โครงการพัฒนารถคัดแยกขยะจากกระบวนการดูดเสมหะในหอผู้ป่วย 3ข แผนกการพยาบาลศัลยกรรมและออร์โธปิดิกส์
โครงการพัฒนารถคัดแยกขยะจากกระบวนการดูดเสมหะ
ในหอผู้ป่วย 3ข แผนกการพยาบาลศัลยกรรมและออร์โทปิดิกส์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์
สมพร บุปผา ผู้ปฏิบัติการพยาบาล, นัยนา ศรีสะอาด ผู้ปฏิบัติการพยาบาล, จันทร์เพ็ญ ศิลาวิเศษ ผู้ปฏิบัติการพยาบาล,
วิลาวัณย์ อุ่นเรือน พยาบาล, ทิฆัมพร พหลทัพ พยาบาล
หอผู้ป่วย 3ข แผนกการพยาบาลศัลยกรรมและออร์โทปิดิกส์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์
ความสำคัญของปัญหา
หอผู้ป่วย 3ข ให้การดูแลผู้ป่วยศัลยกรรมที่ได้รับการผ่าตัด และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ส่งผลต่อการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่สัมพันธ์กับการใส่เครื่องช่วยหายใจ (Ventilator associated pneumonia ; VAP) ซึ่งจากสถิติการ เฝ้าระวังการติดเชื้อในหอผู้ป่วย 3ข ปี 2550 พบอัตราการเกิด VAP 6.78 ครั้ง ต่อ1000 วันที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ การเกิด VAP ในโรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลนานขึ้น สูญเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น โอกาสเสียชีวิตมากขึ้น จากปัญหาดังกล่าวคณะกรรมการควบคุมการติดเชื้อหอผู้ป่วย 3ข ได้หาแนวทางในการป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่สัมพันธ์กับการใส่เครื่องช่วยหายใจ โดยเน้นการปฏิบัติตามคู่มือการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลอย่างเคร่งครัด และมีการติดตามประเมินผลการปฏิบัติการพยาบาลในการดูดเสมหะให้ถูกต้องทุกเวร แต่การจัดเก็บอุปกรณ์สำหรับดูดเสมหะที่เตียงผู้ป่วยมีโอกาสทำให้เกิดการปนเปื้อนเชื้อโรคและการแพร่กระจายเชื้อได้ ดังนั้นจึงได้ทดลองพัฒนารถสำหรับการดูดเสมหะใช้เป็นครั้งคราว และรถคัดแยกขยะจากกระบวนการดูดเสมหะ
วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนารถคัดแยกขยะจากการกระบวนดูดเสมหะของผู้ป่วย
2. เพื่อให้การจัดการทิ้งขยะได้อย่างถูกต้อง
3. เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค
วิธีการศึกษา
โดยการนำกระบวนการ PDCA มาใช้ ตั้งแต่เดือนเมษายน - พฤษภาคม 2550 โดยทบทวนศึกษาการปฏิบัติ ประชุมปรึกษาหารือวิเคราะห์ปัญหาและหาแนวทางการปฏิบัติทดลองปฏิบัติในการใช้รถคัดแยกขยะจากการกระบวน การดูดเสมหะ เก็บรวบรวมข้อมูล โดยติดตามการปฏิบัติของบุคลากรในการทิ้งขยะ ประเมินความถูกต้องของการทิ้งขยะ และประเมินความพึงพอใจของบุคลากร
ผลการศึกษา
บุคลากรปฏิบัติในการทิ้งขยะร้อยละ 88 การทิ้งขยะและการคัดแยกขยะถูกต้องร้อยละ 90 ความพึงพอใจ
ของบุคลากรปฏิบัติการดูดเสมหะโดยใช้รถคัดแยกขยะมีความพึงพอใจมาก ทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านสะดวกใช้ร้อยละ 86 รูปแบบเหมาะสมร้อยละ 88 สามารถคัดแยกขยะได้ร้อยละ 89 อุปกรณ์ครบร้อยละ 85
ข้อเสนอแนะ
การคัดแยกขยะจากผู้ป่วยที่คาท่อหลอดลมคอ และมีการดูดเสมหะในท่อหลอดลมคอจะช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ จากรูปแบบเดิมที่เก็บอุปกรณ์สำหรับดูดเสมหะไว้ที่เตียงผู้ป่วย เป็นเตรียมใช้ แต่ละครั้ง และแยกขยะ
ทันทีแต่เนื่องรูปแบบของรถที่ดัดแปลงจากรถเข็นอ่างเช็ดตัวผู้ป่วยต้องพัฒนารูปแบบที่เหมาะสมต่อไป
พี่ๆสวยกันทุกคนเลย ชาวติดเชื้อ...อิอิอิ
ขอบคุณคะ
คนสวยที่สุดเป็นคุณนายผอโรงพยาบาลคะ พี่แดง ให้กำลังน้อง ๆในหน่วยงานดีมาก ชาวติดเชื้อจริง ๆ อีกภาพคะ เป็นภาพที่น้อง ๆผู้นำเสนอผลงานรับรางวัล