ความต้องการบริโภคข้าวของตลาดต่างประเทศเกือบทั่วโลกในปีนี้ (03 มีนาคม พ.ศ.2551) มีความต้องการค่อนข้างสูงมาก และยังสูงกว่าปริมาณการผลิตของพื้นที่อยู่หลายเท่าตัว เพราะประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับสี่ของโลกรองจากสหรัฐ, เวียนาม และไทย ได้มีความเข้มงวดในเรื่องการส่งออกข้าวมาตั้งแต่กลางปี 2550 โดยปรกติแล้วอินเดียจะมีการส่งออกข้าวนึ่งเดือนละประมาณ 200,000 ตัน แต่ในปัจจุบันปรากฏว่ายังไม่มีการส่งออกใด ๆ ทำให้ปริมาณข้าวที่จะนำออกมาจำหน่ายในตลาดโลกส่วนหนึ่งหายไป ส่งผลให้ราคาข้าวเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการที่มีมากนั่นเอง จึงส่งผลให้สองยักษ์ใหญ่ในเรื่องการส่งออกข้าวอย่างไทยและเวียดนามออกมาส่งสัญญาณให้แก่กลุ่มผู้ซื้อได้ทราบว่าอย่างไรเสียในปีนี้น่าจะต้องซื้อข้าวในราคาที่สูงกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน เพราะปริมาณข้าวมีไม่เพียงพอแก่ความต้องการของตลาด
ชาวนาควรวางแผนและขยายการผลิตข้าวเพิ่มมากขึ้น ในช่วงที่กระแสความต้องการข้าวของตลาดโลกยังร้อนแรง เพราะจะช่วยให้ชาวนาสามารถที่จะมีกำไรมากเพียงพอต่อการนำไปใช้จ่ายและมีเหลือไว้ชำระหนี้สิน จากนายทุนที่ปล่อยกู้ หรือ ธกส. ควรดูแลและวางแผนลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าไม่พัฒนาการผลิตยังคงใช้รูปแบบและวิธีเก่า ๆ อยู่ คือใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง และเผาฟาง ก็จะทำให้ต้นทุนนั้นเพิ่มสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น
ปัจจุบันชมรมเกษตรปลอดสารพิษ มีเทคนิคและวิธีการผลิตข้าวปลอดสารพิษต้นทุนต่ำ โดยให้เกษตรกรตรวจดูดินในแปลงนาให้มีความเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของข้าว ปรับพื้นที่แปลงนาให้เรียบเสมอกันทั้งแปลง หยุดการเผาฟาง เพื่อนำเศษซากของฟางเหล่านั้นกลับมาเป็นปุ๋ยในแปลงนาเหมือนเดิม ลดต้นทุนในการใส่ปุ๋ยเคมีให้เหลือเพียงไร่ละประมาณ 10 - 20 กิโลกรัมต่อไร่ต่อหนึ่งครอปการผลิต โดยที่ให้ใช้ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 เพียงอย่างเดียวเท่านั้น มิต้องใช้ปุ๋ยสูตรใด ๆ ทั้งสิ้น ใช้หินแร่ภูเขาไฟ ภูไมท์ซัลเฟต ถุงสีเหลืองไร่ละ 20 กิโลกรัมหว่านตอนทำเทือก เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ต้นข้าวระยะเล็ก ใช้สารสกัดสมุนไพรเช่น ไพเรี่ยม (กระเทียม, พริกไท) และ คามิน (ขมิ้นชัน, เปลือกมังคุด) ทำหน้าที่ในการสร้างภูมิคุ้มกันหรือวัคซีนให้แก่ต้นข้าวเพื่อป้องกันโรค แมลง และเพลี้ยไฟไรแดง ใช้จุลินทรีย์ในการปราบหนอนและเชื้อราในราคาต้นทุนไม่เกินปิ๊ปละ 5 บาท เทคนิคและวิธีการทั้งหมดจะไม่มีการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมใด ๆ ทั้งสิ้น ที่สำคัญวิธีการก็ไม่ยุ่งยากและต้นทุนก็จะต่ำกว่าการทำนาในรูปแบบเดิมถึง 50 – 60 เปอร์เซ็นต์ เกษตรกรท่านใดสนใจจะผลิตข้าวปลอดสารพิษต้นทุนต่ำ หรือต้องการเอกสารแจกฟรีได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ โทร. 0-2986-1680-2
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
ไม่มีความเห็น