ.ดูแลการศึกษา 40% เอกชนดูแล 25% ท้องถิ่นดูแล 25% ส่วนที่เหลือเป็นการศึกษาทางเลือก ด้าน ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤกษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิในสภาการศึกษา กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกคนในวงการศึกษาไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ทำไปนั้นถูกต้อง หรือไม่ ครูไม่กล้าทดลองทำอะไรเพราะกลัวผิด ทั้งนี้สิ่งสำคัญของการปฏิรูปการศึกษาต้องดูว่าการศึกษาจะทำให้เกิดประโยชน์อะไรแก่ชีวิตได้บ้าง.

 
ที่มา: เดลินิวส์

 

หมายเลขบันทึก: 208080เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2008 12:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

การปฏิรูปการศึกษาที่ว่ามาของผู้รู้ทั้งหลายนั้นน่าจะถูกแล้ว แต่อยากเพิ่มอีกว่าการประเมินสิ่งต่างๆ ทางการศึกษานั้นควรดูจากของจริงผลที่เกิดจริง ไม่ใช่ประเมินจากเอกสารเท่านั้น เช่นประเมินนักเรียนก็ต้องดูที่ตัวนักเรียนจริงๆ ไม่ใช่ประเิมินจากรายงานของผู้บริหารหรือผู้สอนเท่านั้น ประเมินงานอาจารย์ก็ต้องดูอาจารย์จริงๆ ตัวเป็นๆ ไม่ใช่ประเมินเอกสารที่อาจารย์ส่งมาเท่านั้น ที่ผ่านมาการประเมินทั้งหลายดูแต่เอกสาร จึงไม่ใช่ของจริงมีแต่ข้อมูลหลอกๆ ทั้งนั้น อ่านแล้วคงเคลิ้มคิดว่าประเทศไทยไปไกลมากแล้ว แต่ที่จริงถอยหลังเกือบลงคลองแล้ว ขอบอกเท่านี้แหละ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท