ผมเขียนบันทึกพาดพิงถึงเรื่องปัญหาสุขภาพของตัวเอง เพื่อเป็นแง่คิด โดยเฉพาะเรื่องการปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง จนในที่สุดก็มีผลให้บานปลาย ยุ่งยากวุ่นวายโดยไม่จำเป็น ดังรายละเอียดใน บันทึกนี้ และ บันทึกนี้
ว่าจะจบกันแล้วเพราะมันชัดเจน แต่แล้วก็มีอันให้ต้องมาเขียนเพิ่มครับ เพราะมันอาจไม่ค่อย Happy Ending สักเท่าไรเสียแล้วก็ได้
เรื่องเดิมนั้นมาจบลงที่ว่าผมมีปัญหากับฟันกรามล่าง 2 ซี่สุดท้ายข้างซ้าย ผุมาก อุดแล้ว อุดอีก จนต้องปล่อยทิ้งและกะว่าจะถอนออกให้หมดเรื่องหมดราว แต่เจอหมอที่คลินิกกลับได้รับแรงจูงใจว่ารากฟันดีมาก ไม่น่าถอน แล้วก็ตัดสินใจทำครอบฟันโลหะเชื่อมต่อเป็นชิ้นเดียว คลุม 2 ซี่ ใส่ชั่วคราวลองดูราว 1 สัปดาห์ ผ่านมาจนผมมั่นใจมากว่าควรจะตรึงถาวรได้แล้ว ครั้งหลังสุดมันปวดมากๆจนนอนไม่หลับ ต้องใช้ยาแก้ปวดช่วยอยู่ตลอด เรียกว่าฟันกระทบกันไม่ได้เลย พอไปให้หมอกรอ ปรับระดับไม่ให้ชนกันก็ไม่ปวด ผมถึงได้สรุปเองว่าน่าจะหมดปัญหา ทั้งๆที่หมอก็ไม่แน่ใจอยากยึดชั่วคราวอีกรอบ เผื่อมีปัญหา ต้องรื้อมารักษารากฟันจะได้ทำง่าย แต่ผมกลับมั่นใจว่า ทำถาวรไปเลย และแล้วผ่านไปไม่กี่วันเมื่อลองใช้ขบเคี้ยวดูกลับมีอาการอักเสบ ปวดหนักแบบเดิมทั้งซีกซ้ายเลยทีเดียว แถมด้วยปวดหู และคออักเสบ ร่วมด้วย คราวนี้ก็ได้รับคำแนะนำว่าลองใช้ปฏิชีวนะ Amoxy ช่วยดูสัก 6 วัน ก็ได้ทำไปแล้วครับ ดีวันดีคืน จนนึกว่าผมคงไม่ต้องมาบันทึกอะไรอีกเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว
ที่เหงือกบวมก็หาย ที่ปวดแถวรากฟันลึกๆก็ไม่มี เมื่อวานนี้เลยทดลองใช้งานดูนิดหน่อย ตอนหัวค่ำ ด้วยการเคี้ยวผลไม้คือฝรั่งครับ แรกๆก็ดี แต่สักพักก็เริ่มรู้สึกกระเทือนไปถึงรากฟันของซี่ใน เลยเลิกทดลอง ผลที่ตามมาก็คือ มีอาการปวดเพิ่มขึ้นแม้ไม่มากนักแต่ก็ทำให้ลังเลใจเสียแล้วที่จะสรุปว่า มันจะจบด้วยดี
วันนี้ตื่นเช้ามาก็ยังมีอาการปวดอยู่บ้าง ทั้งที่รากฟัน กกหู และปวดหัวซีกซ้าย .. กำลังวาดภาพว่าตอนรื้อออกเพื่อรักษารากฟัน จะยากลำบากแค่ไหนกันหนอ .. ขณะเดียวกันก็ตั้งใจว่าจะลองถนอมเขาให้มากที่สุด ปล่อยให้พักโดยไม่ขอใช้งานสักช่วงยาวๆ .. โดยคิดว่ามันคงปรับตัวเข้าที่เข้าทางและใช้งานได้เป็นปกติในที่สุด ..
อะไรจะเกิดขึ้น จะ Happy Ending หรือ Painful Ending ก็คงไม่เขียนบันทึกใหม่เกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว .. ข่าวต่อจากนี้ จะดี จะร้าย ก็คงนำมาต่อท้ายแถวๆบันทึกนี้แหละครับ
ข้อคิด : ตัดไฟต้นลม .. ดีกว่าให้ไฟลาม แล้วค่อยตามดับไฟ .. อิ อิ อิ.
