มาเลเซียตกลงรับซื้อข้าวไทย 200,000 ตัน และรัฐบาลยังเปิดรับซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรง โดยซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ 19,000 - 20,000 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า 14,000 บาทและข้าวเปลือกเหนียว 9,000 บาท (ไทยรัฐ วันพุธที่ 14 พฤษภาคม 2551 หน้า 8) ข้าวดีๆ เช่นนี้ช่วยทำให้ชาวหัวใจพองโตขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ต้องตุ้ม ๆ ต่อม ๆ อยู่ระยะหนึ่งในช่วงที่พ่อค้าข้าวเล่นกลจนราคาข้าวตกลงมาเหลือแปดเก้าพัน ทั้งที่ราคาในตลาดโลกยังคงสูงอยู่เช่นดิม
การดูแลให้ผลผลิตของรวงข้าวในแปลงนานับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อลดการสูญเสียจากการทำลายของเชื้อรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะต้นฝนนี้ ความชื้นสัมพัทธ์ในชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้นจนสปอร์ของเชื้อรามีน้ำหนักเพิ่มขึ้นและตกลงในแปลงนา ก็จะสร้างปัญหาเกิดการระบาดของเชื้อราในแปลงนา ทำให้เกิดอาการใบไหม้ ใบเหลือง ใบด่างและเปื่อยผุ การเจริญเติบโตลดน้อยถอยลง ส่งผลให้ผลผลิตที่จะได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ต้องพลอยมลายสูญหายลดน้อยถอยลงไปด้วย
ในระยะฝนตกความชื้นสูง ปัญหาในเรื่องเชื้อราก็จะเข้ามารบกวนเกษตรกรเป็นเรื่องปรกติ ดังนั้นจึงควรใช้ ฟังก์กัสเคลียร์ในอัตรา 2 กรัมร่วมกับ แซนโธไนท์ 2 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตรทำการฉีดพ่นทุกครั้งหลังฝนตก หรือ ทุก ๆ 7 วัน โดยสลับกับเชื้อบีเอสพลายแก้ว 5 กรัมหมักกับน้ำมะพร้าวอ่อน 1 ผลหรือ นมยูเอชที 1 กล่อง หมักทิ้งไว้ 24 – 48 ชั่วโมง แล้วนำมาผสมกับน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก ๆ 7 วันเหมือนกัน จะช่วยรักษา ใบและรวงข้าวให้เขียวสดงดงามไม่เป็นโรคและยังรักษาผลผลิตของข้าวมิให้สูญเสียไปอย่างมิสมควร
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
ไม่มีความเห็น