ปัญหาการท่องเที่ยวไทย เมื่อเทียบกับเวียดนาม


ปัญหาการท่องเที่ยวไทย เมื่อเทียบกับเวียดนาม

เมื่อวันที่ ๑๘ - ๒๑ มิถุนายน ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปทัศนศึกษาที่ประเทศเวียดนามกับ ทางวิทยาลัยบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กับท่านอาจาย์ที่ปรึกษา และเพื่อนๆ นักศึกษาปริญญาเอกจำนวน ๙ คน (เป็นเลขมงคล) เพื่อศึกษาทางด้านสังคม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว โดยการเดินทางครั้งนี้ ได้ซื้อตั๋วเครื่องบิน ราคาถูก กับโปรแกรมการเดินทางที่เวียดนาม โดยผ่านบริษัทหนุ่มสาวทัวร์ไป นะครับ

สิ่งที่เห็นในเวียดนาม ผมว่าหลายท่านได้ไปมาแล้วน่าจะเข้าใจได้ดี

๑ สินค้าราคาถูก และมีคุณภาพมากกว่าที่มาจากจีน

๒ ความสับสนวุ่นวาย จากการเดินทาง (รถจักรยานยนต์อย่างมาก)

๓ การสร้างเรื่องราวทางการท่องเที่ยว ที่เป็นรูปธรรม

๔ การพูดการจาภาษาต่างๆ ได้ของคนทั่วไป

๕ การใช้เงินตรา ของที่เวียดนาม

 

ในการเดินทางครั้งนี้ ผมได้เดินทางไปสถานท่องเที่ยว ผมอยากสรุปและเปรียบเทียบกับบ้านเราดังนี้อันดับแรก ผมเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยว ที่ฮาลองเบย์(ไม่ใช้ร้านอาหารเวียดนามที่เชียงใหม่นะครับ)

สิ่งที่พบ คือ การเป็นมรดกดโลกทางธรรมชาติการสร้างเส้นทาง (Root) ในการเดินทางได้ดีกว่าบ้านเรา โดยเริ่มจากการนั่งเรื่อ แบบโบราณ เรื่อท่องเที่ยว โดยจะนำชมถ้ำซึ่ง มีการสร้างภาพและแสงในการเล่าเรื่องราวของถ้ำนี้ เมื่อเสร็จแล้วพาไปดุ ที่เพาะ เลี้ยงสัตว์น้ำไว้ให้นักท่องเที่ยวเลือกเพื่อทำอาหาร( ท่านจะต้องทราบราคาก่อนนะครับ เพราะอาหารทะเลสด ราคาพอๆ กับบ้านเรา) หลังจากนั้นก็ไปดูเกาะไก่ชน ที่เป็นจุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวนี้ แล้วเรื่อจะวนกลับเข้าฝั่ง (ขณะเดินทางกลับเข้าฝั่งจะนั่งรับประทานอาหารไปด้วย)

จากการวิเคราะห์ทางเวียดนาม จะทำกระบวนการซื้อขายเบ็ดเสร็จในตัว โดยเฉพาะที่ขายมุก บนเรื่อที่มาทำเครื่องประดับ ต่าง สนราคาดก็ได้แพงนะครับ ราคาใช้ได้นะครับ หากบ้านเราทำบ้างอาจจะเกิดปัญหาว่ามัคคุเทศก์มีส่วนได้เสีย อันนี้ต้องระวังอย่าทำโดยเด็จขาด ส่วนของเขา จะถือเป็นการบริการในเรือ 5555

อันดับสอง การแสดงโชว์ในเวียดนาม ไม่ว่าน้ำพุเต้นระบำ หรือ การแสดงของสิงโตทะเล หรือหุ่นกระบอกนำ ทางเวียดนามเล่าเรื่องได้ดี รวมถึงการนำเสนอ การเชื่อมโยงทำได้ดี แต่ การแสดงทุกอย่างทางเวียดนามได้ใช้ภาษาท้องถิ่นเท่านั้น ทำให้นักท่องเที่ยวจะเข้าใจการแสดงได้จากแผ่นพับเท่านั้น หรือฟังเสียง จากผู้ฟังที่เป้นชาวเวียดนามว่ามีน้ำเสียงอย่างไร เออก็ดีอย่าง ทำให้รู้สึกว่าการท่องเที่ยวเวียดนามไม่จำเป็นต้องง้อจากบุคคลภายนอก เป็นการท่องเที่ยวแบบภายใน (Dometic) ไม่ต้องรอนักท่องเที่ยวจากภายนอก ก็ดีกว่าบ้านเราการท่องเที่ยวต้องรอลุ้นว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยว เท่าไหร่ กี่ สิบล้านคน ทางเวียดนามส่งเสริมการทอ่งเที่ยวภายในมากกว่า ส่วนชาวต่างชาติเที่ยวจะต้องปรับตัวเข้าหาแหล่งท่องเที่ยว ส่วนไทย เอาคนภายในและแหล่งท่องเที่ยวปรับตัวหาลูกค้า นักท่องเที่ยวทำให้เกิดความเสียหายต่ออัตถลักษณ์ ไปนะครับ