สวัสดีครับ อาจารย์
เรื่องฟันนี่เป็นเรื่องสำคัญมากเลยครับ อ.จัน ก็มีปัญหาต้องผ่ารากฟัน ส่วนผมก็ฟันเกโย้เย้ไปหมดทำความสะอาดยากมาก ทำให้พลอยเป็นแผลร้อนในได้ง่ายๆ ร่างกายมนุษย์เรานี้ทุกข์จริงหนอครับ
เรื่องของฟัน กับ ไฟ เป็นเรื่องที่เสียวทั้งคู่ ตอนเอาโลหะหมุนๆมาถูฟันเรา หมอรักษาโรคไม่เคยกลัว แต่กลัวหมอฟัน แต่ไม่ตัดไฟ ไฟก็จะลามทุ่งอย่างว่าครับ ที่จริงวงการแพทย์ทางทันต น่าคิดเทคโนโลยี่ที่สะดวก รวดเร็วลดความเสียว ขอบคุณ ขอให้โชคดีมีสุขครับ
แวะมาอ่านและทักทายหลังห่างหายค่อนข้างนาน
ใครไม่มีปัญหานับว่า"เป็นลาภอันประเสริฐ"
"ไม่เกิดกะใครย่อมไม่รู้สึก" ยืมคำของบางคนมา..แหะ ๆ
"ตัดไฟต้นลม .. ดีกว่าให้ไฟลาม แล้วค่อยตามดับไฟ" เห็นด้วยอย่างยิ่ง
ปล.ยังสบายดี ครับ
สวัสดีค่ะ อาจารย์
สวัสดีอาจารย์ Handy นะคะ
ปวดฟันกับกองไฟ.....คล้ายกันนะคะ
มันได้ลุก ลาม เลีย.....จุดติดแล้วยากจะกลับคืน
ถึงขั้นสูญเสีย......ไม่มากก็น้อย
ทำใจในทางร้ายที่สุดไว้ก่อน
คิดไว้จะแย่ถึง F หากได้ D ถือว่าค่อยยังชั่ว
จะหวังถึง A ....เหมือนไม่เคยมีไฟ
คงหวังยากพอ ๆ กับหวังการเมืองสงบสุข
ประวัติศาสตร์กำหนดปัจจุบัน
ปัจจุบันกำหนดอนาคต
อาจารย์ขา.....คิดในทางที่ดี
ดับได้ในกองเดียว.....อย่าให้เสียวไปซี่อื่น
ซี่ที่เหลือ....ตั้งหน้าตั้งตาดูแล...ตั้งแต่วันนี้
อย่าให้มีแม้แต่เศษหญ้า กิ่งไม้ เป็นเชื้อไฟ
เพราะไฟเรามีในตัวอยู่แล้วทุกคน
ก็เชื้อโรคในช่องปากไงคะ !!!
ไม่มีวันกำจัดให้หมดได้ 100 เปอร์เซ็นต์
เพื่ออนาคตของชาติ
เพื่อไม่ให้มีแม้แต่ควัน
เรียนรู้วิธีแยกเชื้อไฟ....ออกจากไฟ
ประเมินให้เกิดผลในหลักสูตรสอนนิสิต ดีไหมคะ ?
เตรียมว่าที่ครู..ให้รู้วิธีป้องกันไม่ให้เกิดกองไฟ
อาจารย์จะมีคุณูปการใหญ่หลวง
ต่อการสร้างเสริมให้เพิ่มจำนวนซี่ฟันปกติ
อยู่คู่กับว่าที่นักเรียนของว่าที่ครู...ลูกศิษย์ของอาจารย์
บุญที่ทำมารักษาฟัน รักษาสุขภาพ
สร้างเสริมชีวิตที่ยังต้องดำเนินไป
ให้แข็งแรงทั้งกาย ใจ สังคม
โดยเฉพาะวิธีคิดและจิตวิญญาณ
ให้กำลังใจ...นะคะ สู้ สู้
ขอให้อาจารย์หมดปัญหากับฟันเจ้าปัญหานะคะ
จาก เอกภาษาอังกฤษ
ขอให้อาจารย์หายปวดฟันไวไว
งั้นอาจารย์มีเวลา ก็มากินข้าวต้มกะผมเหมือนเดิมนะอาจารย์
ถอนทิ้งก็ดีนะอาจารย์
ขอขอบคุณทุกท่านครับ