วันนี้ได้ยินคุณพ่อชมน้องฟุงว่า เก่งจังที่พ่อแม่ไม่เคยต้องดูการบ้านหรืองานค้างอะไรของลูกเลย เพราะคุณพ่อไปประชุมผู้ปกครองของห้องน้องฟุงมาแล้วได้ยินว่ามีหลายคนมีปัญหา น้องฟุงรีบบอกเสียงดังว่า พ่อแม่คนอื่นเขาทำให้ลูกทุกอย่างเลยพ่อ น้องฟุงทำเสียงแบบที่ทำให้คุณแม่คิดในใจว่า ลูกได้อย่างใจแม่จริงๆ เพราะท่าทางน้องฟุงก็คิดว่ามันเป็นหน้าที่ของลูกที่พ่อแม่ไม่ควรมาแย่งทำ แม่ก็นึกได้เหมือนกันว่า ได้ยินคุณแม่หลายๆท่านบอกว่าต้องจัดกระเป๋าให้ลูก ช่วยทำการบ้านให้ลูก ฯลฯ ที่ทำให้นึกย้อนกลับไปว่า เรื่องนี้มีที่มาที่ไปนะคะ และน่าจะถือเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเราได้จริงๆ เราต้องช่วยกันเตือนคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทั้งหลายกันเสียแต่เนิ่นๆ
ทำให้ย้อนคิดถึงบันทึก วิเคราะห์วิธีการเลี้ยงลูก ที่เขียนไว้นานมากแล้ว เพราะแรงบันดาลใจจากบันทึกแรกๆของคุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร ซึ่งพูดถึงการเลี้ยงดูเด็กด้วยความรู้พื้นฐานเรื่องสมองและการพัฒนาการรอบด้าน เป็นวิธีที่ตัวเองก็ใช้มาตลอด คือสอนให้ลูกคิดว่า อะไรดีต่อตัวเอง อะไรคือหน้าที่ของตัวเอง รู้จักวิธีการจัดการกับตัวเอง รับผิดชอบตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้เป็นพื้นฐานของทุกอย่างในชีวิต เราจะให้ลูกได้ทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเองทันทีที่เราเห็นว่าเขาสามารถจะทำได้ เช่น ใช้ช้อนตักข้าวกินเอง ดื่มน้ำเอง เก็บของเล่นของตัวเอง ใส่เสื้อผ้าเอง นอน กิน เล่นเป็นเวลา ไปไหนมาไหนก็หิ้วหอบของของตัวเอง โดยที่สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำไปตามธรรมชาติอย่างยืดหยุ่น เข้าอกเข้าใจ มีเหตุมีผล
สิ่งที่เราเห็นผลในวันนี้จากหนุ่มน้อยทั้ง 3 หน่อก็คือ เขารู้จักจัดการตัวเอง รู้ว่าควรนอนเมื่อไหร่ตื่นเมื่อไหร่ ดูทีวีเวลาไหน เล่นคอมพิวเตอร์อย่างไร อ่านหนังสือ ทำการบ้าน จัดการการงานของตัวเอง กระเป๋านักเรียน เครื่องแบบนักเรียน ฯลฯ เรียกว่าเรื่องของลูกก็คืองานของลูกจริงๆ เราก็ทำงานในหน้าที่ของพ่อแม่เท่านั้นเอง เราจะไม่ตามป้อนอาหารเมื่อลูกถือช้อนเองได้ ไม่หิ้วกระเป๋านักเรียนให้ลูกแต่จัดกระเป๋าแบบที่ลูกถือเองได้ให้ ไม่จัดกระเป๋าให้ลูกเมื่อเขาจัดได้เอง ไม่ตามปลุกตอนเช้าถ้าไม่จำเป็นเมื่อเขาเริ่มไปโรงเรียนเป็นเวลา สิ่งที่เป็นความรับผิดชอบของเขานั้น เราหัดให้เขาทำมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ทำให้เขารู้และปฏิบัติจนเป็นนิสัย ทุกวันนี้ถ้ามีการบ้าน เราก็จะได้เห็นลูกๆนั่งปั่นทำให้เสร็จ ก่อนที่จะอาบน้ำ ทานข้าว ดูทีวี วันธรรมดาลูกก็จะไม่เล่นเกมคอมพิวเตอร์ วันหยุดลูกก็จะเล่นเป็นช่วงๆ ลุกขึ้นทำอย่างอื่นด้วย เราไม่ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เป็นความรับผิดชอบของเขาเอง
สรุปได้ว่า ความมีวินัย การรู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองนั้น สร้างได้ด้วยการอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่ คนดูแลเด็กนั่นเองค่ะ และสิ่งสำคัญก็คือต้องทำตั้งแต่เขาเริ่มทำเองได้เลยทีเดียว อย่ารอให้พ่อแม่ทำไม่ไหวเสียก่อน ชีวิตเป็นของลูก หน้าที่ทำให้เขารู้จักใช้ชีวิตให้ถูกต้องคืองานของพ่อแม่ เราเลี้ยงเขามาอย่างไร เขาก็จะใช้ชีวิตไปในแบบนั้น สอนให้ลูกใช้ชีวิตด้วยตัวเองคือหน้าที่ที่สำคัญของเราค่ะ
ขอเข้ามาแจมนะคะ เห็นด้วยอย่างยิ่ง ดิฉันไม่มีลูก แต่มีหลานๆ แต่ละช่วงชีวิตของหลานมีอะไรๆ ที่เป็นอุปสรรค และอะไรที่ช่วยพวกเขาได้ สอนได้ แนะนำได้ ไม่เคยที่จะรั้งรอ สังคมและสิ่งแวดล้อมปัจจุบัน การเลี้ยงลูกยากขึ้นทุกที ดิฉันเคยสอนน้องที่ทำงานว่า เด็กให้ข้าวให้น้ำ เดี๋ยวก็โต แต่ใจลูกนี่ซิ พ่อแม่ต้องดูแล เอาใจใส่ รักอย่างเดียวโดยไม่ชี้ถูกชี้ผิด จะทำให้เด็กมีปัญหา เดี๋ยวนี้เด็กคนนั้นกำลังมีปัญหา สงสารแม่เค้านะคะ ร้องให้เกือบทุกวันเพราะลูกไม่ฟัง
สวัสดีค่ะอาโอ๋ เล็กซุก และน้อง ๆ ทั้ง 3 โดยเฉพาะนายเหน่น สบายดีไหมค่ะ ^ _ ^
วิธีสอนที่ดีที่สุดคือ ทำให้ดูครับ
ที่เห็นๆ คือ คุณพ่อจับหนังสืออ่านตลอด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกสาววัยแปดขวบ นั่งอ่านการ์ตูนคู่กับคุณพ่อเลย แอบปลื้ม
ปกติตักบาตรเช้าๆ โทร.ไปหาคุณแม่ให้อนุโมทนาบุญ วันหนึ่งลูกสาวถามว่า พ่อตักบาตรทุกวันเลยเหรอ
นี่เป็นตัวอย่างสนับสนุน สอนที่ดีที่สุดคือ ทำให้ดูครับ อะไรที่คิดว่าดี ทำไปเถอะ เด็กๆ จะเห็นเอง เขาฉลาดกว่าที่เราคิดมากมาย
เป็นแม่ม่ายลูกสองค่ะ ป้าหมอ... เลี้ยงลูกเองจนลูกอายุได้ 4 ขวบ กับ 6 ขวบ ตอนนี้ อยู่กับคุณย่าที่เชียงใหม่ ตอนที่ตั้งท้องชอบอ่านหนังสือมาก..ก.. เพราะทำงานห้องสมุดประชาชน ทุกวันนี้ ลูกๆ จะโทรมาบอกว่า "แม่คร้าบ..หนางฉือของอิ๊งค์หมดแล้ว...แม่รีบส่งมาให้เร็วๆ อึ..ไม่ออก"
ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ แกถ่ายหนักไม่ได้ ถ้าไม่มีหนังสือให้อ่าน...
