ดูงานที่ฮ่องกง...ได้เรียนรู้อะไร (๒)
จากบันทึก ดูงานที่ฮ่องกง...ได้เรียนรู้อะไร (๑) นี้ ที่ดิฉันได้รับมอบหมายไปศึกษาดูงานทางด้านการพัฒนาบุคลากร (Human resource management) ที่ Hong Kong Baptist University และ Hong Kong University …จึงขอต่อเนื่องสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้นะคะ
งานด้านการจัดการบุคคลที่ Hong Kong Baptist University แบ่งออกเป็น 4 มิติ คือ
1. Recognition, Job Satisfaction & Sense of Achievement
2. Competitiveness of Pay & Benefits Package
3. Training, Development & Career Advancement Opportunities
4. Work Environment, Interpersonal Relationship & Sense of Belonging
สำหรับมิติที่ 1-3 นั้นดิฉันคิดว่าหลายหน่วยงานได้มีข้อกำหนดไว้อย่างชัดเจนแล้วในเรื่องของเงินเดือน ค่าตอบแทน สวัสดิการ ความก้าวหน้า การฝึกอบรม และสัมมนาต่างๆ
ดิฉันสนใจในมิติที่ 4 ค่ะ ดิฉันมองว่าเรายังขาด หรือยังทำได้ยาก อันอาจเนื่องมาจากงบประมาณจำกัดหรือผู้ใหญ่คำนึงถึงเฉพาะงานโดยลืมนึกถึงคนหรือบุคลากรที่มีความรู้สึก อารมณ์ จิตใจ และความรัก (ที่มีต่อเพื่อร่วมงานและองค์กร)...
ที่นี่ นอกจากจะคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่สะอาด สะดวก สวยงาม เหมาะแก่การทำงานแล้ว สิ่งหนึ่งที่คำนึกถึง คือ เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน/ผู้ร่วมงาน รวมถึงความรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ อันจะก่อให้เกิดความรัก ความผูกพันต่อองค์กร
Hong Kong Baptist University
โดยฝ่ายทรัพยากรบุคคล จึงได้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อน/ผู้ร่วมงาน รวมถึงความรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ ... มาดูตัวอย่างกิจกรรมที่เขาจัดนะคะ
- การปฐมนิเทศบุคลากรที่เข้ามาใหม่ โดยนอกจากจะแนะนำให้รู้จักกับระเบียบ กฎเกณฑ์ งานต่างๆแล้ว ยังพาสมาชิกใหม่ไปรู้จักกับสถานที่ต่างๆในมหาวิทยาลัย และบุคลากรในหน่วยงานด้วย
- กิจกรรมการสร้างสัมพันธ์ระหว่างบุคลากร ได้แก่ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระหว่างกลุ่มงาน การจัดกิจกรรมให้กับกลุ่มผู้ที่มีความสนใจร่วมกัน เช่น
-
เชิญวิทยากรด้านการเลี้ยงเด็กมาให้คำแนะนำและอบรมแก่บุคลากรที่มีลูกเล็ก
-
รวมกลุ่มผู้ที่สนใจการทำงานฝีมือ (ถักนิ้ตติ้ง โครเช) มาแลกเปลี่ยนกันและสอนกัน
-
เชิญวิทยากรด้านการดูแลสุขภาพออกกำลังกายมาให้ความรู้และฝึกฝนให้
-
มีการทานข้าวเที่ยงร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้
-
โดยผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมรับผิดชอบเฉพาะค่าอาหารของตนเอง ส่วนวิทยากรนั้นทางมหาวิทยาลัยจัดหาให้
-
มีสถานที่จัดกิจกรรมชั่วโมงแห่งความสุข (การร้องเพลง karaoke)
- กิจกรรมการสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กร เช่น
-
การจัดทัศนศึกษาในมหาวิทยาลัยให้กับบุคคลในครอบครัวของบุคลากร เพื่อให้คนในครอบครัวได้ร่วมภาคภูมิใจกับองค์กร และงานของบุคคลากร
-
