ตีความคิดด้วยคมแฝก...กินแกงบูด...ทำไม?


ให้เห็นกิเลส...ในตัวเอง

           คมแฝกเป็นไม้ที่มีเหลี่ยมคม เป็นอาวุธอย่างหนึ่งที่ใช้ต่อสู้กัน สำหรับผึ้งงานแล้ววันนี้ได้ใช้คมแฝกตีความคิด...ให้เห็นกิเลสในตัวเองที่มันหลบซ่อนอยู่ในใจ ถูกมันล่อให้น้อยอกน้อยใจกับเหตุการณ์ในวันนี้

          เรื่องนี้ที่จริงก็ไม่มีอะไรมากเพียงแต่ถูกกิเลสในใจมันหลอกให้น้อยใจเรื่องที่กลุ่มงานได้จัดให้มีการอบรมขึ้นที่ฝ่ายและก็ถูกลืมในการประชุมอบรมซึ่งเป็นคนเดียวจริงๆที่ถูกลืมทั้งๆที่หัวหน้าได้สมัครให้แล้วและผึ้งงานมีความตั้งใจมากในการที่จะรวบรวมองค์ความรู้ในครั้งนี้ด้วย แต่ถูกลืมคนเดียว คนอื่นทั้ง 70คนมีชื่อครบ กิเลสใช้เหตุผลหลอกว่า เขาไม่เห็นความสำคัญของเราเลย ซึ่งเริ่มประชุม 11.30-15.00 น. จะไปเซ็นชื่อรับข้าวเพื่อเข้าร่วมประชุมบอกเพื่อนไปก่อนจะตามไปที่หลัง ขอเคลียร์งานจนเที่ยง(ประชุมเริ่มจริงเที่ยงครึ่ง)แล้วจึงไปเซ็นชื่อ เอ้า..! ..ไม่มีชื่อหรอกหรือ ? จึงบอกว่าไม่เป็นไร ก็เลยไปกินข้าวคนเดียวที่โรงอาหาร ขณะเดินไปกินข้าวแล้วก็คิดว่าเราไม่เข้าอบรมดีไหม? ก็ไม่มีชื่อเรานี่...แต่ทุกคนก็เข้ากันหมด จะประท้วงว่างั้นเถอะ..ดูเถิดกิเลสนำพาให้คิดเป็นอย่างนี้

          แต่สติมาทัน...ท้วงให้คิดใหม่ว่า....เห็นไหม? ว่ามันเป็นสิ่งที่ดีจะได้เตือนใจตัวเองให้ไม่เหลิงว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ ต้องเข้าอบรมนะ...บอกตัวเองว่าเรามาอบรมเพื่อต้องการให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่หรือ? ..ก็เลยเข้าอบรม เมื่อถึงเวลาเบรก เราจึงไม่ไม่รับอาหารเบรกเนื่องจากไม่มีชื่อก็เลยเข้าห้องทำงานเลย เพื่อนตามมาบอกว่าทำไม?ไม่เอาอาหารเบรก เราก็เลยบอกว่าไม่มีชื่ออบรม เพื่อนไม่เชื่อว่าไม่มีชื่อจึงวิ่งไปดูรายชื่อและก็เลยมีคนมาขอโทษที่ลืมใส่ชื่อ

          เหตุการณ์ผ่านไปแล้ว สติบอกจบ..ปากพูดบอกเพื่อนๆว่าไม่เป็นไรๆ พอพูดหลายๆครั้งเข้ารู้สึกว่าทำไมยิ่งตอกย้ำให้เกิดความน้อยใจ ทำให้นึกถึงคำพูดของอาจารย์อมรา มลิลา ที่ว่าคนเราชอบกินแกงบูดมักนำมาอุ่นกินครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งๆที่รู้ว่าแกงมันบูด ท่านเปรียบว่าอารมณ์ที่เราไม่ชอบ ไม่พอใจหรือโกรธนั้นทำให้เกิดความคิดด้านลบกับเจ้าของ เปรียบเช่นกับแกงบูด ซึ่งเมื่อเรื่องเกิดขึ้นและจบลงไปแล้ว....กลับนำมาคิดใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า?.... ทำให้ตัวเองเกิดความเสียใจอีก

          เมื่อกิเลสมันชวนให้น้อยใจ ทำให้ผึ้งงานกลายเป็นคนใจแคบ เมื่อเพื่อนมาขอโทษทีลืมใส่ชื่อ ปากก็บอกว่าไม่เป็นไรๆแต่ใจผึ้งงาน(มันหลงอยู่)กลับไม่หายน้อยใจ ให้อภัยเพื่อน  จนเมื่อสติมาทันเปรียบเหมือนโดนคมแฝกตีเข้าที่ความคิด...ทำให้เห็นว่าใจเราเอง...แอบเอาแกงบูดมาอุ่นกินหลายครั้งแล้วเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา การประมาทความคิดที่ว่าเราใจดี ใจเย็น..มั่นคงทางจิตใจแต่ในวันที่อ่อนล้า...ก็ถูกกิเลสหลอกหน่อยเดียวก็ตามความคิดนั้นไปเลย เมื่อเลิกกินแกงบูด...จึงมีบทความชื่อ คลื่นความรู้กำลังพัดแรง...ที่กลุ่มงานพยาธิวิทยา ตามที่ตั้งใจไว้ของกลุ่มงานเกิดขึ้น.

          ดีใจนะ....ทีแกงบูดถ้วยนี้ของอาจารย์ อมรา มลิลา มาช่วยเตือนสติได้ทัน ทำให้มองเห็นความจริงที่ไม่ควรเอามาเป็นแก่นสาร แล้วท่านล่ะ?...เคยอุ่นแกงบูดกิน...บ้างหรือเปล่า?....  
                                  
                                                    

หมายเลขบันทึก: 205825เขียนเมื่อ 5 กันยายน 2008 00:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 09:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท