จากเชียงราย..ถึงเชียงใหม่

การเดินทาง กับการเรียนรู้

      เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มะนาวหวานได้มีโอกาสได้เดินทางเข้าเชียงใหม่อีกครั้ง หลายๆครั้งที่ผ่านมาก็ได้อะไรแปลกใหม่ และเป็นการเรียนรู้กับชีวิตมากขึ้นทุกครั้ง
       อย่างเช่นครั้งนี้ "เรา" ซึ่งก็หมายถึง มะนาวหวาน เพื่อนชาย และเพื่อนของเพื่อนชายอีกสองคน โดยมีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก เก้าขวบกว่าๆ ร่วมเดินทางมาด้วย ซึ่งสามคนหลังนี้เป็นชาวฝรั่งเศสค่ะ
      มะนาวหวานเองก็เป็นคนที่เรียบง่ายค่ะ ไม่ค่อยเน้นพิธีรีตรองอะไรเท่าไหร่นัก และการเดินทางครั้งนี้ ก็ทำให้มะนาวหวานได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เยอะมาก
     มิสเตอร์เค (ชื่อเต็ม คือ คุณ คาเร็ด) และเบอร์นัวร์ กับลูกสาวชื่อ ลิเดีย เป็นชาวฝรั่งเศสที่น่ารักมากๆ มิสเตอร์เค เป็นมุสลิมค่ะ ไม่ทานหมู แต่เบอร์นัวร์และลิเดียทานได้ทุกอย่าง แต่ส่วนใหญเขาจะชอบทานผักกันมากกว่าค่ะ ทุกคนเป็นคนง่ายๆ ไม่เรื่องมาก โดยเบอร์นัวร์ก็เป็นแขกของมิสเตอร์เค อีกที พอดีมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดของเขา และมาเยี่ยมเพื่อนของเขาก็คือ มิสเตอร์เคนี่ล่ะค่ะ
    ที่น่าสนใจก็คือ มะนาวหวานเห็นลิเดีย เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารัก ขนตายาวงอน ยิ้มเก่ง และที่น่ารักมากๆ ก็คือ เธอมักจะพูดและทำท่า "สวัสดีค่ะ" เสมอๆที่เจอใครๆ มะนาวหวานยังคิดอยู่เลยว่า ทีเด็กบ้านเราพูดสวัสดียังไม่ชัดเลยด้วยซ้ำ แถมมือไม้ก็แข็งไม่ค่อยไหว้ แต่ลิเดียเธอเรียนรู้ และสามารถไหว้ได้สวยงามมากๆ
ซึ่งมะนาวหวานว่าถ้าใครที่ได้เห็นภาพที่เธอไหว้ จะอดเอ็นดูเธอไม่ได้แน่ๆเลยล่ะค่ะ แถมพูดสวัสดีชัดซะ จนเด็กไทยบางคนอายไปเลย
       น่าภูมิใจนะคะ ที่ชาวต่างชาติ ก็พยายามเรียนรู้วัฒนธรรม การไหว้ของเรา และเขาพยายามเรียนรู้ในสิ่งที่ดีๆ ของเราเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอาจจะต่างจากเรา ตรงที่คนไทยส่วนใหญ่ชอบเรียนรู้เอาในส่วนที่ไม่ดีมาใช้มากกว่า ส่วนที่ดี
       ไปเชียงใหม่ อีกความงดงามที่น่ายกย่องของที่นี่ ก็คือ นักเรียนส่วนใหญ่ในวันศุกร์ จะสวมใส่ชุดพื้นเมือง โดยเด็กชาย จะใส่กางเกงสะดอ และเสื้อพื้นเมืองคล้ายๆเสื้อม่อฮ่อม และเด็กหญิง ก็นุ่งผ้าซิ่น ใส้เสื้อแบบเดียวกัน หรือบางโรงเรียนก็เป็นเสื้อผ้าฝ้ายแบบผู้หญิงเข้ารูป ดูแล้วน่ารักมากๆเลยค่ะ อันนี้ มะนาวหวานขอชื่นชมกับนโยบายของแต่ละโรงเรีัยนที่เน้นให้มีกิจกรรมการส่งเสริมการแต่งกายแบบล้านนา โดยถือกำหนดให้นักเรียนสวมใส่มาทุกวันศุกร์ ถือเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมล้านนาอีกอย่าง ที่จริงควรจะสนับสนุนให้ท้องถิ่นทั่วประเทศไทย ทำในลักษณะนี้กันทุกโรงเรียนก็ถือเป็นการร่วมสืบสาน อนุรักษ์การแต่งกายของแต่ละท้องถิ่นได้อย่างสวยงามและน่ายกย่องมากๆนะคะ
       ดีกว่าเห็นเด็กไทย ใส่สายเดี่ยว กางเกงเอวต่ำ หลุด_ ูด ใส่เสื้อบาง โชว์สัดส่วน ที่เชียงใหม่แถวพลาซ่าใหญ่ๆ ก็เยอะค่ะ จะว่ากันแล้วหากถือเป็นข้อกำหนด กฏเกณฑ์ ว่าก่อนเข้ามาในสถานที่นั้น ๆ ท่านควรแต่งกายเรียบร้อย หรือว่า ชี้ชัด โดยเฉพาะในสถานที่ควรสำรวม เช่น วัด อาราม เป็นต้น
       แต่เพื่อนชาวฝรั่งเศสสามคนของเรา น่ารักนะคะ เวลาเราแวะที่วัด เพื่อกราบไหว้ สักการะพระพุทธรูป เขาก็จะถามว่าเพื่ออะไร พอเราอธิบายเขาก็เข้าใจ และทำตาม ทั้งที่มิสเตอร์เค เป็นมุสลิม ก็ยังไหว้และกราบพระได้สวยงามเลยล่ะค่ะ
       บันทึกฉบับนี้ มะนาวหวานอยากให้อาจารย์ทุกๆท่าน และขอเชิญชวนคนไทย ร่วมรณรงค์อนุรักษ์ การแต่งกายแบบไทยๆ ของเรากันด้วยนะคะ และสอนเด็กๆ ของเราให้ไหว้อย่างไทย เพื่อที่เราจะได้ถือเป็นความภาคภูมิใจของเรา คนไทยทุกคน ไม่ใช่แค่เด็กๆ นะคะ ที่มะนาวหวานอยากจะเชิญชวน อยากเห็นคนไทยทุกๆคนล่ะค่ะ หันมาอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยกันไว้ให้มากๆ เพื่อที่ในอนาคต จะไม่หายไปจากบันทึกของไทยค่ะ

