ด้วยมือพ่อต่อเติมปรารนา
ตัดก้านกล้วยทำม้าให้ข้าขี่
ทั้งปืนกลก้านกล้วยก็สวยดี
เหมาะมือที่จะสู้รบกับไพริน
เสียงคำสอนพ่อสั่งก็ยังแว่ว
ลูกผู้ชายไม่แคล้วต้องจากถิ่น
สู่โลกกว้างทางไกลในแผ่นดิน
เสาะและสู้อย่ารู้สิ้นซึ่งแรงใจ
ม้าก้านกล้วยโจนทะยานจากบ้านทุ่ง
พาข้ามุ่งสู่พนาพฤกษาไสว
ด้นดงหนามระกำเกี่ยวลัดเลี้ยวไป
ข้ามบึงหนองคลองใส ไต่พนม
มุ่งสู่เส้นขอบฟ้าหาความฝัน
ล่วงร้อยวันพันคืนที่ขื่นขม
เคยรากไม้ต่างหมอนนอนระทม
เคยฟ้าห่มต่างผวยด้วยระกำ
ยังแต่ม้าเพื่อนยากในยามเปลี่ยว
เป็นเครื่องเหนี่ยวหัวใจไมถ่ลำ
จนลุเมืองแห่งอารยธรรม
หนึ่งวิมานในม่านดำแห่งหมอกควัน
ข้าควบม้ามานานก็เหนื่อยนัก
จึงแวะพักเพื่อหาผู้ร่วมฝัน
หยุดเจ้าม้าก้านกล้วยอยู่ด้วยกัน
ตึกเมืองต่างพนาวันพนมเชิง
มีโคมไฟต่างดาวดารดาษ
มีเถาวัลย์พันพาดดูยุ่งเหยิง
มีหริ่งหรีดเรไรใจกระเจิง
ด้วยเสียงเมืองบันเทิงบรรเทาทุกข์
นานแสนนานกับการแสวงหา
เห็นแต่ม้าเพื่อนใจยิ่งไร้สุข
ยิ่งอ่อนแอแพ้ยักษ์ทุรยุค
ยิ่งไพรีก็รบรุกอยู่รอบกาย
ม้าและปืนของพ่อที่ต่อสู้
คงจะเฉาก่อนจะรู้ซึ้งความหมาย
เช็ดน้ำตาที่ขอบตา-ลูกผู้ชาย
หรือจะถึงคราวพ่ายต้องอายคน
เคยมือพ่อต่อฝันให้ฟันฝ่า
เคยฝันข้าเติมเข้มให้เต็มข้น
เคยทะนงควบม้ากล้าประจญ
มาถูกกักด้วยจักรกลกลางนคร
เจ็บอนาถบาดแผลก็เกลื่อนอก
ฝันจะหนีดงรกของเมืองหลอน
อยากควบม้าคืนทุ่งทะยานจร
ไปกราบพ่อขอพรอีกสักครั้ง.
บทกลอนได้ใจ
ใช้คำสละสลวย
สุดท้ายก็คิดถึงบุพการี
เหอะ ๆพี่เขี้ยว ครางหน้าคงมีโอกาสได้ไปด้วยกันคราบ
ดีครับ ครูพุก คิดถึงพ่อกับแม่ดีที่สุดครับ พูดแล้วคิดถึงบ้าน
โอกาสหน้าท่ามีอีกก็อยากไปครับ เห็นรูปแล้วอิจฉามากเลย
สวัสดีครับคุณครู ขอบคุณที่แวะมาทักน่ะครับ
ส่งสัยได้ไปเที่ยวภาคใต้ก็ครวนี้แหละ
ขอบคุณคร๊าบ
บทกลอนจาก ม้าก้านกล้วย เพราะจังเลยครับ ผมช๊อบชอบ หนังสือเล่มนี้