กิจกรรมส่งเสริมการอ่านของนักเรียน
จากการที่ได้ศึกษาหนังสือคู่มือการสอนภาษาไทย นักเรียนช่วงชั้นที่ ๒ (ป.๔-๖) ที่รวบรวมเขียนไว้โดย รศ.สุนันทา มั่นเศรษฐวิทย์
๑.เนื้อหาที่น่าสนใจ เป็นหนังสือที่ให้ครูที่สอนช่วงชั้นที่ ๒ (ป๔-๖) ใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการสอนอ่าน ให้นักเรียนสามารถใช้การอ่านเป็นเครื่องมือแสวงหาความรู้และเสริมสร้างเจตคติที่ดีต่อการอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๒.สาระสำคัญของเนื้อหาโดยสรุป จากการได้อ่านหนังสือเล่มนี้พบว่า นักเรียนต้องได้รับการพัฒนาทักษะการอ่านควบคู่กับกระบวนการคิด อ่านเก่งและอ่านเร็วไม่สามารถเกิดได้ด้วยการฝึกเพียง ๒-๓ ครั้ง แต่เป็นทักษะที่ต้องพัฒนาอย่างสมำเสมอ การที่ให้นักเรียนฝึกอ่านทุกวัน มีนิสัยรักการอ่านและติดตามข้อมูลข่าวสารจากสื่ออยู่เป็นนิจ ครูต้องเป็นผู้รอบรู้สามารถวิเคราะห์และวินิจฉัยเรื่องราวต่างๆ ที่ได้รับอย่างดีที่สุดเพื่อชี้แนะให้นักเรียนรู้จักเลือกอ่านและมีวิธีอ่านอย่างถูกต้องเหมาะสม และต้องรู้วิธีสอนเรื่องราวใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอ่านที่ครูผู้สอนต้องพิจารณาเลือกนำไปใช้ให้เหมาะสมกับนักเรียน และเป็นเครื่องมือแสวงหาความรู้ สิ่งสำคัญควรให้นักเรียนเข้าใจด้วยว่า ปัจจุบันในโลกแห่งข้อมูลข่าวสาร ความรู้ที่ได้รับมิได้นำไปใช้ในการพัฒนาคนเองเท่านั้น แต่ต้องมองให้ไกลในฐานะที่นักเรียนเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ในชาติ ในโลก ความรู้ที่เราได้จากการอ่านจะช่วยพัฒนาชาติและโลกให้น่าอยู่ได้อย่างไร
ดังนั้น ความหมายของผู้ที่อ่านเก่ง คือ ผู้อ่านแล้วนำความรู้จากการอ่านมาพัฒนาสังคมได้โดยสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ เข้าใจบุคคลในสังคมและสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ลักษณะเช่นนี้จึงจะถือว่าเป็นผู้อ่านที่มีความสามารถ ผู้ที่อ่านมากก็จะเข้าใจปัญหาและมีความเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์มากขึ้น นอกจากนี้ผู้ที่อ่านเก่งจำเป็นจะต้องรู้จักใช้กลวิธีการอ่านโดยเลือกใช้วิธีอ่านที่หลากหลาย ใช้วิธีอ่านได้สอดคล้องกับจุดหมายควบคู่กับการพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นกับตนเอง อย่างไรก็ตามการอ่านเก่งอย่างเดียวย่อมไม่เป็นการเพียงพอต้องเป็นผู้อ่านเร็วด้วย ครูต้องให้นักเรียนเข้าใจตรงกันว่า การอ่านเร็ว หมายถึง การรู้จักใช้อัตราเร็วในการอ่านได้เหมาะสมกับความยากง่ายของสื่อที่อ่าน โดยสามารถจับใจความได้ถูกต้องด้วยเหตุนี้การอ่านเก่ง อ่านเร็วจึงเป็นหัวใจสำคัญของนักเรียนต้องได้รับการพัฒนาควบคู่กับกระบวนการคิด
๓. แง่คิดที่ได้จากเนื้อหา การอ่านเก่งอ่านเร็วไม่สามารถเกิดขึ้นได้ภายในระยะเวลา ๒-๓ ครั้งหรือ ๒-๓ วัน การอ่านต้องมีการพัฒนาทุกวัน แต่การที่จะให้นักเรียนอ่านทุกวันเพื่อติดตามข้อมูลกล่าวสาร ครูต้องเป็นผู้รอบรู้ในข่าวสารและเรื่องราวต่างๆ และเป็นผู้กรองข่าวได้ดีที่สุด เพื่อชี้แนะให้นักเรียนเลือกอ่านในสิ่งที่เหมาะสมและถูกต้องที่สุด นอกจากนี้ครูที่สอนอ่าน ต้องเป็นนักอ่านด้วย และต้องรอบรู้วิธีสอนอ่าน วิธีอ่าน และสื่อการอ่านที่สามารถแนะนำนักเรียนได้ เลือกใช้วิธีสอนที่แตกต่าง สาธิตวิธีอ่านให้นักเรียนปฏิบัติตามและนำไปใช้ให้ถูกต้อง
ลงชื่อ นายนรินทร์ ลีกระโทก บันทึก
ความเห็น (1)
บันทึกนี้นับเป็นบันทึกการเรียนรู้ของกลุ่ม 2 หรือไม่คะ หรือเป็น บันทึก ที่อยู่ใน "แสดงความคิดเห็น" ของ อ. สมหวัง ช่วยแจ้งด้วยนะคะ