จัดทัศนศึกษาให้กับบุคลากรและครอบครัวของหน่วยงาน เพื่อสร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกันทั้งครอบครัว (บุคลากรสนับสนุนค่าใช้จ่ายคนละครึ่งกับมหาวิทยาลัย)
-
การจัดงานปีใหม่ให้กับบุคลากร (ฉลองตรุษจีน)
-
กิจกรรมที่เรียกว่า Fun Fun Bazaar (อันนี้ไม่แน่ใจว่ามีอะไรบ้าง)
-
การเลี้ยงฉลองวันพ่อ วันแม่ วันเลขานุการ วันคริสต์มาส และการจัดการประกวดการร้องเพลง karaoke
- มีการจัดให้คำปรึกษาในด้านการทำงานแก่บุคลากร
- มีห้องอเนกประสงค์ สำหรับเป็นแหล่งเรียนรู้ร่วมกัน
Hong Kong University
มีคำสำคัญอยู่คำหนึ่งที่โดนใจมาก คือ คำว่า “University Family” เขาอธิบายให้ฟังว่า “เราคือคนในครอบครัวเดียวกัน” หมายถึง อาจารย์ บุคลากร นักศึกษา ศิษย์เก่า คือ คนในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่แต่พูดเฉยๆ ทำด้วย เช่น
-
ขอให้ศิษย์เก่าที่มีงานทำแล้วช่วยเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาฝึกงานให้กับศิษย์ปัจจุบัน
-
เชิญบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือสำคัญในชุมชนมาร่วมงานเลี้ยงในวาระต่างๆ และเปิดโอกาสให้นักศึกษาปัจจุบันได้พบปะพูดคุย หรือร่วมงานเลี้ยงเพื่อมุมมองที่กว้างขึ้น แถมเป็นการฝึกเข้าสังคม แถมได้รู้จักผู้ใหญ่ซึ่งอาจช่วยหางานทำด้วย
ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้ศิษย์เก่ารู้สึกอบอุ่น และรู้สึกว่ายังเป็น “ครอบครัวเดียวกัน” และพร้อมจะบริจาคเงินช่วยเหลือมหาวิทยาลัย
จริงๆแล้วการหันมาให้ความสนใจที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดี ความคุ้นเคยสนิทสนมระหว่างบุคลากร รวมถึงความรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรนั้น ทั้ง 2 มหาวิทยาลัยบอกว่า เพิ่งมาดำเนินการ และให้ความสำคัญเมื่อ 3-4 ปีมานี้เอง โดยเริ่มที่จะมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อบุคลากร … ดังนั้นหากเราจะเริ่มบ้างก็ยังไม่สายใช่มั้ยค่ะ ...
จากแต่เดิม ดิฉันคิดไม่ออกเลยว่าจะสร้างให้คนรักองค์กรได้อย่างไร? ... คราวนี้เริ่มจะมองเห็นรางๆ แล้วค่ะ ... เย้...
เมื่อครั้งดิฉันช่วยงานที่ศูนย์บริการวิชาการ มข ดิฉันก็มีแนวคิดในแง่การให้บริการบุคลากรบ้าง ไม่ใช่แต่เน้นให้ชุมชนภายนอกอย่างเดียว ดิฉันจึงของบประมาณจัด “โครงการอบรมพัฒนาทักษะศิลปะเด็ก” ให้กับบุตรหลานของบุคลากร ในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน ซึ่งทั้งเด็กๆ และผู้ปกครองชอบมาก... แม้ดิฉันจะไม่ได้อยู่ที่ศูนย์บริการวิชาการแล้ว แต่เมื่อดิฉันได้พบกับผู้ปกครองที่เคยส่งบุตรหลานมาเข้าร่วมกิจกรรม ก็ถามเสมอว่าเมื่อไหร่จะมีอีก... ต้องบอกว่า ไม่ได้อยู่ที่ศูนย์บริการวิชาการนั้นแล้วค่า....
สมาชิกในกลุ่มดิฉัน เมื่อกลับมาจากการดูงาน เราได้ประชุมเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนและสรุปร่วมกันว่าเราได้เรียนรู้อะไรบ้าง และเราจะนำมาพัฒนาตน พัฒนาหน่วยงาน และองค์กรอย่างไร ... ซึ่งเมื่อสรุปได้แล้วเราก็ได้ไปนำเสนอผลจากการศึกษาดูงานที่ฮ่องกง ... จากนั้นเราประชุมกันอีกครั้ง เพื่อช่วยกันให้ข้อคิดเห็นโครงการของผู้นำการเปลี่ยนแปลงของแต่ละคนที่จะนำเสนอต่อมหาวิทยาลัย...
จากการประชุมทั้งสองครั้งนี้ สมาชิกได้เกิดแรงบันดาลใจ และความสนิทสนมคุ้นเคย และสนุกสนานในการพูดคุยแลกเปลี่ยน และสมาชิกกลุ่มเรา ได้ตกลงร่วมกันที่จะตั้งชื่อกลุ่มว่า “HR4” และ มีข้อตกลงร่วมกันที่จะพบเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเดือนละครั้ง รวมทั้งจะเสนอโครงการ (อาสา) เพื่อดำเนินกิจกรรมร่วมกันด้านการพัฒนาบุคลากรต่อฝ่ายทรัพยากรบุคคล...สู้ๆๆ
จบการรายงานการไปศึกษาดูงานที่ฮ่องกงค่ะ
ความเห็น (16)
สวัสดีครับ
ดอกไม้สวยจังเลย ;)
กำลังสนใจเรื่องทรัพยากรมนุษย์อยู่พอดีครับ
อาจารย์สบายดีนะครับ ผมไม่ค่อยได้แวะมา
เรียน ท่านรองแป๋ว Sence of belonging บางครั้งเราก็ Too Much เป็นเจ้าของมากไป รูปดอกไม้ฮ่องกง สวยครับ
ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ครับ
ดอกไม้ก็สวยครับ
สวัสดีค่ะอ.แป๋ว
บุคลากรสำคัญมากจริงๆค่ะ เลยได้ความรู้มากมายเลยค่ะ จากอ.แป๋วไปดูงานในครั้งนี้ โอ้โห..ฮ่องกงเค๊าก็ให้ความสำคัญและทำจริงๆจังๆ มาไม่นานนี่เอง ของเราก็น่าจะเริ่มได้เหมือนกันนะคะ เอาใจช่วยค่ะ ให้เอาไอเดียใหม่ๆทำให้คนที่ทำงานมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของด้วยกันนะคะ
สวัสดีครับ
- ตามมาซึมซับรับความงามจากภาพ และรับความรู้จากเรื่องครับ
- ขอบคุณครับ
ตามอ่านเก็บความรู้ให้ครบตอนค่ะ อาจารย์เล่าได้ชัดเจน อ่านตอนวิทยากรกระบวนการมาแล้วด้วยค่ะ ได้ความรู้จากการถ่ายทอดของอาจารย์ดีมาก ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ ธ.วัชชัย
ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ ที่แวะมา ช่วงนี้เดินทางบ่อยค่ะ มีเรื่องราวหลากหลายเรื่องที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ แต่ก็ผลัดวันประกันพรุ่งจนลืมๆ ประเด็นเรื่องราวที่อยากเล่าค่ะ ... แหะ ๆ ๆ
ขอโทษอาจารย์ด้วยค่ะ ช่วงนี้ไม่ได้แวะเวียนไปเยี่ยมอาจารย์ที่บล็อก ขดารไฟฟ้า ในช่วงนี้เลยค่ะ
เรียน อ.JJ ที่เคารพ
"Sence of belonging บางครั้งเราก็ Too Much เป็นเจ้าของมากไป" เห็นด้วยมากๆค่ะ ว่า หากรู้สึกมากไป จนกลายเป็น "หวง" และคิดถึงส่วนตน มากกว่า ส่วนรวม ค่ะ
สวัสดีค่ะท่านอัยการชาวเกาะ
ขอบคุณมากค่ะ
ติดตามและแอบไปเรียนหนังสือกับท่านด้วยค่ะ..ขอบคุณท่านอัยการเช่นกันค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณอุ๊
คุณอุ๊สบายดีนะค่ะ ขอบคุณคุณอุ๊มากค่ะ ที่ติดตามแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ
เนื่องจากเทคโนโลยี ในสมัยนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก และพี่คิดว่ามีผลต่อพฤติกรรมและแนวคิดของผู้คนด้วย หากการบริหารบุคคลไม่เปลี่ยนแปลงก็ย่อมทำให้องค์กรมีปัญหาได้ นักบริหารบุคคลได้กล่าวไว้ว่า "หากเจาะลึกๆ ลงไปในปัญหา จะพบว่า "คน" คือ สาเหตุแห่งปัญหา" ... จึงทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนเสมอ และหากไปถูกทางก็จะทำให้องค์กรอยู่ได้และเจริญ เติบโต พัฒนาได้อย่างยั่งยืน
สวัสดีค่ะอาจารย์ Handy
ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ ที่ติดตามบันทึกค่ะ
อาจารย์สบายดีนะคะ...
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
ด้วยความยินดี ครับผม ... ได้ผลอย่างไร มาเล่าสู่กันฟังด้วยนะค่ะ ... ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ คุณนายดอกเตอร์
ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ ชอบบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติรอบๆบ้านของอาจารย์มากค่ะ
สวัสดีค่ะ อ.แป๋ว
- ไม่ได้พบกันแป๊บๆ...อาจารย์แป๋วไปฮ่องกงละรึเนี่ย...
- ...เรื่องของคนนั้น...สำคัญเหลือเกินค่ะ...คนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง...
- กลับมาคงมีงานมาทำอีกมากมายนะคะ...ไม่ลืมแวะเก็บดอกไม้มาฝากเพื่อนๆด้วย..
- โชคดีนะคะ
- คิดถึงเสมอค่ะ
สวัสดีค่ะพี่ติ๋ว
ไม่ได้พบกันนานเลยนะคะ ทั้งๆที่อยู๋ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แสดงว่า มข กว้างมากๆ ...และอีกอย่างช่วงนี้ ชีพจรลงเท้าค่ะ เมื่อวานก็ไป เวียงจันทน์มาค่ะ พรุ่งนี้ไป กาฬสินธ์ วันรุ่งขึ้นไป ร้อยเอ็ด และวันต่อไปก็ไป มหาสารคามค่ะ...
ใช่เลยค่ะพี่ติ๋ว สาเหตุแห่งปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กร ในโลก ปัจจุบันนี้ คือ "คน" ทั้งนั้นค่ะ
กำลังพยายามนั่งคิดค่ะว่าปัญหาที่มีขณะนี้ ไม่ว่า ปัญหาภัยธรรมชาติ ภาคใต้ รัฐบาล พันธมิตร ฯลฯ ล้วนมาจาก "คน" ทั้งนั้นค่ะ
พี่ติ๋วสบายดีนะค่ะ...คิดถึงค่ะ...