บันทึกการเมืองไทย : 22. ความเห็นของ อ. แก้วสรร อติโพธิ
ถาม
ทักษิณเป็นเผด็จการตรงไหน
ในเมื่อเขามาจากเลือกตั้ง
ตอบ คำว่า "ระบอบ" มีองค์ประกอบอยู่ 3
ส่วนด้วยกันคือส่วนตัว ระบบ, ส่วน
ความเคลื่อนไหว และส่วน ความคิด
ทั้งสามส่วนนี้ต้องไปด้วยกันจึงจะเรียกว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย
ถ้ามีแต่เลือกตั้งยังบอกไม่ได้ว่าเป็นประชาธิปไตยหรือไม่
ต้องดูความเคลื่อนไหวและความคิดด้วยว่าเป็นไปในทางใด
ตัวระบบเป็นเพียงสังขารเท่านั้นต้องดูชีวิตดูจิตใจด้วย
เพราะเห็นทรงตัวได้ในแนวคิด
เดินสองขามีมือมีไม้ อาจเป็นคนหรือลิงก็ได้
ต้องดูให้ดี
ถาม
อาจารย์ดูแล้ว เห็นเป็นอย่างไร
ตอบ
ทักษิณาธิปไตยมีความคิดและความเคลื่อนไหวเป็นเผด็จการ
เห็นผู้คนเป็นเพียงเซลล์ของรัฐ
เป็นดินน้ำมันที่ต้องถูกปั้นแต่งโดยกระบอกเสียงโฆษณาชวนเชื่อและอามิสสินจ้างหลากรูปแบบ
ใช้ตัวระบบด้วยความคิดเผด็จการ
ข้าราชการต้องเป็นข้าของรัฐบาลไม่ใช่ข้าของบ้านเมือง
งบประมาณแผ่นดินต้องเป็นงบของนายกฯ ตั้งงบกลาง
งบกองสลากไปใช้ได้ตามอำเภอใจ
ช่วงเลือกตั้งก็ต้องเอามาใช้ผ่านหน่วยราชการผลิตสื่อหาเสียงให้พรรครัฐบาลสูญเงินแผ่นดินนับพันล้านบาท
ครั้นชนะเลือกตั้งแล้ว ประชาธิปไตยก็ไม่มีพื้นที่ทำงานเลย
ทั้งในสภา ในคณะรัฐมนตรี
และในตัวพรรคไทยรักไทยเอง
ที่ป๋าเหนาะเขาบอกว่าไม่ใช่รัฐบาลพรรคเดียว
แต่เป็นรัฐบาลคนเดียวนั้นถูกแล้ว และขอเติมไปอีกว่า
นี่ไม่ใช่การปกครองในระบบรัฐสภาอีกต่อไปแล้ว
เป็นระบบประธานาธิบดีแบบอีดี้อามีน
จะเต็มตัวอยู่แล้ว
ยังไม่เห็นกันอีกหรือ
ถาม
ในเมื่อระบอบประชาธิปไตยไทย
ถูกผีเผด็จการเข้าสิงสู่อย่างนี้
เราจะไล่ผีตัวนี้อย่างไร
ตอบ ถ้าเป็นผีเข้าจริงๆ ก็ดีสิ
จะได้ใช้มีดหมอ ใช้ใบหนาดฟาดมันเข้าไป
แต่นี่มันเป็นความฟั่นเฟือนในสมองของผู้คน
ที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
ต้องสู้กันด้วยข้อมูลข่าวสารการเรียนรู้สร้างเป็น
กระแสแห่งการรู้แจ้ง ขึ้นมาให้ได้
การเลือกตั้งในครั้งนี้คือโอกาสดีที่สุดที่จะผลักดันกระแสนี้ขึ้นมาให้เป็น
การเรียนรู้ของประชาชน โดยประชาชน
เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
ถ้าทำได้สำเร็จ
จะมีข่ายคนรู้ทันทักษิณเกิดขึ้นเต็มเมือง
มีข่ายการสื่อสารทั่วถึงกัน
เคลื่อนไหวเติบใหญ่ไปทั่วหัวระแหง
ความฟั่นเฟือนก็จะเลือนหายไป
ซึ่งก็คือการก่อนกำลังของผีเผด็จการนี้ไปในตัวนั่นเอง
ถาม
ถ้าวิธีคิดเป็นอย่างนี้ แล้วเราจะร้อง "ท้ากษิณณณณ
ออกไป" กันไปทำไม
ตอบ นั่นเป็นการต่อสู้อีกรูปแบบหนึ่ง
ผมก็ไปนั่งร่วมชุมนุมกับเขาด้วย
แต่ไปอย่างเป็นตัวของตัวเองไม่ใช่ม็อบ
ที่จะนำไปขวาไปซ้ายได้ตามใจนะครับ
ในที่สุดแล้วจะลงเอยกันอย่างไร
ยังผลให้เขาออกจากทำเนียบหรือไม่
ไม่มีใครทำนายได้
ผมได้แต่ขบคิดและนำเสนอแนวทางเอาชุดความคิดแบบทักษิณาธิปไตยออกไปจาก
บ้านเมือง
ให้ความลุ่มหลงฟั่นเฟือนมันบรรเทาลง
ให้เห็นเป็นแนวทางต่อสู้อีกยุทธศาสตร์หนึ่งเท่านั้นครับ
ถาม
ที่ว่าต้องอาศัยการเลือกตั้งครั้งนี้
สร้างกระแสรู้ทันทักษิณขึ้นมาให้ได้นั้น
หมายความว่าอย่างไรครับ
ตอบ
การเลือกตั้งเป็นโอกาสที่กระแสไม่เอาทักษิณ
จะสามารถระดมกำลังและสร้างชัยชนะร่วมกันได้อย่างกว้างขวางและเห็นเป็นรูปธรรมที่สุด
การเลือกตั้งปกติถ้าไม่เอาทักษิณก็ต้องไปเอาประชาธิปัตย์
มหาชน หรือชาติไทย
ทำให้รู้สึกอิหลักอิเหลื่อกันไม่น้อย แต่มาคราวนี้
ไม่มีภาพของกบเลือกนายอีกต่อไป
เสียงไม่เอาทักษิณจะต้องออกจากบ้านมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันให้มากที่สุด
แล้วกาช่องลงคะแนนไม่ขอเลือกใคร
ซึ่งก็คือไม่ขอไว้วางใจพรรคไทยรักไทย นั่นเอง
ได้เสียงนี้มากเท่าใดผีเผด็จการตัวนี้
ก็จะเสียเส้น หมดมุข กลายเป็นตัวตลก
มากขึ้นทุกที
ภาพน่าลุ่มหลงศรัทธาจะเลือนหายไปทุกขณะ
แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆ
จะอยู่ที่กระแสตื่นรู้ของสังคม ที่จะเริ่ม เรียนรู้
และมั่นใจในชัยชนะในพลังมวลชนที่ปรากฏตัวจากการรณรงค์ในครั้งนี้
การรวมตัวและเคลื่อนไหวจะเติบใหญ่ต่อไปโดยธรรมชาติ
ไม่ต้องรอการนำจากใคร
ตรงนี้คือการเริ่มต้นปฏิรูปการเมืองที่แท้จริงในส่วนความคิด
ความเคลื่อนไหว
หากภายหลังผสานด้วยการปฏิรูปตัวระบบคือรัฐธรรมนูญใหม่
เมื่อใด
ผีทักษิณาธิปไตยก็จะถูกไล่ออกไปจากจิตวิญญาณและสังขารของระบอบประชาธิปไตยไทยในที่สุด
ถาม
ทำอย่างนี้ไม่ผิดกฎหมายหรือครับ
ตอบ
นี่คือสิทธิพื้นฐานทางการเมืองของประชาชนที่จะปฏิเสธและขัดขืนเผด็จการในคราบประชาธิปไตย
รัฐธรรมนูญ มาตรา 65
ได้รองรับไว้ชัดเจนแล้วว่า
เราย่อมมีสิทธิขัดขืนพรรคการเมืองที่ยึดอำนาจในระบบโดยผิด
"วิถีทาง" ประชาธิปไตย
เป็นสิทธิโดยสมบูรณ์ที่มีอยู่แล้ว
และไม่มีกฎหมายใดมาแทรกแซงได้
ถาม
แล้วการรณรงค์ "ให้ช่วยกันไปไม่เลือกไทยรักไทย" นี่
ไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือครับ
ตอบ ไม่ผิดแน่นอน
เป็นสิทธิเด็ดขาดของเราที่จะกาบัตรเลือกตั้งช่องไหนก็ได้
เป็นสิทธิโดยชอบของเราที่จะสื่อสารถึงกันว่า
ควรเลือกหรือไม่เลือกอย่างนั้นอย่างนี้
ไม่ว่าเราจะเป็นพรรคการเมืองหรือไม่ก็ตาม
ทำกันได้ทุกคนทุกกลุ่มเป้าหมาย
ในกลุ่มพนักงานบริษัทก็ได้ ในมหาวิทยาลัยก็ได้
ในชมรมนักธุรกิจก็ได้ ศิษย์เก่าก็ได้
สภากาแฟพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง
ก็ช่วยกันทำได้ทั้งนั้น
เป็นสิทธิของเราที่ทำได้อยู่แล้วโดยไม่ต้องมีกฎหมายใดมารับรองเลย
สำหรับในกฎหมายเลือกตั้งนั้น
ก็ห้ามไว้แต่เพียงว่า
อย่ารณรงค์ไม่ให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
และห้ามใช้วิธีการที่ผิดกฎหมาย ใช้เงินทอง หรือข่มขู่
หรือใส่ร้ายป้ายสีด้วยความเท็จเท่านั้นเอง
ประเด็นรากฐานจริงๆ
จึงอยู่ที่ความตื่นรู้ของผู้คนเท่านั้น
ว่าจะตระหนักและกล้ายืนหยัดในสิทธิพื้นฐานทางการเมืองของความเป็นคนในข้อนี้หรือไม่เท่านั้นเอง
ถาม
ถ้าเราไม่แอนตี้การเลือกตั้ง
แต่ให้ช่วยกันไปใช้สิทธิแอนตี้ไทยรักไทยอย่างนี้แล้ว
แล้วใครควรจะเป็นคนเริ่มขบวนการรณรงค์ครั้งนี้ครับ
ตอบ
กลุ่มการรวมตัวนอกภาครัฐทั้งหมดทั้งที่เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ
ไม่ว่าทางการเมืองเช่นพรรคการเมือง หรือองค์กรนักศึกษา
กลุ่มผู้ใช้แรงงาน กลุ่มคณาจารย์
สมัชชาคนจนเหล่านี้ล้วนแต่ทำได้ด้วยตนเองทั้งสิ้น
อาจมีศูนย์กลางช่วยพัฒนาสื่อและข้อมูลต่างๆ
เท่านั้นก็ได้
อย่าจัดตั้งอย่าชี้นำอะไรกันให้มากนัก
เพราะการเบิกบานตามธรรมชาติเช่นดอกไม้บานร้อยดอกนั้น
คือธรรมชาติที่เป็นพลังสำคัญที่สุดของยุทธศาสตร์นี้
ถาม
มีอะไรจะฝากถึงพรรคฝ่ายค้านไหมครับ
ตอบ
ขอแสดงความชื่นชมในความเข้มแข็งทางปัญญาและจิตใจของทุกท่าน
นี่ไม่ใช่การชิงอำนาจขึ้นปกครองประเทศ
แต่เป็นการต่อสู้กู้ประชาธิปไตยและประเทศชาติคืนมาจากเผด็จการ
