หลังจากที่เคยเขียนบันทึกทบทวนเกี่ยวกับการเรียนทิ้งไว้หลายอาทิตย์แล้วค่ะ
วันนี้เลยมาเขียนต่อให้จบในเรื่องของกฎหมายแพ่ง
สาเหตุที่เว้นไว้หลายอาทิตย์เพราะว่าต้องการเรียนให้จบทีละเรื่องๆไปค่ะ
ซึ่งในบันทึกก่อนค้างไว้ในเรื่องของการเกิดและการสิ้นสุดสภาพบุคคลไว้ค่ะ
วันนี้ขอบันทึกต่อในเรื่องของผู้หย่อนความสามารถ ซึ่งที่มีใครบ้างนั้น
ที่กฎหมายได้กำหนดให้เป็นผู้ย่อนความสามารถ
และมีกฎหมายมาตราใดบ้างที่เกี่ยวข้องมาดูกันค่ะ
ความสามารถ
บุคคลที่จัดให้เป็นบุคคลหย่อนความสามารถมีดังนี้ค่ะ
1.ผู้เยาว์ คือผู้หย่อนความสามารถ
มาตรา19
บุคคลย่อมพ้นจากสภาวะผู้เยาว์และบบรลุนิติภาวะเมื่อมีอายุครบ
20ปีบริบูรณ์
มาตรา20
ผู้เยาว์ย่อมบรรลุนิติภาวะเมื่อทำการสมรสหากการสมรสนั้นได้ทำตามบทบัญญัติตามมาตรา1448
มาตรา1448
การสมรสจะทำได้เมื่อชายและหญิงมีอายุ 17
ปีบริบูรณ์แล้วแต่ในกรณีที่มีเหตุอันสมควรศาลอาจทำการอนุญาตให้ทำการสมรสก่อนนั้นก็ได้
บุคคลที่พ้นสภาพผู้เยาว์
1ตามผลของกฎหมายตามมาตรา 19
2การสมรสที่ดำเนินการตามกฎหมาย
การทำนิติกรรมของผู้เยาว์
***มาตรา21
ผู้เยาว์จะทำนิติกรรมใดๆต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน
การใดๆที่ผู้เยาว์ได้ทำลงโดยปราศจากความยินยอมเช่นว่าเป็นโมฆียะ
เว้นแต่จะบรรบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
มาตรา22
ผู้เยาว์อาจทำการใดๆได้ทั้งสิ้นหากเป็นเพียงเพื่อจะได้ไปซึ่งสิทธิ์อันใดอันหนึ่งหรือเป็นการเพื่อให้บุคคลนั้นพ้นจากหน้าที่อันใดอันหนึ่ง
จากมาตรา22 เช่น
ผู้เยาว์สามรถรับการปลดหนี้จากเจ้าหนี้ได้ การรับทรัพยื เป็นต้น
มาตรา23
ผู้เยาว์อาจทำการใดๆได้ทั้งสิ้นซึ่งเป็นการต้องทำเองเฉพาะตัว
มาตรา24
ผู้เยาว์อาจทำการใดๆได้ทั้งสิ้นซึ่งเป็นการสมแก่ฐานานุรูปแห่งตนและเป็นการอันจำเป็นในการดำรงชีพสมควร
มาตรา25
ผู้เยาว์อาจทำพินัยกรรมได้เมื่ออายุครบ 15ปีบริบูรณ์
ความยินยอมให้ผู้เยาว์ประกอบธุรกิจการค้า
มาตรา27
ผู้แทนโดยชอบธรมอาจให้ความยินยอมแก่ผู้เยาว์ในการประอบธุรกิจทางการค้าหรือธุรกิจอื่นหรือในการทำสัญญาเป็นลูกจ้างในสัญญาจ้างแรงงานในกรณีที่ผู้แทนโดยชอบธรรมไม่ให้ความยินยอมโดยมีเหตุอันสมควรผู้เยาว์อาจร้องขอต่อศาลให้สั่งอนุญาติได้
ในความเกี่ยวพันธ์กับการประกอบธุรกิจหรือการจ้างแรงงานตามวรรคหนึ่งให้ผู้เยาว์มีฐานะเสมือนดังบุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว
2. คนไร้ความสามารถ คือ
คนวิกลจริตที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ
ต้องอยู่ในความอนุบาลของผู้อนุบาล
การทำนิติกรรมของคนไร้ความสามารถแม้ได้รับความยินยอมจากผู้อนุบาลก็ถือเป็นโมฆียะ
**โมฆียะ คือ
นิติกรรมที่มีความสมบูรณ์แต่ผู้มีส่วนได้เสียใช้สิทธิ์บอกล้างนิติกรรมนั้นเป็นโมฆียะเสียเปล่ามาตั้งแต่ต้นก็ได้
มาตรากฎหมายที่เกี่ยวข้องมีดังนี้ค่ะ
มาตรา28
บุคคลวิกลจริผู้ใดถ้าคู่สมรสก็ดี ผู้บุพการี กล่าวคือ บิดา มารดา ปู่
ยา ตา ยาย ทวด ก็ดี ผู้สืบสันดารกล่าวคือ ลูก หลาน เหลน ลื่อ ก็ดี
ผู้ปกครองหรือผู้พิทักษ์ก็ดี ผู้ปกครองดูแลบุคคลนั้นอยู่ก็ดี
หรือพนักงานอัยการก็ดี
ร้องขอต่อศาลสั่งให้บุคคลวิกลจริตผู้นั้นเป็นบุคคลไร้ความสามารถศาลสั่งให้บุคคลวิกลจริตผู้นั้นเป็นบุคคลไร้ความสามารถก็ได้
มาตรา29
การใดๆอันบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นบุคลลไร้ความสามารถได้กระทำลงการนั้นเป็นโมฆียะ
มาตรา30
การใดๆอันบุคคลวิกลจริตซึ่งศาลยังมิได้สั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถได้กระทำลงการนั้นการนั้นจะเป็นโมฆียะก็ต่อเมื่อได้กระทำลงในขณะบุคคลนั้นวิกลจริตอยุ่และกรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้รู้แล้วด้วยว่าคู่กรณีเป็นคนวิกลจริต
3.คนเสมือนไร้ความสามารถ
คือ บุคคลที่ปรากฎว่าไม่สามารถจัดทำการงานของตนเองได้เพราะมีกายพิการ
หรือจิตฟั่นเฟือน แต่ไม่ถึงขนาดวิกลจริต หรือประพฤติสุรุยสุร่าย
เสเพลเป็นอาจิณ
และศาลได้สั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถให้อยุ่ในความพิทักษ์
มีมาตราที่เกี่ยวข้องดังนี้ค่ะ
มาตรา32 บุคคลใดมีกรพิการ
หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือประพฤติสุรุยสุร่าย เสเพลเป็นอาจิณ
หรือติดสุรายาเมา
หรือมีเหตุอื่นใดทำนองเดียวกันนั้นจนไม่สามารถจะทำงานโดยตนเองได้
หรือจัดกิจการไปในทางที่อาจจะเสื่อมเสียแก่ทรัพย์สินของตนเองหรือครอบครัวเมื่อบุคคลตามที่ระบุในมาตรา28
ร้องขอต่อศาล
ศาลจะสั่งให้บุคคลนั้นเป็นคนเสมือนคนไร้ความสามารถก็ได้
บุคคลซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถตามวรรคหนึ่งต้องจัดให้อยู่ในความพิทักษ์ผู้พิทักษ์...
มาตรา34
คนเสมือนไร้ความสามารถนั้นต้องได้รับความยินยอมของผู้พิทักษ์ก่อนแล้วจึงจะทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ได้
๑) นำทรัพย์สินไปลงทุน
๒) รับคืนทรัพย์สินที่ไปลงทุน ต้นเงินหรือทุนอย่างอื่น
๓) กู้ยืมหรือให้กู้ยืมเงิน ยืมหรือให้ยืมสังหาริมทรัพย์อันมีค่า
๔)
รับประกันโดยประการใดๆอันมีผลให้ตนต้องถูกบังคับชำระหนี้(เป็นผู้ค้ำประกัน)
๕)
เช่าหรือให้เช่าสังหาริมทรัพย์ มีกำหนดระยะเวลาเกินกว่า 6 เดือน
หรืออสังหาริมทรัพย์มีระยะเวลากำหนดเกินกว่า 3 ปี
๖)
ให้โดยเสน่หาเว้นแต่การให้ที่พอควรแก่ฐานานุรูป เพื่อการกุศล การสังคม
หรือตามหน้าที่ธรรมจรรยา
๗)
รับการให้ให้โดยเสน่หาที่มีเงื่อนไขหรือค่าภาระติดพันธ์หรือไม่รับการให้โดยเสน่หา
๘)
ทำกรอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจะได้มาหรือปล่อยไปซึ่งสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์อันมีค่า
๙).....
ที่ ... ไว้คือว่ายังมีอื่นๆอีกค่ะ
ในที่นี้ยกมาเพียงบางส่วนเท่านั้น
โหหหห!! ไม่เคยเขียนบันทึกออกแนววิชาการขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ 555+
ผิดพลาดประการขออภัยด้วยนะค่ะ เป็นการทบทวนเนื้อหาวิชากฎหมายธูรกิ1
ตามที่ได้เรียนมาเฉยๆค่ะ
หากท่านใดสนใจจะศึกษาข้อมูลเพิ่มเดิมได้จากเว็บนี้นะค่ะ
ขอบคุณค่ะ....