ตั้งแต่ครั้งที่รับราชการที่แม่ฮ่องสอน จนมาอยู่ลำปาง ถึงแม้ลูกจะอ่านหนังสือเก่งมากๆ สำหรับเด็กวัยเดียวกัน แต่ทำยังไงก็พูดไม่ชัดซักที.. เพราะดิฉันชอบพูดกับลูกไม่ชัด (เมื่อก่อนเห็นว่าเด็กพูดไม่ชัดน่ารักดี) ถึงวันนี้ ไม่กล้าบ่นลูกหรอกว่า ลูกพูดไม่ชัดทั้งที่มีแม่เป็นครูภาษาไทย.....
+ " แม่อ๋อย..เราไปเยี่ยมป้าโอ๋ดีกว่านะ" + " โอ้โห...นั่นไงแม่...ป้าโอ๋.."
+ เห็นด้วยค่ะพี่โอ๋...
+ 1. สิ่งที่เป็นความรับผิดชอบของเขานั้น เราหัดให้เขาทำมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ทำให้เขารู้และปฏิบัติจนเป็นนิสัย + 2.ความมีวินัย การรู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองนั้น สร้างได้ด้วยการอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่ คนดูแลเด็กนั่นเองค่ะ และสิ่งสำคัญก็คือต้องทำตั้งแต่เขาเริ่มทำเองได้เลยทีเดียว
+ 3.ชีวิตเป็นของลูก หน้าที่ทำให้เขารู้จักใช้ชีวิตให้ถูกต้องคืองานของพ่อแม่ + อ๋อยจะพยายามเลี้ยงดูด้วยการอบรม สั่งสอนด้วยความรักค่ะ...
ขอบคุณทุกๆท่านมากๆค่ะที่เข้ามาร่วมออกความคิดเห็น และถ้าเป็นไปได้พยายามช่วยกันทำให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ เราต้องการคนดีมีวินัย รู้หน้าที่ของตัวเอง เพื่อให้บ้านเมืองเราดีๆยิ่งขึ้นกว่านี้
คิดถึงแม่อ๋อยกับหนูแอมแปร์จังเลยค่ะ รู้ว่าคุณแม่อ๋อยต้องเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับลูกอยู่แล้วค่ะ เพียงแต่เราต้องรู้วิธีช่วยให้ลูกรับเอาส่วนดีๆของเราไปให้มากกว่าสิ่งที่ยังไม่ดีเท่านั้นเอง แต่ยังไงๆลูกก็เป็นตัวของเขาเองอยู่แล้ว
+ ป้าโอ๋ขา...แอมแปร์อยากดังค่ะ
+ นี่ไงค่ะ....
คุณแม่อ๋อยช่างสรรหารูปมาใส่จังเลยค่ะ เห็นแล้วยิ้มจนปากเมื่อยเลยนะคะ ท่าหนูแอมแปร์เหลือกินจริงๆ
สวัสดีค่ะ
- " ตื่นเถิดชาวไทย อย่ามัวหลับใหลลุ่มหลง " เพลงลูกชายร้องให้คุณแม่เพชรฟังทุกวันเลยค่ะ
คุณ เพชรน้อย อย่าลืมอัดเสียงเก็บไว้บ้างนะคะ เวลาไม่ย้อนคืน เอามาเปิดฟังอีกทีตอนเขาโตกว่านี้ จะมีความสุขมากๆเลยค่ะ อ้อ..เกือบลืมแซวน้องโบวี่ "เพลงทันสมัยจังเลยลูก"
. แวะมาทักทายค่ะ
. เห็นด้วยคะ ช่วงเวลาที่เราจะได้ดูแลเจ้าตัวน้อย ไม่รอท่า
. หน้าที่พ่อแม่ต้องรีบดูแลเมื่อมีโอกาส
ดร.อาจอง ช. สอนเด็กที่โรงเรียนสัตยาไส อย่างนี้ครับ
ก่อนจะรับรู้อะไร หรือกระทำอะไร ให้ถามตัวเอง ๒ ข้อ สิ่งนั้นดีต่อผู้อื่นไหม? และ สิ่งนั้นดีต่อตัวเองไหม?
หากตอบว่าใช่ทั้งสองข้อ ดำเนินการรับรู้/เรียนรู้ หรือกระทำได้เลย
ผมชอบแถมอีกข้อ สิ่งนั้นดีต่อโลกไหม?
ขอบคุณสำหรับแนวทางดีๆ
เคยเขียนถึงหนังสือดีๆ ที่ใช้เลี้ยงลูกครับ ที่
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=amp-atom&month=07-2008&date=28&group=1&gblog=43
คุณ ปรีดิ์ผาติคะ ตามลิงค์ไปไม่เจอค่ะ เก็บมาฝากกันเป็นบันทึกใน GotoKnow บ้างสิคะ เรามีคุณพ่อคุณแม่เยอะเลยเหมือนกันค่ะ ชอบคำถามตัวเองข้อ 3 จังเลยค่ะ จะเอาไว้ใช้บ้างนะคะ
ขอบคุณคุณ Kroomaew ที่แวะมาสนับสนุนนะคะ ดูเวลาในการอ่านแล้วก็ดีใจที่มีระบบบล็อกนะคะ เขียนบันทึกไว้แล้วก็จะได้มีโอกาสให้คนได้อ่านอยู่เรื่อยๆ ไม่กองขึ้นหิ้งไว้เฉยๆเหมือนรายงานบางอย่าง
หนังสือดีๆ ที่ใช้เลี้ยงลูก
วันก่อนน้องที่ทำงานเพิ่งคลอด แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกไป ๔ เล่ม คือ
๑. กว่าจะถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว
๒. โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง
๓. คุณคือครูคนแรกของลูก
๔. พ่อแม่ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า
เลยเอามาจดไว้เผื่อใครสนใจ
ใครมีเล่มไหนดีๆ แนะนำ บอกกันบ้างนะครับ
แอบถามไว้ใน Cafe มีเพื่อนๆ มาช่วยบอกดังนี้ครับ
แอบถามไว้ใน
ความคิดเห็นที่ 1
สารานุกรมการเลี้ยงดูเด็ก แปลโดย พรอนงค์ นิยมค้า
เป็นคู่มือเลี้ยงลูกที่ดิฉันใช้,ซื้อให้เพื่อน และแนะนำ ตลอดมาค่ะดอกไม้
จากคุณ : ป้าเอียด - [ 28 ก.ค. 51 23:46:35 ]
ความคิดเห็นที่ 2
ลองเล่มนี้ไหมคะ
http://www.suan-spirit.com/products_book_more.asp?prod_type=book&code=P-SM-0081
จากคุณ : ลวิตร์ - [ 30 ก.ค. 51 02:39:59 ]
ความคิดเห็นที่ 3
...ผมแนะนำเรื่อง"เด็ก..ไม่เล็กอย่างที่คิด" ของนิดา หงษ์วิวัฒน์ ครับ
...หายากหน่อย...เพราะเขียนไว้หลายปีแล้ว...แต่ดีมากครับ...
...เป็นเรื่องเล็กๆของครอบครัวเธอเองแบบใช้จิตวิทยาในการเลี้ยงลูก...
...ผมอ่านแล้วยังชอบเลยครับ...
...(บังเอิญสอนลูกๆผู้เขียนด้วยครับ)
จากคุณ : ครู ข้างวังฯ - [ 31 ก.ค. 51 13:07:43 ]