เขียนใน GotoKnow โดย มะนาวหวาน
ใน บันทึกการเดินทาง : เด็กบ้านนอก

คำสำคัญ (Tags): #เด็กบ้านนอกเดินทาง

หมายเลขบันทึก: 198628เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2008 15:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 01:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน

ความเห็น (8)

gfgfdg

เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2008 16:28 น. ()

การแต่งตัวของเด็กสมัยนี้ เห็น แล้ว เอื๊อก...น่าจะแต่งให้เรียบร้อยดูดีกว่านี้ สวยแบบมีคุณค่าไง

มะนาวหวาน

เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2008 17:10 น. ()

บางสถานที่เราก็ไม่ว่ากันอ่ะค่ะ

เช่นตามแหล่งเที่ยวกลางคืนทั่วไป

แต่เห็นแล้วก็น่าเป็นห่วงความปลอดภัยนะคะ

นอกจากรณรงค์เรื่อง ไม่ควรใส่สี่เอส ห้าเอส ที่น.ศ. หญิงใส่จนฟิตเปรี๊ยะแล้ว

ก็เห็นกางเกงเด็กผู้ชายที่หลุด _ ูด จนบางทีนึกอยู่ในใจ หึ..ทำไมไม่ถอดไปซะเลยล่ะนั่นนะ

ผู้เป็นมุสลิม

เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2008 17:20 น. ()

มุสลิมที่แท้จริงไม่เพียงแต่ไม่ทานหมูอย่างเดียวน่ะครับแต่จะรวมถึงการเชื่อถือ(การศรัทธา)ที่ถูกต้องตามบทบัญญัติของอิสลาม การที่มิสเตอร์เค เป็นมุสลิม แต่ยังไหว้และกราบพระได้สวยงามนั้น มันผิดกับบทบัญญัติน่ะครับ มันต่างกับการไหว้ระหว่างมนุษย์ด้วยกันเพราะการไหว้ประเภทนี้เป็นการไหว้เพื่อที่จะแสดงความเคารพต่อกัน ซึงในทางศาสนาอิสลามเองก็ไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด เพราะถือว่าเป็นวัฒนธรรมสำหรับกลุ่มชนนั้นๆซึ่งต้องเคารพซึ่งกันและกัน