ยกเครื่องตำรารับหลักสูตรใหม่ เล่มเดียวครบช่วงชั้น

ยกเครื่องตำรารับหลักสูตรใหม่ เล่มเดียวครบช่วงชั้น

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.51 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พ.ศ.2551 โดยมีเงื่อนไขและระยะเวลาการใช้หลักสูตร ให้สถานศึกษาทยอยใช้หลักสูตรใหม่ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2552 และจะครบทุกช่วงชั้นในปีการศึกษา 2554 รวมระยะเวลา 3 ปีนั้น

           นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ทำหนังสือเวียนแจ้งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศรับทราบแล้ว และในเร็วๆ นี้ จะมีการประชุมชี้แจงแนวทางการใช้หลักสูตรใหม่ให้แก่ศึกษานิเทศก์ อาจารย์ฝ่ายวิชาการ และผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน ซึ่งในหลักสูตรใหม่นี้จะเอื้อให้ครูจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา ได้ง่ายกว่าหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 เนื่องจากมีกรอบแนวทางที่ชัดเจน และจะไม่ทำให้สับสน

          รองเลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า สพฐ.จะต้องทำหนังสือแจ้งให้สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เพื่อให้ทราบว่าจะมีโรงเรียนใดใช้หลักสูตรนี้บ้าง เพื่อทำการประเมินโรงเรียนเหล่านี้ให้สอดคล้องกับหลักสูตรดังกล่าว รวมทั้งจะต้องแจ้งให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ให้ทราบเช่นกัน รวมถึงจะต้องเสนอเรื่องหลักสูตรแกนกลางฯ เข้าที่ประชุมคณบดีคณะศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย เพื่อให้ทุกมหาวิทยาลัย ที่เปิดสอนด้านคุรุศาสตร์ พิจารณาปรับการเรียนการสอนให้สอดคล้องด้วยเพราะอย่างน้อยที่สุดนักศึกษา ที่จบออกมาเป็นข้าราชการครูรุ่นต่อๆ ไปจะต้องเข้าใจและมีการเรียนการสอนที่สอดรับกับหลักสูตรแกนกลางนี้

           “ขณะนี้หนังสือเรียน และสื่อที่ใช้ประกอบการเรียนการสอน จะยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในอนาคตมีแนวโน้มสูง ว่าจะต้องมีการจัดทำหนังสือเรียนในวิชาหลักบางวิชา อาทิ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ประวัติศาสตร์ เป็นต้น ให้เด็กสามารถเรียนได้อย่างต่อเนื่องทั้งช่วงชั้น ภายในเล่มเดียวกันคือ ตั้งแต่ ป.1-ป.3, ป.4-ป.6, ม.1-ม.3 และ ม.4-ม.6 ไม่ใช่มีการเปลี่ยนเล่มใหม่ในทุกๆ ภาคเรียน ทั้งนี้เพราะรายวิชาดังกล่าว เนื้อหามีความเชื่อมโยงกันตลอด ซึ่งจะประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองได้ และในส่วนของเด็กยากจน โรงเรียนจะต้องจัดหาหนังสือให้เด็กได้ยืมเรียนด้วย ”นายสมเกียรติ กล่าว

ที่มา

http://www.siamrath.co.th/UIFont/NewsDetail.aspx?cid=56&nid=18396