คิดเรื่องงาน (28) : ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อความเป็นไปของ "องค์กร"


หลายคนมุ่งไปสู่อนาคตมากจนไม่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบต่าง ๆ ของแต่ละวัน เสมือนการมุ่งหน้าไปเพื่อตนเอง แต่ไม่คิดที่จะจัดเก็บอะไรต่อมิอะไรไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้า

เมื่อวานเป็นวันหยุดที่รื่นรมย์อีกวันหนึ่งของชีวิต  เรื่องบางเรื่องกับใครบางคน   มีโอกาสได้ เปิดใจ กันอย่างไม่คาดคิด  หลังจากเก็บงำกันมาเสียนาน


ช่วงเช้าของวันเสาร์   ขณะที่นั่งรถไปยังขอนแก่น  ผมได้คุยกับเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งอย่างตรงไปตรงมา  และคุยกันอย่างสนิทแน่น  เรียกได้ว่าเปิดเปลือย
ใจ  เล่าและเปิดเปลือย ใจ  ถามตอบกันอย่างไม่บิดเบือน

 

เด็กหนุ่มท่านนี้  อยู่ในองค์กรเดียวกับผม  แต่อยู่คนละสายงาน  น้อยนักที่เราจะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง  แต่สำหรับสัมพันธภาพแล้ว   เราต่างมีเมตตาจิตต่อกันและกัน  อาศัยและพึ่งพิงกันมาเป็นเวลานาน

 

การสนทนากันครั้งนี้  ร้อยทั้งร้อยเป็นเรื่องการงานทั้งสิ้น  เขาเองเคยแคลงใจถึงเหตุผลของการก้าวลงมาจากเก้าอี้ของผม   หรือแม้แต่การสงสัยว่า  สายงานใหม่ที่ผมกำลังสร้างขึ้นนั้น  รองรับเฉพาะงานหรือความฝันของผมเองสถานเดียว  หรือรองรับความเป็นองค์กร กันแน่

 

เป็นคำถามเปิดเปลือยแบบตรง ๆ ซื่อ ๆ  และจริงใจมาก   ซึ่งผมก็ชื่นชอบในสไตล์เช่นนี้  เลยถือโอกาสเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือกเลยว่า  งานที่ผมแยกออกมาทำอยู่นี้  คืองานภาพรวมขององค์กรของเราทั้งหมด  มิใช่เป็นงานเล็ก ๆ  .. หากแต่ผมพึงใจที่จะใช้คนจำนวนน้อย ๆ เพื่อสร้างงานใหญ่  เป็นการแยกตัวออกมาเพื่อมิให้ติดกับดักอยู่ในระบบมากจนเกินไป  ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงก็เพื่อความคล่องตัวและประสิทธิภาพของการสร้างงาน

 

 

เกี่ยวกับงานพัฒนานิสิตนั้น   ผมไม่ได้เล่าให้ฟังมากมายนัก  เพียงแต่บอกกล่าวในทำนองว่า  งานพัฒนานิสิต คือ พันธกิจหลักขององค์กรของเรา  แต่เท่าที่ผ่านมา  เรายังย่ำเน้นอยู่กับเรื่องกิจกรรม  ทั้ง ๆ ที่กิจกรรมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการพัฒนานิสิตเท่านั้น  ยังไม่มีการ รุก  ออกมาสร้างกระบวนการพัฒนานิสิตอย่างเป็นรูปธรรม  ดังนั้น  การแตกตัวออกมาของผม  จึงมีเป้าหมายชัดเจนของความเป็นองค์กร  มิใช่มาสร้างแผ่นดินใหม่ มิใช่มาสร้างบารมีตัวเอง  และสถาปนาประวัติศาสตร์กิจกรรมเพื่อตนเองอย่างที่หลายคนแคลงใจ

 

เกี่ยวกับการพัฒนานิสิตนั้น   ผมเกริ่นแบบคร่าว ๆ  ว่า  ผมต้องการให้มีหลักสูตรว่าด้วยการพัฒนานิสิตที่ถูกต้อง  กำหนดเป็นรายวิชาให้นิสิตได้เลือกเรียน  หรือแม้แต่บังคับให้เรียนกันทุกคน ..รวมถึงการพัฒนาระบบ ทรานสคริปชีวิต  ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น  และนั่นยังหมายรวมถึง  การกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนานิสิตในบริบทขององค์กร  ซึ่งเราไม่เคยหยิบเรื่องนี้มาพูดกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว

 

