•—>ตำนาน“ขนมครก”ครับ.....ซึ้งงงงหลายๆๆๆ ToT<—•
•—>แด่ชีวิตรักครับ<—•[โฮะๆๆ]
เริ่มเรื่องเลยนะครับ....อิอิ
นายทิ หรือพ่อกะทิ
>ชายหนุ่มโผงผางผู้กำพร้าพ่อแม่
>อยู่ตัวคนเดียว พูดจริงทำจริง
>ขยันขันแข็งเอางานเอาการ
>เสร็จจากงานนาก็มารับจ้างขี่ควายส่งคนเข้าซอย
>ทุกคนในหมู่บ้านล้วนรักและเอ็นดูนายทิ
>ยกเว้นผู้ใหญ่ปลั่ง
>เพราะผู้ใหญ่ปลั่งมีลูกสาวสวย
>ที่ดันมาหลงรักนายทิด้วยเช่นกัน
>
>แม่แป้ง
>ลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่ปลั่งสาวสวยประจำหมู่บ้าน
>นางเจอกับนายทิในวันลอยกระทง
>ทั้งคู่ขี่ควายสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์
>ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด
>ทั้งคู่ก็จะขอเอาความรักแท้ที่จริงใจฝ่าฟันข้ามไป
>แล้วนายทิก็รวบรวมเงินทองเท่าที่เก็บสะสมมาได้
>ไปบ้านผู้ใหญ่ปลั่งเพื่อสู่ขอแม่แป้ง
>ซึ่งผู้ใหญ่ก็ต้อนรับมันอย่างดี ด้วยชายฉกรรจ์ 6 นาย
>พร้อมอาวุธครบมือ นายทิไม่ว่ากระไร
>ได้แต่พาร่างอันสะบักสะบอม
>กลับไปบ้านนอนหยอดน้ำข้าวต้มหลายวัน
>ด้วยใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาขอใหม่
>ขอไปจนกว่าผู้ใหญ่จะใจอ่อน
>
>ในที่สุดผู้ใหญ่ปลั่งก็ปิดหนทางความรักของนายทิด้วยการคลุมถุงจัดงานแต่งงาน
>ให้ลูกสาวกับปลัดหนุ่มจากบางกอก
>นายทิรู้ข่าวจึงรีบวิ่งทุรนทุรายหมายจะมาทำลายพิธี
>ซึ่งผู้ใหญ่ปลั่งก็รู้ดีว่านายทิต้องกระทำแบบนี้
>จึงขุดหลุมพรางดักรอเอาไว้
>แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้าย
>ก็แอบหนีหมายจะมาห้ามคนรักไม่ให้หลงกล
>เหตุการณ์ต่อไปนี้ไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์
>ได้แต่ปะติดปะต่อมาจากคำบอกเล่าของชาวบ้านแบบปากต่อปากว่า
>
>... คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม
>แม่แป้งแอบวิ่งฝ่าความมืดออกมาดักหน้านายทิ
>นายทิเห็นแม่แป้งวิ่งมาก็ดีใจ รีบวิ่งไปหา
>แม่แป้งเห็นนายทิรีบวิ่งมาก็รีบวิ่งเข้าไปหาให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก
>
>ฉับพลัน...ร่างแม่แป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพราง
>ของผู้ใหญ่ปลั่งต่อหน้าต่อตานายทิทันที
>อารามตกใจ นายทิรีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือ
>อารามดีใจ สมุนชายฉกรรจ์ 6
>นายของผู้ใหญ่ปลั่งรีบเข้ามาโกยดินฝังกลบ
>เพราะคิดว่าก้นหลุมมีเพียงนายทิผู้เดียวที่อยู่ในนั้น
>
>... รุ่งเช้า
>ผู้ใหญ่ปลั่งเดินยิ้มมาขุดหลุมเพื่อดูผล
>ภาพเบื้องล่างพบนายทิตระกองกอดทับร่างแม่แป้งลูกสาวของตน
>นอนตายคู่กันอย่างมีความสุข
>เมื่อยิ้มถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตา
>ผู้ใหญ่ปลั่งสั่งลูกสมุนสร้างเจดีย์คลุมครอบปิดหลุมนั้นไว้
>เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทั่วไปว่า
>อย่าคิดทำร้ายหรือทำลายความรักของใครอีกเลย
>สถานที่ตั้งเจดีย์นั้นไม่มีใครรู้แน่นอน
>จะมีก็แต่เพียงอนุสรณ์แห่งความรักที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี
>
>ทุกแรมหกค่ำเดือนหก
>ชาวบ้านที่ศัรทธาในความรักของนายทิกับแม่แป้งจะตื่นตั้งแต่มืด
>เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวาน
>ปรุงจากแป้งและกะทิ
>บรรจงแคะจากพิมพ์ แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกัน
>เป็นสัญลักษณ์ว่า จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป
>ขนมนี้เรียกขานกันในนาม ขนมแห่งความรัก
>(ขนมของ "คนรักกัน" )
>หรือเรียกย่อๆ ว่า "ขนม ค.ร.ก."
ซึ้งรึปล่าวครับ คิดว่าเป็นยังไงครับ กับตำนานนี้
คำสำคัญ (Tags): #ความรักหนอ...#จงคิดวิเคราะห์#ชีวิตต้องสู้#แล้วจึงสรุป#โฮะๆ พี่น้องค้าบบบ จงเจริญ...
หมายเลขบันทึก: 200274เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2008 20:24 น. ()ความเห็น (11)
- มาขำๆๆ
- คิดได้ไงเนี่ย
- ทำไมตอนท้ายเศร้าจัง
- อยากกินขนม ครก
- อิอิๆๆ
- เอามาเล่าอีกนะครับ
อิอิ จะว่าขำก็ขำนะครับ
จะว่าเศร้าก็เศร้า
มีสองแบบใน1อย่าง
โฮะๆๆ
สวัสดีครับ
- มาอ่านตำนานขนมครกแบบแปลก ๆ ครับ
- แต่ก็ไม่ทราบประวัติขนมครกเลยครับ
- รึจะเป็นตำนานจริง ๆ
- ขอบคุณครับ จะได้นำไปเล่าให้เด็ก ๆ ฟัง เด็กชอบ
หวัดดีครับ ครูสุ
สอนแง่คิดให้เด็กๆ ด้วยนะครับ
โอวววว เพิ่งจะทราบที่มา ของหนม ค ร ก อ่ะ อิอิ ขำๆๆๆ
อ่านแล้วอยากกิน ขนมครก ใช่ไหม ครับ อิอิ
- อ่านตำนานขนมครกแล้ว เศร้าจัง
- ต่อไปจะทานขนมครก คิดหนัก...อิอิ
- ขอบคุณค่ะ
อย่า คิดหนักสิ ครับ
อิอิ
อยากอ่านตำนานขนมอื่นๆบ้าง เช่น ปาท่องโก๋ ขนมรังผึ้ง กล้วยบวชชี มีอ๊ะปล่าว
....จากป้าติ๋ม
เด๋วผมหาครับ ป้าติ๋ม
ถ้าหาไม่ได้เด๋วแต่งเองเลย
อิอิ