มากกว่า..1..ใน..3...ของวัน เราใช้เวลาอยู่ในห้องนอน..ค่ะ

การจัดห้องนอนที่ดี

ก็สามารถลดอาการภูมิแพ้...ได้นะ

การที่เราใช้เวลาอยู่ในห้องนอนนาน ๆ นี่เอง ทำให้เรารู้ว่าหากเราดูแลรักษาความสะอาดห้องนอนไม่ดีพอ ปล่อยให้มีความอับชื้น รกรุงรัง มีฝุ่นผงเกาะตามโต๊ะเครื่องแป้งมาก ๆ จะรู้สึกคัน แสบจมูก ในที่สุดอาการ " ภูมิแพ้" ที่เป็นอยู่ก็จะกำเริบขึ้นมาอีกได้

วันนี้เรามาจัดห้องนอนกันใหม่ดีกว่า

เริ่มแรก

จัดการกับเตียงและเครื่องนอน..ก่อนเลย

วางเตียงให้เหมาะสม เตียงนอนของคนภูมิแพ้ไม่ควรอยู่ใกล้ห้องน้ำเด็ดขาดเพราะห้องน้ำเป็นแหล่งสะสมความชื้นชั้นดี จะทำให้คุณมีความเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้มากขึ้นและหันหัวเตียงไปทางทิศที่สามารถรับแสงและลมได้

ใช้เตียงที่มีขาลอย เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาดแทนการใช้เตียงที่มีลิ้นชักเก็บของหลายช่อง เพราะเตียงลักษณะนี้จะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นได้ดี

เลือกเครื่องนอนที่ป้องกันการสะสมของฝุ่น ไม่ว่าจะเป็นหมอน ผ้าปูที่นอน ผ้านวม ควรเลือกชนิดที่ออกแบบมาเพื่อคนที่เป็นภูมิแพ้โดยเฉพาะ แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าผ้าธรรมดาสักนิดแต่ปลอดภัยกว่าค่ะ แล้วก็ควรเลือกหลีกเลี่ยงการใช้หมอนที่ทำจากยางหรือฟองน้ำเพราะใช้ไปนาน ๆ จะมีความชื้น เป็นเชื้อราได้ง่าย หมอนที่ทำจากนุ่นก็ไม่ควรใช้ค่ะ เพราะไรฝุ่นก็ชอบเหมือนกัน ที่สำคัญ ควรหมั่นทำความสะอาดเครื่องนอนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งนะจ๊ะ..

หลากสิ่งที่พึงละเว้นในห้องนอน

แม้ว่าห้องนอนจะเป็นห้องที่เราอยู่ในนั้นนานที่สุดในบ้าน แต่แท้ที่จริงแล้วห้องนอนควรใช้เพื่อการนอนหลับพักผ่อนเป็นประเด็นหลัก หากบางครั้งเราอาจจำเป็นต้องทำกิจกรรมอื่น ๆบ้าง แต่สิ่งที่คนเป็นภูมิแพ้ไม่ควรทำโดยเด็ดขาดก็คือ

หยุดตากผ้าในห้องนอน เพราะผ้าทำให้เกิดความอับชื้น
งดเลื้ยงสัตว์ที่มีขน ไม่ว่าจะเป็น หนู แมว สุนัข เพราะขนสัตว์เหล่านี้มักจะติดอยู่ตามผ้าขนหนู เตียงนอน พรม ผ้า โซฟา ที่หุ้มด้วยผ้าและไม่ควรนำสัตว์มานอนด้วยเด็ดขาดเพราะหากหายใจเอาขนสัตว์เข้าไปจะเป็นภูมิแพ้เพิ่มขึ้นค่ะ
หลีกเลี่ยงของสะสมทุกประเภท ห้องนอนไม่ควรมีของสารพัด สมบัติต่าง ๆ เช่น ตุ๊กตาตัวโปรด หนังสือธรรมะ กรอบรูป ฯลฯ เพราะเป็นแหล่งสะสมฝุ่น
ห้ามปูพรม เพราะทำความสะอาดยากแล้วพรมก็เป็นวัสดุที่อมฝุ่นและความชื้นค่ะ

หลายอย่างพึงปฏิบัติป้องกันภูมิแพ้

สิ่งที่ควรปฏิบัติเพื่อลดปัจจัยเสื่ยงของการเกิดภูมิแพ้ ทำได้ดังนี้จ้า

เปิดหน้าต่างรับแดดบ้าง ปล่อยให้แสงแดดและให้สายลมพัดโชยเข้ามาในห้องบ้าง จะช่วยให้อากาศภายในห้องหมุนเวียนถ่ายเทจะช่วยระบายความชื้นและเชื้อโรคต่าง ๆ และถูกกำจัดออกไปได้ค่ะ
ซักผ้าม่าน นำผ้าม่านไปทำความสะอาดบ้างเพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่น หรือใช้ผ้าม่านที่ทำจากพลาสติกหรือวัสดุอื่น ๆ แทนชนิดที่ทำจากผ้าฝ้าย เพราะทำความสะอาดง่ายกว่าค่ะ
หมั่นดูดฝุ่น จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการภูมิแพ้ที่กำเริบได้ ถ้าไม่มีก็ใช้การปัดกวาดเช็ดถูและรักษาความสะอาดอยู่เสมอก็ช่วยได้ค่ะ แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการปัดแรงๆ เพราะจะทำให้ฝุ่นกระจาย
ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ ควรล้างอย่างน้อย 3 เดือนครั้งค่ะ