นอกจากเรื่องพัฒนานิสิตอันเป็นกลไกสำคัญขององค์กรแล้ว  ผมยังกล่าวโยงไปถึงเรื่องระบบสารสนเทศและการประชาสัมพันธ์ที่ผมดูแลอยู่ว่าเป็นมาอย่างไร ?  และมีทิศทางอย่างไร ? ...  เพราะเรื่องนี้ก็เป็นภาพรวมขององค์กรด้วยเช่นกัน  มิใช่ตั้งมาเพื่องานใดงานหนึ่งอย่างที่หลายคนเข้าใจ (ทั้ง ๆ ที่อธิบายและแถลงมาแล้วนับสิบครั้ง)

 

งานสารสนเทศนั้น  หลัก ๆ ที่ผมตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องเกิดขึ้นให้ได้ก็คือ ห้องสมุดกิจกรรม หรือ ห้องสารสนเทศกิจกรรม  เพราะวิถีที่เราเป็นอยู่นั้น  ก่อเกิดและดำเนินมายาวนานนัก  แต่กลับไม่มีการจัดเก็บข้อมูลใด ๆ ไว้บ้างเลย   เราไม่มีต้นทุนเชิงประวัติศาสตร์ของเรามากนัก  หลายคนมุ่งไปสู่อนาคตมากจนไม่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบต่าง ๆ ของแต่ละวัน  เสมือนการมุ่งหน้าไปเพื่อตนเอง  แต่ไม่คิดที่จะจัดเก็บอะไรต่อมิอะไรไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้า ..ความรู้และเอกสารหลายอย่างติดตัวไปกับบุคคล  แต่กลับไม่ทิ้งดอกผลใด ๆ  ไว้ให้องค์กร  พอมีคน หรือองค์กรภายนอกมาเยี่ยมยามถามข่าวในเรื่องเหล่านี้   ทุกคนก็โยนมาที่ผม  ทั้งที่ผมก็เป็นแค่คนธรรมดา ๆ  คนหนึ่งเท่านั้น  - คนธรรมดา ๆ  ที่ฟั่นเฟือนสืบค้นและจัดเก็บเรื่องราวขององค์กรมาอย่างเดียวดาย ...

 

นั่นคือเหตุผลหลักอีกประการที่ทำให้ผมตัดสินใจก้าวถอยออกมาทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง  และหากเกิดขึ้นตามที่วาดหวัง  สิ่งนี้ก็จะกลายเป็นส่วนที่ใคร ๆ มาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย  เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้สายธารของการพัฒนานิสิตในยุคสมัยต่าง ๆ  อย่างเป็นรูปธรรมเสียที

 

 

และสุดท้าย.  ผมก็ชวนคุยถึงงานประชาสัมพันธ์และนวัตกรรมที่ผมกำลังแบกรับอยู่กับทีมงานนั้น  เป็นงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อ ทุกคน  และเพื่อ ทุกภาคฝ่าย  เป็นงานที่เกิดมาเพื่อเป็นกลไกให้ฝ่ายต่าง ๆ  ทำงานได้ง่ายขึ้น. สะดวกขึ้น. และมีผลผลิตที่เป็นรูปธรรม  มิใช่ทำ ๆ  แล้วไม่มีผลผลิตในเชิงประชาสัมพันธ์ออกมาจัดแสดง  ซึ่งนั่นต้องเข้าใจว่า  ที่ผ่านมาเราทำงานกันหนักมาก  แต่เรากลับไม่มีกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์อย่างเป็นรูปธรรม   จนใคร ๆ ก็กล่าวถึงเราในทำนองว่า วัน ๆ เราไม่มีอะไรทำ..

 

แต่บัดนี้  ต้องยอมรับว่า  งานประชาสัมพันธ์และนวัตกรรมที่สร้างขึ้นใหม่  กลายเป็นกระบอกเสียงที่ทรงพลังสำหรับเรา  ตอนนี้ใคร ๆ ก็รับรู้และเห็นสื่อในมิติต่าง ๆ อย่างหลากหลาย  เราผลิตงานต่าง ๆ  สื่อสารออกไปสู่สาธารณะ อย่างมีเอกลักษณ์   และสิ่งที่รังสรรค์ขึ้นนั้น  ก็ได้รับการติดต่อจากภาคส่วนต่าง ๆ  ในการนำไปต่อยอด หรือขยายผลอย่างน่าภาคภูมิใจ  ซึ่งเราเองก็กล้าพอที่จะบอกว่า  ชิ้นงานที่สร้างขึ้นนั้น  ไม่ขี้เหร่  หากแต่ดูดี  ดูเก๋ ..ไม่แพ้หน่วยนวัตกรรมโดยตรงเลยทีเดียว

 

กระทั่งปิดประเด็นด้วยประโยคที่ว่า  การทำงานในแต่ละครั้ง  เจ้าของงานไม่จำเป็นต้องทำกระบวนการประชาสัมพันธ์เองเลย   ส่งงานมาที่ผม  เพื่อให้ผมกับทีมงานเป็นคนผลิตงานให้  โดยการผลิตนั้น  ก็เริ่มตั้งแต่ประชาสัมพันธ์ก่อนงาน ระหว่างงาน สรุปงานเป็นสื่อต่าง ๆ  สุดแท้แต่ความต้องการของเจ้าของงาน  มิใช่ให้เจ้าของงานมาวิ่งทำทุกเรื่อง   เพราะไหนตัวเองจะต้องบริหารจัดการในเรื่องนั้น ไหนจะมาทำเรื่องเหล่านี้ด้วย  แทนที่งานจะดำเนินไปด้วยดี แต่อาจจะกลับลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย  และที่สำคัญ  แต่ละคนต้องยอมรับว่า  ตนเองไม่ถนัดเรื่องสื่อและการประชาสัมพันธ์  การส่งมอบมายังทีมของผม  จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ..ดีสำหรับบุคคล  และดีสำหรับองค์กรอย่างเห็นได้ชัด

 

อย่างไรก็ตาม ..  ด้วยความที่เกรงว่าเขาจะไม่เห็นภาพเกี่ยวกับวิถี หรือกรอบงานที่ผมและทีมงานรับผิดชอบนั้น  ผมก็เลยยกตัวอย่างให้ฟังแบบตรง ๆ ว่า ... สมมติว่าตอนนี้ทุน กยศ. ของนิสิตกำลังทยอยเบิกออกมา   แทนที่งานทุนจะนิ่งเงียบทำแค่เรื่องสัญญาเท่านั้น  แต่ควร รุก  มาคิดเรื่องรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้นิสิตเห็นคุณค่าของเงินทุน..มีจิตสำนึกที่ดีต่อการใช้เงินทุนให้เกิดประโยชน์อย่าง รู้ค่า ...และมีกระบวนการของการติดตามเรื่องนี้อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน  มิใช่นั่ง ๆ  อยู่กับโต๊ะ  ตรวจเอกสาร เปิดเว็บดูรายละเอียดของงานไปวัน ๆ ....

 

สิ่งเหล่านี้  พวกเขาอาจไม่สันทัดทั้งการผลิตสื่อ.  การกำหนดประเด็น การกำหนดวาทกรรมให้ชวนอ่าน สะดุดตา สะดุดใจ ... แต่ผมและทีมงานนี่แหละ  คือ ..กลุ่มคนที่เกิดมาเพื่อรองรับและเติมเต็มงานของพวกเขา  มิใช่ให้เขาไปแบกรับ  และทำ ๆ  ไปอย่างปราศจาก เสน่ห์ และ จินตนาการ

 

และนั่นคือตัวอย่างที่ทำให้เขาเข้าใจอย่างแจ่มชัด  และยังยืนยันว่า  กลับไปจะเข้าหารือกับหัวหน้า  เพื่อขับเคลื่อนงานให้ครบวงจรกว่าที่เป็นอยู่  โดยมีผมและทีมงานเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยขับเคลื่อน  และไม่วายเอ่ยชื่นชมกิจกรรมพฤหัสสกัดความรู้ที่ผมและทีมงานร่วมใจจัดขึ้นนั้นว่าเป็นกิจกรรมที่ดี  , (อยากให้งานของเขา  ได้ทำแบบนี้บ้าง)

 

ผมไม่รู้จะบอกกล่าวเรื่องนี้อย่างไร  จึงได้แต่พูดสั้น ๆ แต่เพียงว่า อยู่ที่ใจ..ทุกอย่างอยู่ที่ใจล้วนๆ

 

......

 

 

  

 

หมายเลขบันทึก: 198354เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2008 09:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 01:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

สวัสดีครับ พี่แผ่นดิน

  • แวะมาเยี่ยมพี่แผ่นดีน
  • และแวะมาให้กำลังใจในการคิดงาน
  • และพัฒนานิสิตและสารสนเทศครับ
  • สู้ ๆ ครับพี่
  • สบายดีนะครับ
  • ไอ้ตัวเล็กเป็นไงบ้างครับพี่
  • สบายดีไหมครับ

เรียนท่านแผ่นดิน หากองค์กรไปรอด องค์Gu ก็ไปรอดครับ

ให้กำลังใจค่ะ

ถ้ามีอะไรให้ช่วยบอกได้น่ะ

แต่ทำได้รึเปล่า อีกเรื่องนึง

ให้กำลังใจนะครับคุณพนัส..

เรื่องดีๆ คนดีๆ และทำเพื่อสังคม ขอให้พลังของทุกท่านมีเหลือเฟือนะครับ

สู้ๆครับ

-----------------------------------------------------

ปูเสื่อ ไว้รอ หากเหนื่อยพักเสียก่อนสักครูแล้วเดินทางต่อครับ

สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน

* ...

ดูเหมือนว่า ทุกลมหายใจเข้าออก ของคุณแผ่นดินคือ งาน

งาน และ งาน ... นึกถึงคำ ช่วงอยู่ที่ทำงานเก่านะคะ

work  .. work .. work and work  (alcohol) ic  5 5

* ...

* เป็นกำลังใจให้ค่ะ ... วันนี้วันครอบครัว พักผ่อนให้มีความสุขนะคะ ก่อนจะต้องไป work work อีก พรุ่งนี้  ...

 

  ... ชอบสะพานไม้ ? นำมาฝาก แม้จะเล็กไปหน่อย ...

 

สวัสดีครับ

บางครั้งความคิดก็ต้องบวกความกล้าด้วยครับ

และบางครั้งอีกแหละครับที่ความคิด+ความกล้าแล้วกลับถูกมองว่า"บ้า" สำหรับผม ผมคิดว่าถ้าไม่มีตรงนี้โลกนี้คงไม่มีนวัตกรรมหรอกครับ

ผมได้กำลังใจจากคนแนวเดียวกันครับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ ครูโย่ง

  • ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจนะครับ
  • เด็ก ๆ สองคน  วันหยุดได้พักผ่อนเต็มที่  ได้นอนและว่ายน้ำอย่างที่แกชอบ
  • ว่าง ๆ ก็วาดรูป
  • และพิเศษ มีปู่กับย่ามาอยู่ด้วย  ยิ่งพลอยให้ระริกระรี้...
  • ....
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ ท่าน อ. JJ

ตอนนี้  ทีมพฤหัสสกัดความรู้  กำลังเชื่อมโยงงานและความเป็นองค์กรเข้าด้วยกัน  เราต้องการความเป็น "ทีม"  และการจัดเก็บขุมความรู้ของแต่ละคน เพื่อนำไปสู่การต่อยอดของแต่ละคนอีกครั้ง

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ.sarah

  • ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ
  • และขอบคุณในน้ำใจในการที่จะร่วมมือ หรือแม้แต่ช่วยเหลือในภารกิจใด ๆ  ในอนาคต
  • เพียงถ้อยคำแห่งกำลังใจ ก็ยิ่งใหญ่สำหรับผมแล้ว
  • ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ คุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

ขอบคุณในมิตรภาพและความเข้าใจอันแสนงาม ...

งานหนัก ๆ ทำให้ตัวเราเองรู้สึกว่าเรามีค่า  และการทำงานท่ามกลางเพื่อนพ้องน้องพี่ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน  ยิ่งกลายมาเป็นพลังชีวิตที่ดีสำหรับเรา.

G2K เป็นเสมือนเสื่อผืนงามและแสนวิเศษ  .  นั่งพักแล้วเกิดพลังชีวิตและจินตนาการอันกว้างไกล  และสำคัญก็คือ ..เป็นพื้นที่ทางปัญญาที่ควรค่าต่อการน้อมเคารพ.

...

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ. คุณปู . poo

ขอบคุณที่นำภาพสะพานมาฝาก .. ดูโปร่งโล่ง เหงา ๆ ยังไงพิกล แต่ในอีกมุมก็ดูคลาสิกมาก

พรุ่งนี้. มีภาระกิจใหญ่ ๆ ให้บริหารจัดการ ...

เหนื่อยแต่ก็มีความสุขมากเลยทีเดียว

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ.Mr. Kraton Pai

เมื่อครู่ ผมเข้าไปอ่านบันทึกเกี่ยวกับถนนเด็กเดิน  ยังขอให้กิจกรรมดำเนินไปอย่างมีพลังนะครับ  ..เป็นกำลังใจให้

เช่นกัน

ผมเองก็เชื่อในทำนองเดียวกันว่า ถ้าเราไม่กล้าที่จะบ้า.. เราก็ไม่อาจหลุดพ้นไปจากกรอบ หรือขนบบางอย่างได้  และเมื่อไม่หลุดออกไป  เราก็ย่อมไม่อาจพบเจอมุมมองใหม่ ๆ  สำหรับชีวิต และการงาน

ขอบคุณครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท