กราบเท้าอาลัยลา ส่งแม่สถิตฟ้าชั่วนิรันดร์ ๒


แม่เป็นผู้ ประเสริฐแท้ ลูกประจักษ์

     

กราบเท้าอาลัยลา ส่งแม่สถิตฟ้าชั่วนิรันดร์ (๒)

      ๓๕ จากลพบุรี  สร้างถิ่นฐาน นนทบุรี             ไม่กี่ปี ทุกอย่าง เปล่งคุณค่า            

     ลูกทุกคน สำเร็จ ประจักษ์ตา                        แม่ก็ล่วง วัยชรา มาตามวัย  

     ๓๖ กายที่เหนื่อย แสนหนัก มิพักผ่อน            จะหนาวร้อน ดูแล รักษาให้

     ทำทุกอย่าง เพื่อลูก อยู่ปลอดภัย                   จะหาใคร เทียบแม่ นั้นไม่มี  

     ๓๗ แม่เป็นผู้ ประเสริฐแท้ ลูกประจักษ์            เฝ้าฟูมฟัก เพื่อกระทำ ย้ำหน้าที่

     เติมความรัก เต็มอยู่ เพื่อลูกดี                       ไม่เคยมี สักวัน นั้นผ่อนคลาย 

    ๓๘ ฝีมือทำ อาหาร ทั้งหวานคาว                   รสมือข้าว หอมอยู่ มิรู้หาย

    อร่อยล้ำ ลิ้มลิ้น มิรู้วาย                                 แม่เตรียมครัว เช้าบ่าย ยังติดตา  

    ๓๙ อาหารวาง พร้อมโต๊ะ อยู่ทุกเช้า                ปิ่นโตเอา วางเรียง มิต้องหา

    เตรียมเพื่อลูก ปลูกรัก และศรัทธา                   ข้าวกลางวัน จึงมีค่า ยิ่งสิ่งใด  

     ๔๐ อีกเสื้อผ้า ค่าขนม เตรียมไว้หมด              ลูกไม่อด เพื่อเพียร เรียนดีได้

    แม่ลำบาก ยากแท้ มิท้อใจ                             แม้ยากจน ก็ไม่ ใครนินทา  

   ๔๑ ยามลูกกลับ ถึงบ้าน อาหารพร้อม                ทุกคนล้อม วงกิน อยู่ครบหน้า

   พ่อแม่ลูก อบอุ่น อยู่ทุกครา                             เป็นคุณค่า แท้จริง ของบ้านเรา  

     ๔๒  แม้มิร่ำ มิรวย ก็มีสุข                               ถึงขัดสน จนทุกข์  แม่ปัดเป่า

    คำปลอบขวัญ แม้จน อดทนเอา                       ไม่นานเนา ลูกถึงฝั่ง ยังสบาย  

    ๔๓ จงตั้งหน้า ตั้งตาเรียน เพียรให้มาก             ไปภายหน้า ไม่ลำบาก ถึงที่หมาย

    พ่อแม่นี้  มีสมบัติ  ชิ้นสุดท้าย                         เมื่อล้มตาย การศึกษา นำพาพ้น  

    ๔๔ เมื่อเป็นพี่ ก็อำนวย ช่วยเหลือน้อง              คอยปกป้อง สนับสนุน ค้ำจุนผล

    เป็นน้องต้อง รักเคารพ นบกมล                        ลูกทุกคน ยังจำได้ ตลอดมา             

    ๔๕ แม่กัดฟัน ทำงาน สารพัด                         แม้อึดอัด อดบ้าง ก็เยี่ยงผา

   ต้องยืนหยัด สู้แรงลม กระหน่ำมา                      แต่แขนขา มั่นคง เพื่อครอบครัว  

   ๔๖ ยามแม่ทำ ขนมกิน แสนสนุก                      แม่ก็ขลุก ลูกก็ช่วย  กันถ้วนทั่ว

  ทั้งแปดคน พ่อแม่ลูก ผูกพันพัว                         หัวเราะยั่ว หยอกล้อ  หัวร่อกัน 

   ๔๗ แม่เป็นคน ยิ้มสวย เปี่ยมเมตตา                  มีศรัทธา พุทธศาสน์ คอยยึดมั่น

  ส่งเสริมลูก ปลูกธรรมะ สารพัน                          แม่คอยหมั่น สอนสั่ง จำฝังใจ 

  ๔๘ แม่สอนให้ กตัญญู รู้คุณญาติ                     รู้คุณศาสน์ ชาติ กษัตริย์ นั้นยิ่งใหญ่

 อันพ่อแม่ คือพระ อยู่ในใจ                                อย่าล่วงเกิน วาจาใด ให้กระเทือน  

  ๔๙ อย่ากระทำ ให้ท่าน น้ำตาตก                     ดั่งนิทาน สาธก  มิให้เหมือน

  ทรพี  มาตุฆาต  สามารถเตือน                         สติลูก ทุกครัวเรือน จงอย่าทำ  

  ๕๐ ความเพียบพร้อม ของแม่ เป็นเยี่ยงอย่าง        เหมือนนำทาง เดินถูก ทุกเช้าค่ำ

  ลูกของแม่ จึงดำเนิน ตามแนวธรรม                    เพราะถ้อยคำ ส่งผล เป็นคนดี                         

   ๕๑ ลูกทุกคน พึงทราบ จงกราบแม่                    ความรักแท้ เต็มอยู่ รู้หน้าที่

  กตัญญู รู้จัก กตเวที                                        บุญลูกนี้ โดยแท้ แม่คุ้มครอง 

  ๕๒ โลกจะสุข อยู่ได้ ใครกันสร้าง                      แม่ปูทาง ทำไว้  ไม่บกพร่อง

  ทั้งดูแล อบรม บ่มครรลอง                                ลูกทั้งผอง จงเทิดหนุน คุณมารดร  

     ๕๓ มาบัดนี้   มีแต่ จะแลลับ                         ดั่งดาวดับ  เดือนหลบ เหลี่ยมสิงขร

    ไร้แสงสาด สว่างสิ้น  ทินกร                           อาลัยวรณ์ วิเวกทั้ง  ธรณินทร์   

    ๕๔ แต่ต่อนี้ จะไม่มี รอยยิ้มแม่                       ทอดตาแล ว่างเปล่า ไปทั้งสิ้น

   เคยหยอกล้อ ปลอบหลาน  มิได้ยิน                   จะผันผิน ทางใด ไร้วี่แวว  

    ๕๕ เคยเป็นหลัก พักพิง ยามทุกข์ท้อ                แม่มิรอ แก้ไข ให้ทางแผ้ว

    มาบัดนี้ เงียบงัน ทุกที่แล้ว                              แม่ขวัญแก้ว มิ่งเกศ ประจำใจ              

    ๕๖ จักขอนบ น้อมนำ อำนาจพระ                      ด้วยศรัทธา ปสาทะ ที่ยิ่งใหญ่

    ยกคำสอน พระศาสดา เป็นธงชัย                       น้อมนำให้  สุคติ  ในเบื้องภพ 

      ๕๗ อันพลัดพราก จากรัก ย่อมเป็นทุกข์             ใจมิสุข อาลัย ไม่รู้จบ

     จักครวญคร่ำ เพียงใด ไม่อาจพบ                     จักคืนครบ ชีวิต ก็ผิดทาง 

 ...................................................มีต่อ / ทั้งหมดมี ๘๑ บท

 ขออาลัยแด่ คุณแม่สมศรี  เพชรรุ่ง  (อายุ ๘๑ ปี)  ที่จากไป

 

กำหนดสวดพระอภิธรรมศพ   วันที่ ๖ - ๑๐ กันยายน ๒๕๕๑  เวลา ๑๘.๓๐ - ๑๙.๐๐ น.

 ณ ศาลา ๔  วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน  กทม.

 

พระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ    วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๑   เวลา  ๑๖.๐๐ น.

ณ เมรุวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร  บางเขน กทม.   

 

 

 

 

    

 

 

หมายเลขบันทึก: 206122เขียนเมื่อ 5 กันยายน 2008 18:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2012 07:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อ่านตอนนี้แล้วคิดถึงฝีมือทำกับข้าวของแม่จังค่ะ

แม่หนูฝีมือทำกับข้าวอร่อยสุดๆ

กลับบ้านทีไรแม่ต้องเตรียมกับข้าวไว้มากมายเพื่อให้ลูกสาวได้ทาน

อาจารย์ถามว่าเรารู้จักแม่ของเราดีพอแล้วหรือยัง

ใครหลายคนอาจคิดว่ารู้จักดีแต่ถ้าให้มองลึกๆแล้วเราอาจจะรู้จักแม่ไม่มากเท่า ที่แม่รู้จักตัวเรา แต่ถ้าให้เลือกอยู่ระหว่างที่บ้าน กับอยู่หอพัก หนูขอเลือกอยู่บ้านมากกว่า เพราะหนูอยู่บ้านแล้วสบายใจ หัวเราะกันทั้งวันเพราะพ่อของหนูเป็นคนตลก กลับบ้านเสาร์ อาทิตย์ทีไรมีความสุขทุกที

แต่ก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเพื่อนบางคนไม่อยากอยู่บ้านกับพ่อกับแม่ทั้งที่ที่นั่นคือความอบอุ่นควาสุขที่แท้จริง

อาจารย์คะถ้าหนูพูดไร้สาระไปบ้างก็ขออภัยด้วยนะคะอาจารย์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท