สังคมฐานสติ (Mindfulness’ Base Society) : มนุษย์ยุค “สติ” Generation MIND…

เมื่อมนุษย์ตั้งล้มหายตายจากและพลัดพลาดด้วยเหตุแห่งสงครามโลกครั้งที่สองนั้น มนุษย์ทั้งหลายก็ได้เร่งสืบแพร่ขยายเผ่าพันธุ์เพื่อทดแทนการสูญเสียไปนั้นให้กลับมา

Baby Boomer ยุคแห่งการกำเนิดมนุษย์ มนุษย์มากหน้าหลายตามีโอกาสได้ลืมตาดูก่อน ในครอบครัวหนึ่งอาจจะมีลูกเกินห้า บางครั้งครอบก็มีเกินสิบ
ยุคนี้เป็นยุคคนมาก ทรัพยากรมาก ความเจริญทางวัตถุน้อย จึงทำให้ “กิเลส” น้อยตามไปด้วย
คนที่เกิดและอยู่ในยุคนนี้จิตจึงประภัสสรเพราะกิเลสวนเวียนเข้ามาจรมิได้มาก

แต่เมื่อครั้นเวลาผ่านล่วงไป การพัฒนาการศึกษา การแพทย์และระบบสุขภาวะเพิ่มมากขึ้น อัตราการเกิดของมนุษย์กลับเดินสวนทาง

การคุมกำเนิดก็ดี ความดิ้นรนแล้งแค้นก็ดี ทำให้คนกลับมีความคิดที่ว่าจะต้องมีลูกน้อยแต่ตามสังคมยุค Generation X

แต่นั่นก็เถิด สิบกว่าปีที่ผ่านมานี้สังคมได้ถูกระเบิดออกด้วย “ความรู้คู่กิเลส” ที่ภายนอกมองดูเลิศหรู แต่ถ้าพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วนแล้วกลับเคลือบด้วยยาพิษ
มนุษย์ในยุค Generation Y ที่เกิดมาพร้อมด้วยนโยบายแห่งสุขภาพ (Health Trend) มีความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ต่ำและมีความรู้ความสามารถทางการศึกษา (IQ) สูง

เมื่อ IQ มาผนวกเข้ากับ Health Trend มนุษย์มีสำคัญตนว่าฉลาดด้วยปัญญาทางโลกทั้งหลาย จึงขวนขวายคิด ค้น หา “กิเลส” ของคนที่เริ่มรู้จักรักษาตน รู้จักดูแลสุขภาพ ขุดกิเลสเขา ขุดความวิตกกังวลเขา แล้วแทงเข้าให้ถึงใจเพื่อ “ขาย” สินค้าและให้ได้มาซึ่ง “เงิน”

สังคมฐานความรู้ (Knowledge Base Society) นี้ จึงเป็นโอกาสอันใหญ่หลวงสำหรับคนที่มี IQ ผนวกกับกิเลสอันทะเยอทะยานที่จะขวนขวายหาจุดหาช่องว่างในการห่วงและรักษ์สุขภาพ เพื่อ Take Take Take แล้วก็ Take จากสังคม

แต่ว่าไปแล้วนั่นหาใช่ปัจจัยหลักในการเกิด แล้วนั่นก็มิใช่ฐานหรือรากที่จะขุดขึ้นมาเพื่อแก้ไขไม่ “สติ” นี้เองเป็นปัจจัยหลักและรากฐานที่จะแก้ปัญญานี้ได้อย่างยั่งยืน

มนุษย์ในยุคของสังคมฐานสติ (Mindfulness’ base Society) นี้จึงมีโอกาสที่จะหยุดพ้นบ่วงแห่งทุกข์ที่สุขกระจุกทุกข์กระจายไปได้อย่างมิต้องเหลียวหลังกลับมามอง

แต่...
เจ้า IQ ของคนนี้ก็ยังตามมากระตุ้นกิเลสและตัณหาคนที่วัน ๆ สับสนไปด้วยความรู้ที่ระเบิด (Knowledge Explosion) ออกมาที่มองว่าดูเหมือนดีแต่กลับร้าย

นักธุรกิจ พ่อค้า ก็มาคอยจ้องขายสินค้าแห่งสติ (Mind Goods) บอกเราว่าก่อนคุณจะมีสติคุณต้องทำ (ซื้อ) อันนี้ คุณจะมีสติคุณจะต้องมี (ซื้อ) สิ่งนี้ คุณจะมีสติได้ คุณจะมีความรู้เรื่องสติได้ คุณจะสุขจากสติได้คุณต้องจ่ายเท่านั้นและเท่านี้

เมื่อความรู้สุขภาพทำให้คนตื่นตระหนกหันกลับมารักษาสุขภาพกัน (พักหนึ่ง) แต่ก็ทำให้พ้นทุกข์พบสุขจริงไม่ได้
สังคมแห่งสติก็เจริญเติบโตขึ้นมาโดยคนที่สร้างขึ้นมาเพื่อหลอกเงินคนให้ลุ่มหลงและเมามัวเข้าไปอีก

คนในยุคนี้ (Generation MIND) ขอเพียงแค่มี “ศีล”
ศีลนั้นจะทำให้คนในยุคของสังคมที่เกลื่อนกล่นไปด้วยกิเลสนี้มีสติที่แกร่งกล้าและเป็นสิ่งอันประเสริฐที่เรียกว่า “สัมมาสติ”

สัมมาสติ...สติระลึกชอบในสิ่งที่ถูกต้องมากกว่า “ถูกใจ”

ศีลนี้เองจะทำให้เรามีแรงกายและแรงใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง สามารถเดินทวนกระแสสังคมประชาธิปไตยที่ใคร ๆ ก็เดินตามกิเลสแห่งหัวใจมิต่างอะไรกับการสนตะพาย

สติที่มีศีลกำกับนั้นย่อมเป็นสติที่มีผลมากมีอานิสงส์มาก และสติอันนี้เองที่จะทำให้เราเป็นคนที่สมบูรณ์ เป็นมนุษย์อย่างที่เราสำคัญตนว่าเป็น “สัตว์ประเสริฐ”

ศีลนี้ถึงแม้ว่าดูแล้วจะมีมากมายหลายข้อ แต่ศีลทั้งหมดทั้งปวงนั้นมาหลอมรวมกันอยู่ที่ใจ “รักษาใจของเราให้ดี...”

คนที่มี “ใจดี” ใจย่อมสบาย

คนที่ใจสบายนั้นเป็นคนที่ถ่ายถอนเสียได้ซึ่งความโลภ ความโกรธ ความหลง
ความโลภ ความโกรธ ความหลงนี้เองนำมาซึ่งตัณหาอันเป็นเหตุมูลฐานที่นำมาซึ่ง “ทุกข์”
สติที่มีศีลเป็นฐานนั้นจะพาเราล่วงเสียซึ่งความโลภ ความโกรธ ความหลงนั้นได้ นำเราออกจากเพลิงทุกข์ดั่งห่วงไฟที่เผาไหม้เรามานานแสนนาน

มนุษย์ยุคสติ (Generation MIND) เป็นบุคคลที่มีศีล มีใจหนักแน่นที่สำคัญ เป็นผู้ที่มี “ใจดี ใจสบาย”
มนุษย์ยุคสตินี้...จะเริงร่า แจ่มใส่ด้วยความบริสุทธิ์กายและบริสุทธิ์ใจอยู่เสมอ
มนุษย์ยุคสตินี้... เป็นผู้ที่ให้มากกว่าเป็นผู้รับ
มนุษย์ยุคสตินี้... เป็นผู้ที่มีสติรู้จักความกตัญญู กตเวที ต่อพ่อแม่ บุพการีชน บุคคลอันเป็นที่รักทั้งที่มีชีวิตอยู่และล่วงลับไปแล้ว

มนุษย์ยุคสตินี้เองจึงเป็นมนุษย์ที่มีความสุข “สุขจากความสงบ”
ความสุขใดเล่าจะเหนือความสงบนั้นไม่มี
มนุษย์จะสุขจากความสงบได้ย่อมมีสติระลึกรู้และปฏิบัติได้ สู้ได้ รักษาได้ มีได้ซึ่ง “ศีล”
ศีลจึงเป็นพื้นฐานราก พื้นฐานสำคัญอันที่จะนำเรา “สุข สงบ” ได้
ท่านทั้งหลายโปรดมีสติและมีศีลเถิด...