อันดับสาม สิ่งที่ค้นพบคือ การที่นักท่องเที่ยวทำให้คนเวียดนามชอบแบมือของทิปจำนวนมาก อาจจะเป็นเพราะค่าเงินเวียดนามดอง ราคาไม่ดี ตอนที่ผมไป อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 บาทแลกได้ 450 เวียดนามดอง แต่พออยู่ไป 1 วันเปลี่ยนเป็น 1 บาทเท่ากับ 500 เวียดนามดอง ส่วน uS dollar อัตรา 1 us dollar เท่ากับ 15000 เวียดนามดอง ฉะนั้น ผู้ให้บริการท่องเที่ยว ไม่ว่าพนักงานยกกระเป๋า คนถีบซิโคล่ (เหมือนสามปั่น) หรือร้านค้าต่างๆ ต้องการเงินทิปที่ไม่ใช่เงินดอง ที่มีมูลค่าน้อย สิ่งที่เกิดขึ้น หากให้ค่าบริการ (Tip) น้อยจะไม่รับต้องการมากๆ อาจจะเป็นเพราะเคยชินกับการที่ฝรั่งให้ทิปมากๆนั้นเองทำให้ทุกคนที่ให้บริการต้องการเสมอ อย่างนี้ต้องระวีงในประเทศไทย ในประเทศไทยพนักงานต่างๆ ไม่เรียกร้องทิป แต่ที่เวียดนามจะเรียกร้องทิป อย่างนี้จะทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเสียไปได้ ต้องระมัดระวังตัวให้ดี

อับดับสี่ ความไร้ระเบียบสู่การเป็นอัตถลักษณ์ ผมนั้งวิเคราะห์อะไรเล่น เมื่อมองการเดินทางไปในเวียดนามสิ่งหนึ่งที่มีกติกาในการใช้ถนนที่เป็นเหมือนจารีต ที่ไม่ใช่กฏหมายคือ "รถใหญ่ต้องหลบรถเล็ก รถเล็กต้องหลบให้จักรยานยนต์ จักรยานยนต์ต้องหลบในคนเดิน" 5555 ถ้าบ้านเราต้องตรงข้าม ผมนั่งดูการจราจรในเวียดนามเหมือนไร้ระเบียบ สัญญารไฟจราจรก็ไม่มี แต่ก้ไม่ชนกัน นี้สิ ต้องบอกว่า ความมีระเบียบในความไร้ระเบียบ หากเอาสัญญารจราจรลงไปอาจจะทำให้รถชนกันได้นะครับ และที่สำคัญในการเดินทางของคนข้ามถนน มีกฏง่ายๆ 3 ข้อ ผมลองมาแล้ว คือเวลาเดินห้ามวิ่ง เวลาเดินห้ามหยุด และสุดท้ายเวลาเดินต้องเดินถึงอีกฝั่งก่อนห้ามหันหลังกลับกลางทาง รถที่ผ่านมาผ่านไปจะหลบเราเอง ผมลองแล้วได้ผลครับ....

อันดับห้า การซื้อของที่ระลึก ผมเป็นคนที่ไม่ชอบต่ออะไร (ราคา) ก็ควรเดินดูหลายๆร้านแล้วค่อยต่อที่เดียว อย่ารีบซื้อ อย่ารีบต่อ นะครับ แลควรคิดว่าของอย่างนี้มีเหมือนกันทุกร้านกรูณา เดินมาก ๆแล้วค่อยซื้อนะครับ เหมือนบ้านเรานะครับ คุณภาพให้คิดว่าเมื่อเทียบกับราคามันก็จะได้เท่านี้ ผมจะสรุปรายการซื้อของให้ฟัง อาจจะแพงก็ได้นะครับ

1 หมวก แบบทหาร(ทำด้วยพลาสติดแข็ว)สีเขียว และแบบกะโล่ สีขาว (ทำด้วยกระดาษอัด)ราคา 1 us dollar

2 หมวกแก็ป สีต่างๆ มีดาวตรงกลางหมวก ราคา 8 ใบ ร้อยบาท

3 เสื้อสีแดง มีดาวสีเหลืองตรงกลาง ราคา ตัวละ 30 บาท หรือ 1 us dollar

4 ที่ชงกาแฟ ราคา 30 บาท (ซื้อได้ที่ห้างสรพสินค้าชั้นบน) หากซื้อตามร้านขายของที่ระลึกจะตกชุดละ 40 -50 บาท

5 ตุ๊กตาชาวเวียดนามราคาตัวละ 30 บาท

6 พวงกุญแจ ราคา 10 อัน 100 บาท

7 ผ้าปิดปากแบบ ปกติ 30 ผืน 100 บาท แบบดี มีดีไซด์ผืนละ 15 บาท

8 กระเป๋าเป้(North Face) ใบละ 300 บาท

9 กระเป๋าผ้าเวียดนาม ที่สีมากๆกับรูปชาวเวียดนาม 3 ใบ 100 บาท

ครับ ผมซื้อมาเท่านี้

 

วันนี้ไว้แค่นี้ก่อนนะครับ

 

หมายเลขบันทึก: 191984เขียนเมื่อ 3 กรกฎาคม 2008 15:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
สุรศักดิ์ มิ่งเจริญพาณิชย์

ผมรับทำทัวร์ เวียดนาม ด้าน นครพนม-มุกดาหาร ไปเวียดนาม กลางและเหนือ คุณภาพดีราคาถูก สนใจติดต่อที่ 08-1262-1564 แฟ็ก-042-523-330

e-mail:[email protected]

สุรศักดิ์ มิ่งเจริญพาณิชย์

ใครต้องการโปรแกรมทัวร์ เวียดนามกลาง ในราคาถูกๆ สำหรับทำกรุปทัวร์ทั้งมือสมัครเล่นและไกด์มืออาชีพ เมล์มาขอได้นะครับ

ผมกำลังจะไป5ถึง10กย.52

ลองไปเที่ยวดู ถ้าโอเคจะชวนคนไปเที่ยวแยะๆ

มีใครจัดทัวร์ ส่งรายละเอียดให้หน่อยจิงับ

ราคา พาหนะ สถานที่เที่ยว อื่นๆ

จัด8แถม1เปล่าครับ แถมจาได้ไปด้วย55

[email protected]

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท