สวัสดีค่ะอาจารย์ยุวนุชคุณนายดอกเตอร์
ดีใจที่มาเยี่ยม ไม่ได้คุยกันนานเลยค่ะ ขอบคุณ ดอกข่าสวยมากๆค่ะ
ที่อาจารย์บอกว่า น้ำส้มควันไม้ก็นำมาผสมน้ำไล่แมลงได้ดีเหมือนกันนะคะ ก็คงใช้แบบนี้ ใช่ไหมคะ
น้ำวู้ดเวเนก้าร์ (น้ำส้มควันไม้)
ใช้ฉีดพ่นใบหรือรอบบริเวณโคนต้น
ประโยชน์/อัตราการใช้
1. กระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช อัตรา 1 ต่อ 500-1,000 เท่า
2. ช่วยเร่งการหมัก อัตรา 1 ต่อ 100 เท่า
3. ลดกลิ่นเหม็น อัตรา 1 ต่อ 50 เท่า
4. ขับไล่แมลง อัตรา 1 ต่อ 100 เท่า
5. บำรุงผิวดิน อัตรา 1 ต่อ 30 เท่า
6. ใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับเลี้ยงสัตว์ อัตรา 1 ต่อ 200 – 300 เท่า
7. ใช้ขับไล่แมลง อัตรา 1 ต่อ 100 เท่า
เป็นผลพลอยได้ จากการเผาถ่าน เลยได้ผลิตภัณฑ์น้ำส้มควันไม้ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรมหรือเกษตรกรรม ได้อย่างกว้างขวางและมีผลลัพธ์ที่ดี
เป็นของเหลวสีน้ำตาลใสมีกลิ่นควันไฟ ชิมดูจะมีรสเปรี้ยวเนื่องจากกภาพความเป็นกรดโดยของเหลวนี้จะผลิตได้จากการควบแน่นควันไฟที่เกิดขึ้น ในขณะที่ฟืนไม้กำลังเปลี่ยนเป็นถ่านในเตาเผา(ขั้นตอนที่เรียกว่าCarbonization) ที่อุณหภูมิระหว่าง 300?C-400?C ในสภาวะอุณหภูมิดังกล่าวสารประกอบต่างๆในไม้ฟืนจะถูกความร้อนสลายตัวทำให้เกิดเป็นสารประกอบใหม่อันเป็นประโยชน์ในหลายๆด้านไม่ว่า จะเป็นการปลูกพืช การเลี้ยงปลา เลี้ยงสัตว์ หรือการนำไปใช้งานในโรงงานอุสาหกรรมอื่น
ยิ่งขณะนี้ มีข่าวใหญ่ ที่เกี่ยวกับเรื่องอาหารนม ว่า บริษัท ซานลู่ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจผลิตภัณฑ์ประเภทนมรายใหญ่ของจีน ตกเป็นจำเลยในกรณีอื้อฉาวว่ามี เด็กป่วยเพราะดื่มนมของบริษัทมาตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว 2550 และบริษัทได้สั่งให้มีการตรวจสอบและทดสอบเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
และพบว่า มีการเติมสารเมลามีนเข้าไปในนมจริง แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตหรือป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา จนกระทั่งเรื่องมาแดงอีกครั้งเมื่อต้นเดือนนี้เที่เด็กทารกในจีนเสียชีวิต และล้มป่วยลงในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
นอกจากนมผงสูตรเลี้ยงเด็กทารกแล้ว ผลิตภัณฑ์นมและโยเกิร์ตของบริษัทนมชั้นนำของจีนอย่าง ไชน่า เหมิงหนิว แดรี่, บริษัท อินเนอร์ มองโกเลีย หยีลี่ อินดัสเทรียล กรุ๊ป และไบรท์ แดรี่ แอนด์ ฟูด ก็พบว่า มีสารเมลามีนปลอมปนเช่นกัน
นานาประเทศสั่งห้ามนำเข้าและขายผลิตภัณฑ์นมจากจีน
ข่าวที่เกิดขึ้นทำให้ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ รวมทั้งประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ต่างผวากับผลิตภัณฑ์นมจากจีน พร้อมออกมาตรการ เพื่อปกป้องประชาชนจากการบริโภคอาหารปลอมปนสารเคมี
โดยสั่งห้ามนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ที่มีนมจากจีนเป็นส่วนประกอบแล้ว และยังได้ตรวจสอบสารประกอบในผลิตภัณฑ์ประเภทนมที่นำเข้าจากจีนอย่างเข้มงวดด้วย
สิงคโปร์ได้สั่งห้ามจำหน่ายนมและผลิตภัณฑ์นมทั้งหมดจากจีนตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2551 เป็นต้นมา ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ถูกสั่งห้าม ไม่ได้ครอบคลุมเฉพาะนม ไอศครีม และโยเกิร์ตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลูกกวาดและขนมหวานอื่นๆ เช่น ช็อคโกแลต บิสกิต และขนมหวานที่ผลิตในจีนอีกด้วย นอกจากนี้ ทางการยังได้เตือนผู้บริโภคไม่ให้รับประทานนมและผลิตภัณฑ์นมจากจีน
เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ( อย. )ของไ ทย
ก็ได้สั่งการให้ด่าน อย.ตามจังหวัดชายแดน ระงับการนำเข้าลูกอม ตรากระต่ายขาวจากประเทศจีน และแนะให้ประชาชนงดรับประทานลูกอมชนิดดังกล่าวไว้ก่อน จนกว่าผลการตรวจสอบจะออกมาอย่างเป็นทางการโดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน
จีนเร่งแก้ปัญหา หวั่นกระทบอุตสาหกรรมนมของประเทศ
การตรวจพบสารเมลามีนในนมผงยี่ห้อซานลู่และอื่นๆ ส่งผลให้สำนักงานควบคุมคุณภาพและตรวจสอบกักกันโรค (AQSIQ) ตัดสินใจขยายผลด้วยการตรวจหาสารปนเปื้อนในนมผงยี่ห้ออื่น ซึ่งผลปรากฏว่าพบสารปลอมปนในนมผง 69 ยี่ห้อจาก 22 บริษัท จากการสุ่มตรวจทั้งหมด 491 ยี่ห้อจาก 109 บริษัท และได้สั่งให้ทำลายนมผงที่มีการปลอมปนในทันที
จนถึงตอนนี้มีผู้ต้องสงสัยรวม 18 รายที่ถูกจับกุมตัว โดย 6 รายถูกตั้งข้อหาว่าขายสารเมลามีน ส่วนอีก 12 รายเป็นพ่อค้านายหน้าที่ต้องสงสัยว่าขายนมปลอมปนให้ซานลู่
ทางด้านกระทรวงเกษตรจีนเตรียมยกเครื่องอุตสาหกรรมนมในประเทศ โดยกำหนดให้ผู้รีดนมวัวทั่วประเทศต้องลงทะเบียนกับทางกระทรวงเกษตร นอกจากนั้นการตรวจสอบนมสดยังต้องมีความเข้มงวดกว่าเดิม
ซึ่งมาตรการดังกล่าวถือเป็นความพยายามล่าสุดในการลดข้อครหาที่ว่ารัฐบาลจีนไม่สามารถทำให้ทั่วโลกเชื่อมั่นว่าอาหารจากจีนมีความปลอดภัยได้
นอกจากนั้นกระทรวงพาณิชย์ยังสั่งการให้รัฐบาลท้องถิ่นเพิ่มการควบคุมและตรวจสอบผลิตภัณฑ์นมสดและสินค้าผู้บริโภคสำหรับการส่งออก เนื่องจากหลายประเทศเริ่มนำอาหารที่ผลิตในจีนลงจากชั้นวางเพราะกลัวว่าอาจมีการปนเปื้อนหรือปลอมปน
ทุกวิกฤติ ย่อมมีโอกาส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ฉวยจังหวะนี้ ออกมาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้นมแม่แก่ลูก
ในแถบเอเซีย แม่ให้นมแม่น้อยลง สังเกตจาก ยอดขายปลีกนมผงสูตรสำหรับทารก เพิ่มมากขึ้น 19 % โดยเฉพาะจีน ยอดขายเพิ่ม พุ่งถึง 29% องค์การอนามัยโลกห่วงเหตุนมเปื้อนมาก และชี้ว่า นมแม่ดีที่สุดจริงๆ
แม้ว่าบริษัทนมของจีนจะได้ออกมาขอโทษขอโพยประชาชนและเรียกคืนสินค้า แต่คงอีกนานกว่าที่นานาประเทศจะกลับมาไว้วางใจผลิตภัณฑ์ประเภทนมจากจีน
คงอีกนาน จึงจะเ รียกความเชื่อมั่นคืนมาได้ เพราะเหยื่อความโลภของการกระทำครั้งนี้ไม่ได้เกิดกับคนอื่นคนไกล
แต่เป็นเด็กทารกที่เกิดในแผ่นดินของจีนเอง
การปลูกผักไว้กินเอง จึงเป็นหนทางหนึ่ง ที่จะช่วย ให้ทุกครอบครัว มีความปลอดภัยเกี่ยวกับอาหาร ได้ในระดับหนึ่งทีเดียว