ดิฉันรู้สึกเคอะเขินไม่เบาเลย เมื่อโอกาสและเวลาอำนวยให้กลับมาเขียนบล็อคบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ อีกครั้ง และหากท่านเคยผ่านตาเรื่องราวเกี่ยวกับ Mobile Unit มาบ้างแล้ว ดิฉันคิดว่าท่านอาจคุ้นเคยสำนวนการเขียนของดิฉันก็เป็นได้
การหายหน้าหายตาจากการ ลปรร. ทางบล็อคไปนั้น ไม่ได้หมายความถึงการหยุดทำงานของ Mobile Unit แต่อย่างใด เรายังคงดำเนินกิจกรรมกันอย่างต่อเนื่องเช่นเคย วันนี้ดิฉันขอเริ่มการรายงานด้วยภาพและคำอธิบายอันบางเบา เพื่อเรียกน้ำย่อยในการเขียนก่อนค่ะ ก่อนจะรายงานภาพและเรื่องราวหนักๆ กันต่อไป
ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 12-13 กรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา ทีมหน่วยบริการคลื่อนที่ เพื่อพัฒนาสุขภาพและอาชีพประชาชน มหาวิทยาลัยนเรศวร (Mobile Unit) ได้ออกให้บริการ ณ โรงเรียนไทรย้อยพิทยาคม ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
ในครั้งนี้คณะมนุษยศาสตร์ เป็นหนึ่งใน 16 คณะ ที่ได้ออกให้บริการตามคำร้องขอความต้องการจากทางพื้นที่ ต่อเนื่องจากการสำรวจพื้นที่แล้วพบว่า โรงเรียนต้องการซ่อมอุปกรณ์ดนตรีไทยหลายชนิด รวมไปถึง การขาดบุคลากรที่เชี่ยวชาญเพื่อสอนดนตรีไทยชนิดหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า "อังกะลุง" เป็นเหตุให้คณะมนุษยศาสตร์เป็นผู้ตอบโจทย์ให้กับพื้นที่ในด้านนี้ โดยการส่งบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ไปสอนโดยตรง
และนี่เป็นครั้งแรกของดิฉันค่ะ ที่ได้มีโอกาสนั่งฟังเสียงอังกะลุงใกล้ๆ แบบนี้ ขั้นตอนการสอนก็ช่างละเมียดละไม จังหวะและความสามัคคีของผู้เล่นเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะต้องเล่นต่อเนื่องกันเป็นวง และส่งต่อจังหวะกันอย่างต่อเนื่อง
เสียงอังกะลุง...ไพเราะแบบนี้นี่เอง ไพเราะจนทำให้ดิฉันนั่งฟังเพลินจนเกือบลืมทานมื้อกลางวันเลยทีเดียว
ขอบคุณทีมผู้สอนจากคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ทำให้ความฝันของคุณครูและเด็กนักเรียนโรงเรียนไทรย้อยพิทยาคมเป็นจริง และหวังว่าทีมอังกะลุงที่ได้รับเคล็ดวิชาไปนี้จะสืบสานความไพเราะต่อไปอย่างต่อเนื่องค่ะ
อยากให้เด็กๆ เป็นแบบนี้ทุกโรงเรียน