ท่านคงต้องเร่งเปลี่ยนวิธีคิดวิธีทำใหม่ให้ก้าวเดินไปพร้อมกับประชาชน
ขณะเดียวกันท่านต้องใช้โอกาสนี้พัฒนาตนเองให้พร้อมที่จะเข้าดูแลเยียวยาประเทศชาติหลังยุคทักษิณด้วยต้องขยายฐาน
ต้องสร้างนโยบาย และเตรียมผู้นำ
ให้ประชาชนมั่นใจและเชื่อถือยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
ผมเชื่อมั่นว่าหากท่านเดินทั้งสองแนวทางนี้ควบคู่กันไป
ท่านจะกลายเป็นคนใหม่ คิดใหม่ ทำใหม่
เพื่อชาติและประชาธิปไตยได้จริงๆ
ในบั้นปลาย
ถาม
แนวทางนี้จะสู้ตู้ ปณ. 888 ได้หรือครับ
ตอบ นั่นเป็นเทคนิคบิดเบือนมวลชน
เหมือนกับกรณีพับนกโปรยลงสามจังหวัด
เมื่อใดที่ทักษิณาธิปไตยเขาต้องการปกปิดซ่อนความรับผิดชอบของตนเองและประทับตราบาปให้กระแสต้าน
เขาจะชูจุดยืนส่วนรวมขึ้นมาทันทีว่าใครต้องการสันติบ้าง
หากต้องการก็ขอให้พับนกหรือส่งไปรษณียบัตรมาให้เขา
ทุกคนฟังแล้วก็ส่งมาทันทีเพราะต่างก็รักสันติอยู่แล้ว
ทำได้อย่างนี้เขาก็ได้ภาพรักสันติตามไปด้วย
กระแสต้านก็ตกเป็นผู้ก่อความไม่สงบไปในทันที
นี่คือแผนการตลาดที่หน้าด้านมาก
ใช้ปกปิดความรับผิดชอบ
และต้อนฝ่ายตรงข้ามให้โดดเดี่ยว
ล่อลูกค้าให้ติดเบ็ดได้ง่ายๆ เลยทีเดียว
คนที่ใช้กลยุทธ์แบบนี้กับประชาชนต้องเจ้าเล่ห์เจ้ากล
ไม่มีคำว่า "ความชอบธรรม"
อยู่ในพจนานุกรมเลยจริงๆ
ถาม
แล้วเขาจะใช้เทคนิคนี้ต่อสู้กับขบวนการรณรงค์เลือกตั้งแอนตี้ไทยรักไทย
อีกไหมครับ
ตอบ
เขาคงพยายามสู้สุดชีวิตว่านี่คือการทำลายระบบ
แต่ก็ไปไม่รอดเพราะนี่คือ การปฏิเสธระบอบของเขามากกว่า
เป็นการต่อสู้โดยสงบ ตามสิทธิพื้นฐานโดยแท้
ไม่เกี่ยวกับสมบัติส่วนกลาง คือความสงบสันติที่ตรงไหน
ตัวเองมีดีมีเด่นตรงไหนก็โฆษณามาสิครับ
ที่กล่าวหากันไว้ก็แก้ตัวมา ก็เท่านั้น
ซึ่งตรงนี้จะเป็นการต่อสู้ในด้านการสื่อสารที่ทัดเทียมกันมาก
เพราะเขาถูกกฎหมายเลือกตั้งกดคอเขาอยู่ว่า
ห้ามใช้สื่อวิทยุทีวีหาเสียง
ภายใต้เงื่อนไขนี้ยุทธศาสตร์ดอกไม้บานร้อยดอกนี่จะทำให้เขาตกเป็นฝ่ายตั้งรับไปตลอด
เปลี่ยนสถานะภาพจาก "ขาลง" ไปเป็น "ขาร่วง"
ได้เลยทีเดียวล่ะครับ
ผมขอขอบคุณฝ่ายค้านอีกครั้งหนึ่ง
ที่กล้าตัดสินใจให้โอกาสอันวิเศษเช่นนี้แก่ประชาชนและประชาธิปไตย
เพื่อเอาประเทศไทยของเราคืนมา